บทที่ 2 ถ้าเกิดอยากให้มีเรื่องไหนบอกได้นะครับเรื่องจะไปทางไหนจะเล่าพาร์ทโนบิตะต่อหรือจะต่อรุ่นลูกถ้าอยากรู้ก็ comment ได

แน่นอนครับ! ต่อจากตอนที่โนบิตะเริ่มจะสอนลูกชายทำดาบ ผมจะเขียนให้อย่างมีอารมณ์ และสอดแทรก “ตำนานของดาบทั้งสี่เล่ม” ลงท้ายเพื่อสร้างกลิ่นอายแบบนิยายมหากาพย์ญี่ปุ่น ผสมความอบอุ่นของครอบครัวและความยิ่งใหญ่ของศิลปะดาบ


---

ตอนที่ 2: เงาไฟในใจของลูกชาย

แสงจากเตาไฟสีส้มสะท้อนใบหน้าของเด็กชายผู้หนึ่ง
เขาสวมผ้าคาดหัวลายคลื่นแบบโบราณ มือจับค้อนขนาดเล็กแน่น
และยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อของเขา — ชายผู้เป็นตำนานแห่งเหล็ก

> “ลูกต้องเคารพเหล็กก่อนตีเสมอ... เพราะมันมีชีวิตของมันเอง”



โนบิตะกล่าวกับเสียงไฟที่แตกเปรี๊ยะ

โดราเอมอนยืนอยู่มุมห้อง ส่งบันทึกเสียงทั้งหมดเข้าสู่ฐานข้อมูลศิลปะดาบแห่งญี่ปุ่น
ส่วนชิซูกะนั้น ยืนมองจากประตู ยิ้มเบา ๆ เหมือนย้อนนึกไปถึงโนบิตะในวัยเด็กที่เคยกลัวค้อน เหงื่อแตกทุกครั้งที่เผาดาบ

> แต่ตอนนี้...
เขาคือพ่อผู้กลายเป็นตำนาน
และลูกของเขา... กำลังจะเป็น “บทต่อไป” ของตำนานนั้น




---

คำทำนายจากอามาเทราสึ

ก่อนเริ่มตีดาบเล่มแรกของลูกชาย
โนบิตะเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าเทพเจ้าม้าแห่งรังสิต” ที่เขาเคยถวายดาบให้ในอดีต
ในคืนเดือนเต็ม ดวงจันทร์ส่องเหนือศาล และเงาสะท้อนในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เผย “ร่างสตรีในชุดขาว” ยืนอยู่

นั่นคือ “อามาเทราสึ” เทพีแห่งแสงสว่าง และผู้ที่มองเห็นจิตของผู้ตีดาบ

> “ดาบเล่มนี้ จะไม่ใช่แค่ปกป้องลูกของเจ้า...
แต่มันจะปกป้องโลก ที่ลูกของเจ้าต้องเผชิญในอนาคต”




---

ตำนานแห่งดาบทั้งสี่

1. "มุไร" (未来) – ดาบแห่งอนาคต

ดาบเล่มนี้ถูกตีขึ้นด้วยเหล็ก “ทามาฮากาเนะ” ที่นำมาจากภูเขาในชิมาเนะ
มันถูกเผาต่อเนื่อง 7 วัน 7 คืนในเตาไฟที่ไม่ได้ดับเลย
โนบิตะลงมือขัดมันเองทุกเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

ดาบนี้เป็นมรดกของลูกชาย
คมของมันสะท้อนแสงคล้ายฟ้าหลังฝน
และสลักไว้ด้วยคำเพียงคำเดียวที่ลูกเขาเขียนเองตอนอายุ 5 ขวบ:

> “ขอบคุณพ่อ”



มันคือดาบที่ไม่มีมูลค่าในตลาด
แต่มูลค่าสูงสุดในหัวใจ


---

2. "โคคุโจ" (黒城) – ดาบสีดำแห่งสำนักทาเคชิ

นี่คือดาบที่โนบิตะมอบให้ ไจแอนท์
ตีจากเหล็กดำที่หายาก และใช้ “น้ำหมึกโบราณจากเกียวโต” ชุบในขั้นสุดท้าย

