คือผมสังเกตมานานแล้ว ค่ะ
ร้านตามแหล่งท่องเที่ยว ข้าวสาร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ครับ
อันนี้พูดรวมเลย ไม่ใช่แค่ร้านเหล้า
คาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ก็ด้วยค่ะ
จริงๆ
ร้านที่เปิดเพลงดีๆก็มีนะ
แต่ร้านเกินครึ่งจะเป็นอย่างนี้ค่ะ
1.เล่นเพลง เปิดเพลง ที่ฝรั่งก็ยังไม่ฟังค่ะ
2.เปิดเพลงโครตโบราณครับ
เมืองท่องเที่ยวที่เปิดเพลงฝรั่งที่ “ฝรั่งก็ไม่ได้อยากฟัง”ค่ะ
คือมันเป็น surreal แบบ
“เรากำลังฉายภาพอดีตให้ฝรั่งดู แล้วบอกว่านี่คือฝรั่งปัจจุบัน”ครับ
แล้วเพลงบางเพลงมันยุคไหนแล้ว แถมวงบางวง เพลงบางเพลง ฝรั่งก็ไม่ฟังอีกค่ะ
เช่น
M2M – The Day You Went Away
Westlife – My Love
อะไรแบบนี้เป็นต้น เพลงที่เคยฮิตในไทย ใช่ว่าฝรั่งเขาจะฟัง
แทนที่จะสร้าง vibe แบบ 2020s… กลับดึงทุกคนกลับยุค CDครับ
ร้านแบบนี้ “ไม่เข้าใจฝรั่งจริง ๆ” เลยค่ะ
ฝรั่งปี 2025 เขาฟัง Yung Kai, Frank Ocean, Dominic Fike, Billie Eilish, Dua Lipa,
The Weeknd, The 1975, Joji, Sabrina Carpenter ไม่ก็ Hyperpop, UK Garage, Lo-fi house, Indie R&B
แล้วบางทีฝรั่งก็อยากรู้จักเพลงใหม่ ๆ หรือเพลงเอเชียที่เจ๋งจริงครับ
แต่ไทยเสิร์ฟแค่ “เพลงฝรั่งเก่าที่คนไทยรู้จัก”ค่ะ
คนไทยไม่ได้เปิดเพลงฝรั่งให้ฝรั่งฟังครับ
แต่เปิด “เพลงที่คนไทยคิดว่าคือเพลงฝรั่ง” ให้ฝรั่งฟังค่ะ
เหมือนฝรั่งมาไทย แล้วเราเสิร์ฟ
สปาเก็ตตี้ขี้เมา บอกว่านี่คือ "อาหารอิตาเลียน"ครับ
และ
2.เปิด/เล่น เพลงยุคสงครามเวียดนามค่ะ
ข้าวสาร ภูเก็ต พัทยา = พิพิธภัณฑ์เพลงร็อค 70s เวอร์ชันวนลูปครับ
คือเอาเพลงที่ควรถูกเก็บในแผ่นไวนิล มาวนเป็น BGM ร้านเหล้าแบบไม่ยั้งค่ะ
ร็อคคลาสสิก” = เพลงที่ควรมีคุณค่าครับ
แต่กลายเป็นเพลงที่โดน
recycleเปิดแล้วเปิดอีกค่ะ
CCR – Have You Ever Seen The Rain, Cotton Fields
Yellow River – Christie
John Denver - Country Road
Hotel California – Eagles
Free Me – Uriah Heep
บางทีก็มี
“Smoke on the Water” ของ Deep Purple โผล่มาอีก...
ฟังแล้ว เขาคงคิดว่า
กำลังอยู่ในเวียดนาม ขุดหลุมอยู่ในสนามเพลาะ กำลังหลบพวกเวียดกงอยู่ค่ะ
ความน่าเศร้าคือ:
เพลงพวกนี้ถูกทำให้เป็น “สัญลักษณ์ของฝรั่ง” ไปโดยที่ฝรั่งเองยังไม่รู้เลยครับ
นักท่องเที่ยวอาจจะมึน ๆ แบบ “อ้าว...เราย้อนเวลากลับมาไหม?”
