ตามหัวข้อครับ เป็นเรื่องสมมติ โรนัลโด้ R9 มาเกิดในฟุตบอลยุคปัจจุบัน ที่แทคติคฟุตบอลพัฒนาขึ้นมากๆ
เมื่อต้องเจอศูนย์หน้าประเภทความเร็วสูง แล้วทำไมต้องดันไลน์กองหลังขึ้นสูงล่ะ
ก็เล่นแผนโหลดต่ำ บังประตูให้มากที่สุด ตั้งแต่กองกลางจนถึงกองหลังแน่นๆ ซะ
ไม่ให้มีพื้นที่วิ่ง พื้นที่กระชากบอล ทิ้งกองหน้าความเร็วสูงไว้สวนกลับคนเดียวพอ
ถ้าเป็นยุคปัจจุบันก็คงเป็นแผนกองหลัง 3
ในสูตร 3 - 4 - 2 - 1 เซ็นเตอร์ 3 แบ็ค 2 กลางรับ 2 กลางรุก 2 แผนเดียวกับ รูเบน อโมริม
.
ซึ่ง พอเป็นแบบนั้นก็หมายความว่า พื้นที่หน้าปากประตูจนถึงกรอบเขตโทษก็จะแน่นไปหมด
ซึ่งหมายความว่าเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเป็นไฮไลท์
จังหวะกระชากบอลสวยๆ ตั้งแต่กลางสนามหรือเลยครึ่งสนามมานิดนึงก็จะไม่มี
ซึ่งหมายความว่า R9 ทำได้แค่เดินไป มันง่ายกว่า ไม่เหนื่อย ไม่เสี่ยงบาดเจ็บด้วย
เต็มที่ก็มีให้เห็นไม่เกินฤดูกาลละ 5 ครั้ง เพราะเจอทีมแบบหมูไม่กลัวน้ำร้องดันไลน์กองหลังเปิดเกมส์รุกเข้าสู้ และไม่ใช่ว่าทุกครั้งจะเป็นประตู
.
เทียบกับศูนย์หน้าในยุคสมัยนี้ ต้องเล่นในพื้นที่จำกัดได้ดีและเล่นในบทบาทที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นพักบอลในแดนหน้าแบบศูนย์หน้าตัวเป้า ลงต่ำมาล้วงบอลทำเกมส์ หรือเข้าชาร์จบอลหน้าประตูหรือโหม่งบอล
ซึ่งถ้าเป็นตามสไตล์ข้างต้น คนที่เด่นด้านนี้ก็มี
ดิดิเย ดร็อกบา เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซลาตัน แฮรี่ เคน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี CR7 คาริม เบนเซม่า
ข้างต้นทำได้ดีกว่าเวลาเจอทีมขี้อุดโดยเฉพาะ แฮรี่ เคน ที่เป็นศูนย์หน้าที่สมบูรณ์แบบเหนือกว่า โรนัลโด้ R9 ในด้านนี้ชัดเจนมาก
.
เลยอยากชวนคุย ถ้าโรนัลโด้ R9 มาเกิดในยุคนี้ ที่เขาจะไม่มีจังหวะกระชากสวยๆ จะยังโด่งดัง มีชื่อเสียงอยู่อีกไหม ในเมื่อสปีดใช้ไม่ได้แล้ว
หากโรนัลโด้ R9 มาเกิดในยุคนี้ ที่กองหลังมหาอุด จะยังโด่งดัง มีชื่อเสียงอยู่ไหม
เมื่อต้องเจอศูนย์หน้าประเภทความเร็วสูง แล้วทำไมต้องดันไลน์กองหลังขึ้นสูงล่ะ
ก็เล่นแผนโหลดต่ำ บังประตูให้มากที่สุด ตั้งแต่กองกลางจนถึงกองหลังแน่นๆ ซะ
ไม่ให้มีพื้นที่วิ่ง พื้นที่กระชากบอล ทิ้งกองหน้าความเร็วสูงไว้สวนกลับคนเดียวพอ
ถ้าเป็นยุคปัจจุบันก็คงเป็นแผนกองหลัง 3
ในสูตร 3 - 4 - 2 - 1 เซ็นเตอร์ 3 แบ็ค 2 กลางรับ 2 กลางรุก 2 แผนเดียวกับ รูเบน อโมริม
.
ซึ่ง พอเป็นแบบนั้นก็หมายความว่า พื้นที่หน้าปากประตูจนถึงกรอบเขตโทษก็จะแน่นไปหมด
ซึ่งหมายความว่าเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเป็นไฮไลท์
จังหวะกระชากบอลสวยๆ ตั้งแต่กลางสนามหรือเลยครึ่งสนามมานิดนึงก็จะไม่มี
ซึ่งหมายความว่า R9 ทำได้แค่เดินไป มันง่ายกว่า ไม่เหนื่อย ไม่เสี่ยงบาดเจ็บด้วย
เต็มที่ก็มีให้เห็นไม่เกินฤดูกาลละ 5 ครั้ง เพราะเจอทีมแบบหมูไม่กลัวน้ำร้องดันไลน์กองหลังเปิดเกมส์รุกเข้าสู้ และไม่ใช่ว่าทุกครั้งจะเป็นประตู
.
เทียบกับศูนย์หน้าในยุคสมัยนี้ ต้องเล่นในพื้นที่จำกัดได้ดีและเล่นในบทบาทที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นพักบอลในแดนหน้าแบบศูนย์หน้าตัวเป้า ลงต่ำมาล้วงบอลทำเกมส์ หรือเข้าชาร์จบอลหน้าประตูหรือโหม่งบอล
ซึ่งถ้าเป็นตามสไตล์ข้างต้น คนที่เด่นด้านนี้ก็มี
ดิดิเย ดร็อกบา เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซลาตัน แฮรี่ เคน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี CR7 คาริม เบนเซม่า
ข้างต้นทำได้ดีกว่าเวลาเจอทีมขี้อุดโดยเฉพาะ แฮรี่ เคน ที่เป็นศูนย์หน้าที่สมบูรณ์แบบเหนือกว่า โรนัลโด้ R9 ในด้านนี้ชัดเจนมาก
.
เลยอยากชวนคุย ถ้าโรนัลโด้ R9 มาเกิดในยุคนี้ ที่เขาจะไม่มีจังหวะกระชากสวยๆ จะยังโด่งดัง มีชื่อเสียงอยู่อีกไหม ในเมื่อสปีดใช้ไม่ได้แล้ว