> “เจ้าจะไม่ต้องเป็นเงาของข้าอีกต่อไป โคคุโจคือชื่อของเจ้าในสนามรบ”
โนบิตะบอกไจแอนท์ในคืนที่มอบดาบ



ไจแอนท์ร้องไห้เงียบ ๆ ครั้งแรกในชีวิต
ดาบนี้ยังคงถูกใช้ฝึกสอนในสำนัก
มันคือดาบที่แข็งแกร่ง... และอ่อนโยนที่สุดในญี่ปุ่น


---

3. "คิรินโนะฮิ" (麒麟の陽) – ดาบแห่งจักรพรรดิ

ตีขึ้นตามคำขอของราชสำนัก
โนบิตะใช้เวลาถึง 5 ปีเต็ม กว่าจะตัดสินใจเริ่มต้น
เขาขอพรกับอามาเทราสึ ขอแสงจาก “ม้ามังกรในตำนาน”
และได้ฝันเห็น “ม้าสีทองวิ่งข้ามหิมะ”

> นั่นคือแรงบันดาลใจให้ตั้งชื่อดาบนี้ว่า “แสงแห่งกิริน”



คิรินโนะฮิ ถูกเก็บไว้ในพระราชวัง เป็นดาบที่ไม่มีใครแตะต้อง
มีเพียงพิธีสำคัญเท่านั้นที่จักรพรรดิจะประคองดาบนี้


---

4. "ชิเอน" (紫炎) – ดาบที่ฟัน AI

ในปีที่ 27 ของยุคเรวะ
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เปิดตัว AI ช่างตีดาบอัจฉริยะ
มันสามารถออกแบบดาบผ่านข้อมูลพันปี คำนวนความสมดุลและตีเสร็จใน 24 ชั่วโมง

ผู้คนพากันหลงใหล
และเริ่มกล่าวว่า “ศิลปะดาบมนุษย์... ตายแล้ว”

โนบิตะจึงเงียบหายไป 1 ปีเต็ม
จากนั้นกลับมาพร้อมดาบที่ใช้เทคนิค “ชุบขอบเปลวม่วง” — ซึ่งไม่มีใครในยุคสมัยนี้ทำได้อีกแล้ว

เขาตั้งชื่อดาบนั้นว่า “ชิเอน” — เปลวเพลิงสีม่วง

เขาท้าแข่งกับ AI ต่อหน้าคนทั้งประเทศ
เมื่อเป่าขลุ่ยทดสอบเสียงคลื่นคม... ดาบของ AI สั่นเบา ๆ
แต่ ชิเอน เงียบ... ราวกับมิติสูญหายไปชั่วขณะ

> “มนุษย์ไม่ได้ตีดาบด้วยตรรกะ... แต่ตีด้วยจิต”
โนบิตะกล่าว หลังดาบ AI แตกในพริบตา




---

ทิ้งท้าย

ในยามเย็น วันหนึ่ง
โนบิตะเดินไปที่โรงตีดาบพร้อมลูกชาย

> “ลูกอยากตีดาบเพื่ออะไร?”



เด็กชายตอบทันทีโดยไม่ลังเล

> “เพื่อตอบแทนคนที่ผมรักครับ”



โนบิตะเงียบ แล้วพยักหน้า
ไฟจากเตาค่อย ๆ ลุกขึ้นอีกครั้ง

> มันคือเปลวไฟ... แห่งคนรุ่นใหม่
ที่ถือค้อนของตำนานในมือ
และมีหัวใจของพ่ออยู่ในดาบทุกเล่มที่เขาจะตีต่อไป




---

หากคุณต้องการให้ผมเขียนตอนต่อ เช่น...

ศึกระหว่างโรงตีดาบมนุษย์กับกลุ่ม AI ระดับโลก

เรื่องของซูเนโอะที่อยากเป็นช่างตีดาบด้วยแต่จิตใจยังไม่พร้อม

ความลับของอามาเทราสึกับอดีตของโนบิตะ


ก็บอกมาได้เลยนะครับ ผมยินดีเขียนต่อในแนวนี้ให้ ❤️
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่