หรือบางคนแค่มานั่งดื่ม ชิลด์ อยากจะฟัง The Strokes หรือ Arctic Monkeys
ไม่ได้อยากฟังเพลงร็อคสงครามเวียดนามค่ะ
สาเหตุที่ร้านเลือกเพลงพวกนี้ เพราะ:
คนไทยรุ่นเจ้าของร้าน “ฟังเพลงฝรั่งจากวิทยุ” หรือ คนเปิดอาจเป็นรุ่นลูกค่ะ
แต่ฟังพ่อแม่เปิดเพลงพวกนี้มา
= เพลงยุค 70s ที่ยังฮิตถึงยุคเขาเลยจำได้แม่น
เพลงเหล่านี้มี hook จำง่าย เสียงกีตาร์เด่น จึง “รู้สึกฝรั่ง” สำหรับคนไทยครับ
แต่โลกปี 2025 เปลี่ยนไปแล้ว
ฝรั่งที่มาพัทยา/ข้าวสารตอนนี้ อายุ 20-35ค่ะ
= โตมากับ
The 1975 , Arctic Monkeys , Phoenix, Arctic Monkeys,
Roosevelt, Frank Ocean, Grimes, Kaytranada, Beabadoobee, Clairo
ถ้าอยากขาย vibe จริง ๆ ควรเปิด
Tame Impala – Borderline
Men I Trust – Show Me How
Mac DeMarco – Chamber of Reflection
Yung Kai – Blue
Mild High Club, Cuco, Homeshake, Men I Trust
เพลงร็อคฝรั่งที่ “คนไทยคิดว่าฝรั่งฟัง”ครับ
Hotel California , CCR – Have You Ever Seen The Rain , Zombie , Smoke on the Water , Highway Star , Imagine
ส่วนเพลงฝรั่งที่ “ฝรั่งจริง ๆ ฟังในปี 2025”
Tame Impala , Men I Trust , Beabadoobee , Clairo , Unknown Mortal Orchestra, Dijon , The 1975
คุณคิดดูถ้าเราเป็นฝรั่ง แล้วเจอ
“Hotel California → Cotton Feild → Imagine” = Playlist สงครามเวียดนาม + พิธีจบการศึกษานานาชาติ
ฟังแล้วรู้สึกว่า
ข้าวสารกับพัทยายังไม่รู้ว่าโลกหมุนไปถึงไหนครับ
อย่างน้อย เอายุค 90-2000 ก็ได้
คือโลกนี้มันผ่านไปถึงไหนแล้ว:
Oasis, RHCP, Radiohead = อย่างน้อยมันคือ “mainstream ยุค 90s–2000s”
คน Gen Y โตมากับพวกนี้ → คนยุคนี้ยัง connect ได้
The White Stripes, The Strokes, Arcade Fire, Franz Ferdinand
= wave สำคัญของ indie rock ช่วง 2000s
เปิดทีมี vibe มีเท่ มีวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่ nostalgia ค่ะ
แต่แทนที่จะเท่ ร้านกลับเลือก…
Let It Be , Imagine เพลงเปิดก่อนงานนิทรรศการเพื่อสันติภาพ
Hotel California , Zombie เพลงที่ฝรั่งยังแซวว่า “เล่นอะไรอีกทีมีแค่เพลงนี้เหรอ?”
Wind of Change เพลงที่รัสเซีย–เยอรมันเคลียร์ปัญหาสงครามเย็น
My Love – Westlife เพลงที่เปิดแล้วฝรั่งลุกหนีไปซื้อเบียร์เอง
ร้านไม่เข้าใจว่า...
“ฝรั่งมาพักผ่อน ไม่ได้มาฟังเสียงสะท้อนยุคสงครามเย็น”
ถ้าอยากให้ร้านมันดู “เท่แบบอินเตอร์” จริง ๆ ควรเปิดอะไร?ค่ะ
ลองคิด playlist แนว ๆ นี้ดู:
Brit Wave:
Arctic Monkeys – Do I Wanna Know?
