ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง หรือย่อว่า PSG ได้คว้าแชมเปี้ยนลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยชัยชนะต่ออินเตอร์ มิลาน 5-0
ชัยชนะครั้งนี้มาจากการวางแผนอันยอดเยี่ยมของ "หลุยส์ เอ็นริเก้" ที่ปิดจุดแข็งของอินเตอร์ มิลานทุกทาง
ก่อนจะเข้าเรื่องแผนการเล่นอยากบอกว่าใน "ลีกเอิง" ของฝรั่งเศส PSG มีทีมที่ใหญ่มากจนพักตัวหลักได้อย่างสบาย
ตัวหลักในนัดชิง ลงเล่นในลีกเป็น 11 คนแรกแค่คนละ 20 กว่านัดเอง ความฟิตต่างจากอินเตอร์ที่ลงติดๆกันมหาศาล
ตารางกว่าใครลงกี่นัดในลีกเอิง จะเห็นว่า PSG พักตัวหลักได้ตลอด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป้อนข้อความ
แผนการเล่น 4-3-3
เริ่มจากแนวรุก 3 คน
เบอร์ 10. อุสมาน เดมเบเล่ ลงต่ำมาคอยเชื่อมเกม และทำเกมให้กับทีม เขามีผลงานทุกรอบใน UCL ไม่ว่ายิงหรือจ่าย
สถิติใน UCL ลงเล่น 15 นัด ยิง 8 จ่าย 6
เบอร์ 7. ครารัตสเคเลีย ปีกที่จ่ายก็ได้ยิงก็ดี เล่นได้ทั้ง 2 ฝั่ง ย้ายมาเดือนมกราคม 2025 จากนาโปลี
เบอร์ 14. ดูเอ้ ดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 19 ปี มีความเร็วสูง ย้ายจาก "แรนส์" ช่วงต้นฤดูกาล 2024/25
เบอร์ 29. บาร์โคล่า กองหน้าตัวหลักที่ลงเล่นมากสุดในลีก แต่เป็นสำรองนัดชิง UCL
เบอร์ 19. ลี คัง อิง กองกลางตัวรุกลากเลื้อยดี ชาวเกาหลีใต้ เป็นตัวหมุนเวียนในลีก ตัวจริง 19 นัดในลีก
เบอร์ 9. รามอส กองหน้าตัวเป้าทีมชาติโปรตุเกส หาต่ำแหน่งดี แต่ไม่คม
โดย PSG ใช้ 3 จาก 6 คนนี้หมุนเวียนเล่นทุกรายการ 1 คนลงต่ำเชื่อมเกม อีก 2 คนยืนสูงคอยเล่นจังหวะสุดท้ายเข้ากรอบเขตโทษ
หา Fullmatch ได้แต่เกมใหญ่เลยไม่รู้ว่านอกจาก "เดมเบเล่" ใครทำหน้าที่เชื่อมเกมอีก ขอประทานอภัย
กลาง 3 คน
เบอร์ 17. วิตินญ่า กลางคุมเกม คอยออกบอลให้เพื่อนเล่นง่าย จ่ายสองลูกสุดเฉียบนำไปสู่สองประตูในนัดชิง
เบอร์ 87. ซูเอา เนเวส กองกลางที่วิ่งช่วยทั้งเกมรุกและรับ คอยปิดพื้นที่เมื่อ "ฮาคิมี่" เติมขึ้นไปสูง
เบอร์ 8. ฟาเบียน รุยซ์ กองกลางที่คอยขึ้นหน้าไปเป็นตัวเลือกจ่ายบอลอีกคนในแดนหน้า และคอยไล่แย่งบอล
สามคนนี้คอยเล่นประสานกันทำให้แดนกลาง PSG แข็งแกร่งมาก
หลัง 4 คน
เบอร์ 2 ฮาคิมี่ เติมเกมรุก อีก 3 คนยืนเหมือนกองหลัง 3 ตัว
