สวัสดี เพื่อนสมาชิกพันทิปทุกท่านค่ะ สืบเนื่องจากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/43407687 แชร์ประสบการณ์ตรวจปอดกับ IOM
ตอนนี้เราได้รับวีซ่านักเรียน UK เรียบร้อยแล้ว บวกกับตอนก่อนที่เราจะไปทำวีซ่า หาอ่านรีวิวที่เป็นปัจจุบันไม่ค่อยได้ และได้ยินมาว่าเงื่อนไขการทำวีซ่านักเรียน UK เปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ทำวีซ่านักเรียน UK ที่อัปเดต (พ.ค. 2025) ค่ะ
ขอออกตัวก่อนว่าเราใช้ agency ในการกรอกข้อมูลให้นะคะ ทาง agency ก็จะมีไฟล์ word มาให้เรากรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลนี้ไปใส่ให้เราในระบบ ของ gov.uk เพื่อขอวีซ่าอีกทีค่ะ และข้อมูลพื้นฐานของเรา คือ ไปเรียนปริญญาโท ระยะเวลา 1 ปีค่ะ
การกรอกข้อมูลในระบบ gov.uk
ขั้นตอนที่ 1 เนื่องจากเราเป็น student visa ขอให้เพื่อนๆ ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับ student visa ตามลิ้งค์นี้ก่อนได้เลยค่ะ ว่าเราเข้าข่ายเป็น student visa หรือไม่
https://www.gov.uk/student-visa
ขั้นตอนที่ 2 หากตรงตามเงื่อนไขที่จะขอ student visa แล้ว ก็ไปกรอกข้อมูล apply online ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ
https://www.gov.uk/student-visa/apply-online
ขั้นตอนที่ 3 แล้วก็ตอบคำถามตามหน้าจอไปเรื่อยๆนะคะ จะไปส่วนไหนของ UK มีพาสปอร์ต EU/EEA/Swiss หรือไม่ จะเก็บ biometrics (การถ่ายรูปกับเก็บลายนิ้วมือ) ที่ประเทศใด สามารถเก็บ biometrics ได้ในประเทศที่เลือกหรือไม่ แล้วก็จะมีให้สร้าง account ก็ให้ใส่อีเมลและพาสเวิร์ดไปค่ะ จดไว้ด้วยนะคะ กันลืม ;) แล้วก็กด apply now ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 ก่อนที่เราจะลงมือกรอกข้อมูลต่างๆ นั้น ควรจะต้องมีเอกสาร 1) passport (เล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า) 2) CAS Number ที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้อยู่ในมือด้วยนะคะ
ขั้นตอนที่ 5 กด start new application ได้เลยนะคะ แล้วก็กรอกข้อมูลตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ค่ะ กรอกให้ตรงกับความเป็นจริง และเอกสารที่เราจะยื่นนะคะ เช่น การเดินทางในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็ควรจะต้องกรอกให้ตรงกับความเป็นจริงที่มีหลักฐานในพาสปอร์ต แล้วเวลาสแกนเอกสารเข้าไปในระบบก็ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่กรอกใน application form ด้วยนะคะ
เช็คข้อมูลทุกอย่างให้ถูกต้อง ก่อนกด submit นะคะ เพราะเราจะเข้าไปแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว
ขั้นตอนที่ 6 หลังจากนั้นก็จ่ายเงินค่า Immigration Health Surcharge (IHS) ค่ะ โดยนักเรียนต่างชาติที่เดินทางไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรระยะเวลานานกว่า 6 เดือนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมนี้ค่ะ เพื่อรับบริการด้านสุขภาพหากเราเจ็บป่วยขึ้นมา (หากใครไปเรียนภาษา หรือเรียนคอร์สอื่นที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือน ก็อาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป) โดยระบบก็จะคำนวณเป็นเงินบาทมาให้เลย ซึ่งคาดว่าน่าจะรวมทุกอย่างแล้ว (ค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน) เราก็ใช้บัตรเครดิตจ่ายไปได้เลยค่ะ ของเรา คือ ยอด 52XXX บาท ณ วันที่ 8 พ.ค. 2568 คิดเป็นเงินปอนด์ คือ 1164 ปอนด์ เราจะจ่ายเท่าไร ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราอาศัยอยู่ใน UK นะคะ