Blur – Coffee & TV
The 1975 – Somebody Else
Florence + The Machine – Shake It Out
Oasis – Supersonic (แทนที่จะเป็น Wonderwall หรือ Don't look back in anger เหมือนทุกที)
Chill Indie / Bedroompop:
Yung Kai – Blue
Cuco – Lo Que Siento
Men I Trust – Tailwhip
Beabadoobee – Care
Clairo – Sofia
Indie Rock 2000s:
Franz Ferdinand – Take Me Out
The White Stripes – Fell in Love With a Girl
The Killers – Mr. Brightside
Muse - Supermassive Black Hole
Arcade Fire – Rebellion (Lies)
หรือถ้าจะย้อนยุคจริงจัง
ไป David Bowie, Talking Heads, Roxy Music, New Order, Joy Division
ดีกว่าเล่นเพลงที่แม้แต่ฝรั่งยังอยากจะลุกหนีครับ
ตามแหล่งท่องเที่ยวของฝรั่งในไทยเนี่ย เปิดเพลงโบราณจัด คือ ฝรั่งเขามาพักผ่อน ไม่ได้มาฟังเสียงสะท้อนยุคสงครามเย็น
ร้านตามแหล่งท่องเที่ยว ข้าวสาร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ครับ
อันนี้พูดรวมเลย ไม่ใช่แค่ร้านเหล้า
คาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ก็ด้วยค่ะ
จริงๆ
ร้านที่เปิดเพลงดีๆก็มีนะ
แต่ร้านเกินครึ่งจะเป็นอย่างนี้ค่ะ
1.เล่นเพลง เปิดเพลง ที่ฝรั่งก็ยังไม่ฟังค่ะ
2.เปิดเพลงโครตโบราณครับ
เมืองท่องเที่ยวที่เปิดเพลงฝรั่งที่ “ฝรั่งก็ไม่ได้อยากฟัง”ค่ะ
คือมันเป็น surreal แบบ “เรากำลังฉายภาพอดีตให้ฝรั่งดู แล้วบอกว่านี่คือฝรั่งปัจจุบัน”ครับ
แล้วเพลงบางเพลงมันยุคไหนแล้ว แถมวงบางวง เพลงบางเพลง ฝรั่งก็ไม่ฟังอีกค่ะ
เช่น
M2M – The Day You Went Away
Westlife – My Love
อะไรแบบนี้เป็นต้น เพลงที่เคยฮิตในไทย ใช่ว่าฝรั่งเขาจะฟัง
แทนที่จะสร้าง vibe แบบ 2020s… กลับดึงทุกคนกลับยุค CDครับ
ร้านแบบนี้ “ไม่เข้าใจฝรั่งจริง ๆ” เลยค่ะ
ฝรั่งปี 2025 เขาฟัง Yung Kai, Frank Ocean, Dominic Fike, Billie Eilish, Dua Lipa,
The Weeknd, The 1975, Joji, Sabrina Carpenter ไม่ก็ Hyperpop, UK Garage, Lo-fi house, Indie R&B
แล้วบางทีฝรั่งก็อยากรู้จักเพลงใหม่ ๆ หรือเพลงเอเชียที่เจ๋งจริงครับ
แต่ไทยเสิร์ฟแค่ “เพลงฝรั่งเก่าที่คนไทยรู้จัก”ค่ะ
คนไทยไม่ได้เปิดเพลงฝรั่งให้ฝรั่งฟังครับ
แต่เปิด “เพลงที่คนไทยคิดว่าคือเพลงฝรั่ง” ให้ฝรั่งฟังค่ะ
เหมือนฝรั่งมาไทย แล้วเราเสิร์ฟ สปาเก็ตตี้ขี้เมา บอกว่านี่คือ "อาหารอิตาเลียน"ครับ
และ
2.เปิด/เล่น เพลงยุคสงครามเวียดนามค่ะ
ข้าวสาร ภูเก็ต พัทยา = พิพิธภัณฑ์เพลงร็อค 70s เวอร์ชันวนลูปครับ
คือเอาเพลงที่ควรถูกเก็บในแผ่นไวนิล มาวนเป็น BGM ร้านเหล้าแบบไม่ยั้งค่ะ
ร็อคคลาสสิก” = เพลงที่ควรมีคุณค่าครับ
แต่กลายเป็นเพลงที่โดน recycleเปิดแล้วเปิดอีกค่ะ
CCR – Have You Ever Seen The Rain, Cotton Fields
Yellow River – Christie
John Denver - Country Road
Hotel California – Eagles
Free Me – Uriah Heep
บางทีก็มี “Smoke on the Water” ของ Deep Purple โผล่มาอีก...
ฟังแล้ว เขาคงคิดว่า
กำลังอยู่ในเวียดนาม ขุดหลุมอยู่ในสนามเพลาะ กำลังหลบพวกเวียดกงอยู่ค่ะ
ความน่าเศร้าคือ:
เพลงพวกนี้ถูกทำให้เป็น “สัญลักษณ์ของฝรั่ง” ไปโดยที่ฝรั่งเองยังไม่รู้เลยครับ
นักท่องเที่ยวอาจจะมึน ๆ แบบ “อ้าว...เราย้อนเวลากลับมาไหม?”