ผู้รักษาประตู : ดอนนารุมม่า จอมเซฟจุดโทษ กลับมาเล่นดีมากสุดๆช่วงหลัง ช่วงต้นฤดูกาลโดยวิจารณ์อยู่เยอะ
แผนรับมืออินเตอร์ มิลาน
1. ดูเอ้ ประสานงานกับ ฮาคิมี่ เล่นงาน "ดิมาร์โก" ที่เกมรับแย่แบบไม่หยุดพัก
2. เมนเดส ประกบติด "ดุมฟรีส" ไม่ให้เล่นง่าย
3. มาร์กินญอส ประกบ "เลาตาโร่ มาร์ติเนซ" ไม่ให้เชื่อมบอลกับเพื่อนอย่างที่ถนัดได้
ข้อ 1-3 ทำให้เกมรุกอินเตอร์ดับสนิท ทำอะไรไม่ได้เลย ตูราม พลิกบอลได้แต่ก็ไม่มีเพื่อนให้ต่อบอลได้สะดวก
ข้อ 4 เนเวส กับ รุยซ์ ใช้ความฟิตที่มีมากกว่าไล่บี้กลาง 3 คนของอินเตอร์ที่อ่อนล้าสะสมจนทำอะไรไม่ได้
เมื่อตัวออกบอลอย่าง "ฮาคาน ซัลฮาโนลู" หมดสภาพ อินเตอร์ก็หมดทางสู้โดยสมบูรณ์
สภาพความฟิตมันต่างกันเกินไป ผู้เล่น PSG อยากพักในลีกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของ "อินเตอร์ มิลาน" ช่วงเมษายนมันหมดไปแล้ว
แต่ "อินเตอร์ มิลาน" ก็ใช้แรงก็อกสุดท้ายกับ "บาร์เซโลน่า" ที่หมดเหมือนกัน จนเข้าชิงมาได้
มันไม่ "น่าอาย" หรือ "อัปยศ" หรอก กับโปรแกรมการแข่งที่เยอะขนาดนี้ ลงแข่งขันถึง 59 นัด โดยไม่มีตัวให้หมุนเยอะเท่า PSG
ประทับใจที่ "ฮาคิมี่" ไม่ดีใจตอนยิง 1-0 เพราะเคยอยู่ "อินเตอร์ มิลาน" มาก่อน
[UCL] แผนการเล่น & ข้อได้เปรียบของ PSG นัดชิง 2025
ชัยชนะครั้งนี้มาจากการวางแผนอันยอดเยี่ยมของ "หลุยส์ เอ็นริเก้" ที่ปิดจุดแข็งของอินเตอร์ มิลานทุกทาง
ก่อนจะเข้าเรื่องแผนการเล่นอยากบอกว่าใน "ลีกเอิง" ของฝรั่งเศส PSG มีทีมที่ใหญ่มากจนพักตัวหลักได้อย่างสบาย
ตัวหลักในนัดชิง ลงเล่นในลีกเป็น 11 คนแรกแค่คนละ 20 กว่านัดเอง ความฟิตต่างจากอินเตอร์ที่ลงติดๆกันมหาศาล
ตารางกว่าใครลงกี่นัดในลีกเอิง จะเห็นว่า PSG พักตัวหลักได้ตลอด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แผนการเล่น 4-3-3
เริ่มจากแนวรุก 3 คน
เบอร์ 10. อุสมาน เดมเบเล่ ลงต่ำมาคอยเชื่อมเกม และทำเกมให้กับทีม เขามีผลงานทุกรอบใน UCL ไม่ว่ายิงหรือจ่าย
สถิติใน UCL ลงเล่น 15 นัด ยิง 8 จ่าย 6
เบอร์ 7. ครารัตสเคเลีย ปีกที่จ่ายก็ได้ยิงก็ดี เล่นได้ทั้ง 2 ฝั่ง ย้ายมาเดือนมกราคม 2025 จากนาโปลี
เบอร์ 14. ดูเอ้ ดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 19 ปี มีความเร็วสูง ย้ายจาก "แรนส์" ช่วงต้นฤดูกาล 2024/25
