‘กัมพูชา’ ขึ้นแท่น ‘ศูนย์กลางฉ้อโกงระดับโลก’ รายได้สแกม 4-6 แสนล้าน รัฐบาล‘กัมพูชา’ เอี่ยวรายได้ผิดกฎหมาย?



ในรายงาน “Policies and Patterns: State-Abetted Transnational Crime in Cambodia as a Global Security Threat” ซึ่งเขียนโดย “เจคอบ ซิมส์” (Jacob Sims) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติและความมั่นคงในภูมิภาค

ได้เปิดเผยว่า “กัมพูชา” กำลังกลายเป็น “ศูนย์กลางของเศรษฐกิจการหลอกลวง” ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยมี “กลุ่มอาชญากรจีน” เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งขนาดของกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย กำลังคุกคามเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก และกำลังเติบโตอย่างเฟื่องฟูผ่านการทุจริตที่ดูเหมือนถูกเพิกเฉยจากรัฐ


รัฐบาลเอี่ยวรายได้ผิดกฎหมาย?


ในประเทศอย่าง “กัมพูชา” ที่จมปลักอยู่กับการทุจริตมาอย่างยาวนาน และรั้งท้ายในดัชนีธรรมาภิบาลโลก บุคคลสำคัญจาก “พรรคประชาชนกัมพูชา” (Cambodian People's Party - CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล มีความเชื่อมโยงกับ “รายได้ผิดกฎหมาย” มานานหลายทศวรรษ ตั้งแต่การลักลอบขนของผิดกฎหมาย การตัดไม้ทำลายป่า การทำเหมือง และการยึดครองที่ดินโดยมิชอบ


สำหรับประเด็นนี้ “นีล ลอฟลิน” (Niel Loughlin) อาจารย์อาวุโสสาขาการเมืองจาก City, University of London และเป็นผู้เขียนหนังสือ “The Politics of Coercion: State and Regime making in Cambodia” (การเมืองแห่งการบีบบังคับ: การสร้างรัฐและระบอบการปกครองในกัมพูชา)


ให้รายละเอียดว่า การที่พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) รวบอำนาจมาตลอดสี่ทศวรรษนั้น ได้รับการค้ำจุนโดยระบบอุปถัมภ์ ที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งปันผลประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ถูกอาชญากรเข้าครอบงำ


ลอฟลินเผยว่า “ความสำเร็จของพรรค CPP มาจากการที่พรรคสามารถจัดสรรทรัพยากรและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงการปราบปรามผู้เห็นต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง"


“การดำเนินการเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ ‘ฮุน เซน’ (อดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนาน) ซึ่งเงินที่ได้มา ถูกนำไปใช้เพื่อซื้อความจงรักภักดีของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ทำให้หน่วยงานเหล่านี้ กลายเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกของพรรคในปัจจุบัน”


ในกลุ่มพวกนี้ มีนักธุรกิจใหญ่หลายคน เช่น “ตรัย เพียบ” (Try Pheap) ผู้ที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตร และ “ลี ยง พัฒน์” (Ly Yong Phat) วุฒิสมาชิกจากพรรคประชาชนกัมพูชา และเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของทั้ง ฮุน เซน และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน โดยลี ยง พัฒน์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาคารที่ใช้ฉ้อโกงทางไซเบอร์ และธุรกิจการพนันออนไลน์ในจังหวัด “อุดรมีชัย” และ “เกาะกง” ในกัมพูชา


นอกจากนี้ ยังมีมหาเศรษฐีกัมพูชา เช่น “ก๊ก อาน” (Kok An) วุฒิสมาชิกพรรค CPP ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารธุรกิจหลอกลวงหลายแห่งใน “ปอยเปต” และ “สีหนุวิลล์” และยังเป็นคนใกล้ชิดกับฮุน เซนมาอย่างยาวนานอีกด้วย


ขณะเดียวกัน การสืบสวนของหลายหน่วยงานและนักวิเคราะห์ด้านบล็อกเชนระบุว่า แพลตฟอร์ม Huione Guarantee ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงพนมเปญ และเพิ่งเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น “Haowang” เป็นหนึ่งในตลาดออนไลน์ผิดกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้เกิดการฉ้อโกงทางไซเบอร์ในอาเซียน


สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)  ระบุว่า แพลตฟอร์มนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาจีน มีผู้ใช้งานเกือบ 1 ล้านคน ผู้ค้าที่เชื่อมโยงกันหลายพันราย และมีตลาดฟอรัมดิจิทัล การพนันออนไลน์ และบริการฟอกเงินเกี่ยวข้อง ที่น่าตกใจ คือ มีการตรวจสอบพบเงินกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 7.8 แสนล้านบาทไหลเวียนผ่านแพลตฟอร์มนี้ตั้งแต่ปี 2022


“งานวิจัยเผยให้เห็นว่า ฮุน โต ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ ฮุน มาเนต ดำรงตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการบริษัท Huione” ซิมส์กล่าว “บันทึกสาธารณะยังเปิดเผยว่า ซาร์ สกคา (Sar Sokha) ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา เป็นผู้ร่วมลงทุนในการก่อสร้างหนึ่งในอาณาจักรธุรกิจหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุด และฉาวโฉ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ”


เนื่องจากรายงานชิ้นนี้ค่อนข้างยาว จึงคัดมเพียงบางส่วน อ่านฉบับเต้มได้ที่
‘กัมพูชา’ ขึ้นแท่น ‘ศูนย์กลางฉ้อโกงระดับโลก’ รายได้สแกมแซงอุตสาหกรรมหลักประเทศ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่