หรือบางคนแค่มานั่งดื่ม ชิลด์ อยากจะฟัง The Strokes หรือ Arctic Monkeys
ไม่ได้อยากฟังเพลงร็อคสงครามเวียดนามค่ะ
สาเหตุที่ร้านเลือกเพลงพวกนี้ เพราะ:
คนไทยรุ่นเจ้าของร้าน “ฟังเพลงฝรั่งจากวิทยุ” หรือ คนเปิดอาจเป็นรุ่นลูกค่ะ
แต่ฟังพ่อแม่เปิดเพลงพวกนี้มา
= เพลงยุค 70s ที่ยังฮิตถึงยุคเขาเลยจำได้แม่น
เพลงเหล่านี้มี hook จำง่าย เสียงกีตาร์เด่น จึง “รู้สึกฝรั่ง” สำหรับคนไทยครับ
แต่โลกปี 2025 เปลี่ยนไปแล้ว
ฝรั่งที่มาพัทยา/ข้าวสารตอนนี้ อายุ 20-35ค่ะ
= โตมากับ The 1975 , Arctic Monkeys , Phoenix, Arctic Monkeys,
Roosevelt, Frank Ocean, Grimes, Kaytranada, Beabadoobee, Clairo
ถ้าอยากขาย vibe จริง ๆ ควรเปิด
Tame Impala – Borderline
Men I Trust – Show Me How
Mac DeMarco – Chamber of Reflection
Yung Kai – Blue
Mild High Club, Cuco, Homeshake, Men I Trust
เพลงร็อคฝรั่งที่ “คนไทยคิดว่าฝรั่งฟัง”ครับ
Hotel California , CCR – Have You Ever Seen The Rain , Zombie , Smoke on the Water , Highway Star , Imagine
ส่วนเพลงฝรั่งที่ “ฝรั่งจริง ๆ ฟังในปี 2025”
Tame Impala , Men I Trust , Beabadoobee , Clairo , Unknown Mortal Orchestra, Dijon , The 1975
คุณคิดดูถ้าเราเป็นฝรั่ง แล้วเจอ
“Hotel California → Cotton Feild → Imagine” = Playlist สงครามเวียดนาม + พิธีจบการศึกษานานาชาติ
ฟังแล้วรู้สึกว่า ข้าวสารกับพัทยายังไม่รู้ว่าโลกหมุนไปถึงไหนครับ
อย่างน้อย เอายุค 90-2000 ก็ได้
คือโลกนี้มันผ่านไปถึงไหนแล้ว:
Oasis, RHCP, Radiohead = อย่างน้อยมันคือ “mainstream ยุค 90s–2000s”
คน Gen Y โตมากับพวกนี้ → คนยุคนี้ยัง connect ได้
The White Stripes, The Strokes, Arcade Fire, Franz Ferdinand
= wave สำคัญของ indie rock ช่วง 2000s
เปิดทีมี vibe มีเท่ มีวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่ nostalgia ค่ะ
แต่แทนที่จะเท่ ร้านกลับเลือก…
Let It Be , Imagine เพลงเปิดก่อนงานนิทรรศการเพื่อสันติภาพ
Hotel California , Zombie เพลงที่ฝรั่งยังแซวว่า “เล่นอะไรอีกทีมีแค่เพลงนี้เหรอ?”
Wind of Change เพลงที่รัสเซีย–เยอรมันเคลียร์ปัญหาสงครามเย็น
My Love – Westlife เพลงที่เปิดแล้วฝรั่งลุกหนีไปซื้อเบียร์เอง
ร้านไม่เข้าใจว่า...
“ฝรั่งมาพักผ่อน ไม่ได้มาฟังเสียงสะท้อนยุคสงครามเย็น”
ถ้าอยากให้ร้านมันดู “เท่แบบอินเตอร์” จริง ๆ ควรเปิดอะไร?ค่ะ
ลองคิด playlist แนว ๆ นี้ดู:
Brit Wave:
Arctic Monkeys – Do I Wanna Know?
Blur – Coffee & TV
The 1975 – Somebody Else
Florence + The Machine – Shake It Out
Oasis – Supersonic (แทนที่จะเป็น Wonderwall หรือ Don't look back in anger เหมือนทุกที)
Chill Indie / Bedroompop:
Yung Kai – Blue
Cuco – Lo Que Siento
Men I Trust – Tailwhip
Beabadoobee – Care
Clairo – Sofia
Indie Rock 2000s:
Franz Ferdinand – Take Me Out
The White Stripes – Fell in Love With a Girl
The Killers – Mr. Brightside
Muse - Supermassive Black Hole
Arcade Fire – Rebellion (Lies)
หรือถ้าจะย้อนยุคจริงจัง
ไป David Bowie, Talking Heads, Roxy Music, New Order, Joy Division
ดีกว่าเล่นเพลงที่แม้แต่ฝรั่งยังอยากจะลุกหนีครับ