เบอร์ 29. บาร์โคล่า กองหน้าตัวหลักที่ลงเล่นมากสุดในลีก แต่เป็นสำรองนัดชิง UCL
เบอร์ 19. ลี คัง อิง กองกลางตัวรุกลากเลื้อยดี ชาวเกาหลีใต้ เป็นตัวหมุนเวียนในลีก ตัวจริง 19 นัดในลีก
เบอร์ 9. รามอส กองหน้าตัวเป้าทีมชาติโปรตุเกส หาต่ำแหน่งดี แต่ไม่คม
โดย PSG ใช้ 3 จาก 6 คนนี้หมุนเวียนเล่นทุกรายการ 1 คนลงต่ำเชื่อมเกม อีก 2 คนยืนสูงคอยเล่นจังหวะสุดท้ายเข้ากรอบเขตโทษ
หา Fullmatch ได้แต่เกมใหญ่เลยไม่รู้ว่านอกจาก "เดมเบเล่" ใครทำหน้าที่เชื่อมเกมอีก ขอประทานอภัย
กลาง 3 คน
เบอร์ 17. วิตินญ่า กลางคุมเกม คอยออกบอลให้เพื่อนเล่นง่าย จ่ายสองลูกสุดเฉียบนำไปสู่สองประตูในนัดชิง
เบอร์ 87. ซูเอา เนเวส กองกลางที่วิ่งช่วยทั้งเกมรุกและรับ คอยปิดพื้นที่เมื่อ "ฮาคิมี่" เติมขึ้นไปสูง
เบอร์ 8. ฟาเบียน รุยซ์ กองกลางที่คอยขึ้นหน้าไปเป็นตัวเลือกจ่ายบอลอีกคนในแดนหน้า และคอยไล่แย่งบอล
สามคนนี้คอยเล่นประสานกันทำให้แดนกลาง PSG แข็งแกร่งมาก
หลัง 4 คน
เบอร์ 2 ฮาคิมี่ เติมเกมรุก อีก 3 คนยืนเหมือนกองหลัง 3 ตัว
ผู้รักษาประตู : ดอนนารุมม่า จอมเซฟจุดโทษ กลับมาเล่นดีมากสุดๆช่วงหลัง ช่วงต้นฤดูกาลโดยวิจารณ์อยู่เยอะ
แผนรับมืออินเตอร์ มิลาน
1. ดูเอ้ ประสานงานกับ ฮาคิมี่ เล่นงาน "ดิมาร์โก" ที่เกมรับแย่แบบไม่หยุดพัก
2. เมนเดส ประกบติด "ดุมฟรีส" ไม่ให้เล่นง่าย
3. มาร์กินญอส ประกบ "เลาตาโร่ มาร์ติเนซ" ไม่ให้เชื่อมบอลกับเพื่อนอย่างที่ถนัดได้
ข้อ 1-3 ทำให้เกมรุกอินเตอร์ดับสนิท ทำอะไรไม่ได้เลย ตูราม พลิกบอลได้แต่ก็ไม่มีเพื่อนให้ต่อบอลได้สะดวก
ข้อ 4 เนเวส กับ รุยซ์ ใช้ความฟิตที่มีมากกว่าไล่บี้กลาง 3 คนของอินเตอร์ที่อ่อนล้าสะสมจนทำอะไรไม่ได้
เมื่อตัวออกบอลอย่าง "ฮาคาน ซัลฮาโนลู" หมดสภาพ อินเตอร์ก็หมดทางสู้โดยสมบูรณ์
สภาพความฟิตมันต่างกันเกินไป ผู้เล่น PSG อยากพักในลีกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของ "อินเตอร์ มิลาน" ช่วงเมษายนมันหมดไปแล้ว
แต่ "อินเตอร์ มิลาน" ก็ใช้แรงก็อกสุดท้ายกับ "บาร์เซโลน่า" ที่หมดเหมือนกัน จนเข้าชิงมาได้
มันไม่ "น่าอาย" หรือ "อัปยศ" หรอก กับโปรแกรมการแข่งที่เยอะขนาดนี้ ลงแข่งขันถึง 59 นัด โดยไม่มีตัวให้หมุนเยอะเท่า PSG
ประทับใจที่ "ฮาคิมี่" ไม่ดีใจตอนยิง 1-0 เพราะเคยอยู่ "อินเตอร์ มิลาน" มาก่อน