ขั้นตอนที่ 7 ต่อมาก็จ่ายค่าธรรมเนียม student visa ค่ะ ของเรา คือ ยอด 23XXX บาท ณ วันที่ 8 พ.ค. 2568 คิดเป็นเงินปอนด์ คือ 524 ปอนด์
ขั้นตอนที่ 8 พอจ่ายเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ครบหมดแล้ว ระบบก็จะพาเราไปที่หน้าสุดท้ายค่ะ คือ further actions ก็จะมีกิจกรรม 3 อย่างให้เราทำ คือ
1) ให้เราดาวน์โหลด checklist ออกมา ใน checklist ก็จะมีบอกว่าเราจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อไปให้ vfs (เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่า UK ค่ะ) ในวันที่เรายื่นวีซ่าค่ะ สำหรับเราแล้ว checklist ก็จะมี passport อย่างเดียวค่ะ คิดว่านักเรียนไทยก็น่าจะเป็นแบบนี้หมดค่ะ ไม่ได้จำเป็นต้องยื่นเอกสารอะไรเพิ่มเติมค่ะ
2) ให้เช็คว่าต้องตรวจปอดเพื่อหาวัณโรคหรือไม่ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่อยุ่ในลิสต์ที่ต้องไปตรวจปอดค่ะ
3) การไปถ่ายรูปและเก็บลายนิ้วมือ หากเราคลิกลิ้งค์นี้ มันก็จะลิ้งค์ไปยังเว็บไซต์ของ vfs เพื่อให้เราทำการนัดหมาย และเลือกซื้อบริการต่างๆ ค่ะ
การนัดหมายวันที่จะเข้าไปยื่นวีซ่าที่ vfs
ขั้นตอนที่ 9 พอมาที่เว็บไซต์ของ vfs แล้ว ก็จะมีให้เรานัดหมายวันต่างๆ จะเลือกแบบ standard หรือ premium ก็ได้แล้วแต่สะดวกค่ะ ส่วนตัวเราเลือก standard สแกน+อัปโหลดเอกสารเอง และไปรับเล่มคืนเอง เลยไม่ได้ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ หากต้องการบริการเพิ่มเติมให้ทางศูนย์ vfs สแกน+อัปโหลดเอกสารให้ก็จ่ายเงินเพิ่ม 800 บาท หรือต้องการให้ส่งเล่มคืนทางไปรษณีย์ก็จ่ายเพิ่ม 400 บาท ยังมีบริการอื่นๆอีก สามารถดูรายละเอียดในเว็บ vfs ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 10 หลังจากนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะส่งอีเมลมาให้เพื่อยืนยันวันนัดหมาย จะมี qr code อยู่นะคะ
ขั้นตอนที่ 11 เตรียมเอกสารต่างๆ เพื่ออัปโหลดเข้าระบบด้วยตัวเองล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันนัดหมาย แม้ว่า checklist จะบอกว่าไม่ขอเอกสารอะไรเพิ่มเติมนอกจาก passport แต่เราก็ต้องอัปโหลด supporting documents เข้าระบบเอาไว้ค่ะ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเราเอง เจ้าหน้าที่จะได้ไม่มีข้อกังขาเอกสารที่เราอัปโหลดเข้าระบบไป มีดังนี้ค่ะ (เราทำสำเนาเอกสารเหล่านี้ไว้อีก 2 ชุด เผื่อไปด้วยในวันยื่นวีซ่าค่ะ และนำเอกสารตัวจริงติดตัวไปด้วยค่ะ เผื่อสแกนแล้วมีปัญหา)
กลุ่ม proof of application
1) appointment letter ที่ได้จาก vfs
2) ฟอร์มที่สมัครวีซ่า
3) payment confirmation ที่จ่ายค่าวีซ่า และ IHS (save pdf จากอีเมลได้เลย)
4) checklist documents (ที่บอกว่าให้นำแค่ passport ไป)
กลุ่ม proof of identity/travel history
5) บัตรประชาชน
6) passport เล่มปัจจุบันที่สแกนหน้าที่มีตราประทับทุกหน้า (ต้องนำสำเนาหน้าแรกไปด้วย 1 ชุด เพราะตอนที่ยื่นวีซ่า เจ้าหน้าที่จะเขียนและเซ็นลงสำเนา เพื่อให้เรามายื่นตอนรับเล่มคืนค่ะ)
7) passport เล่มเก่าที่มีการเดินทางที่กรอกไว้ในระบบขอวีซ่า
กลุ่ม other
8) CAS Number
กลุ่ม educational evidence
9) transcript
10) ใบปริญญา
11) ผล IELTS
กลุ่ม financial evidence
12) statement ของบัญชีที่มีเงินฝากเอาไว้ หรือเอกสารหลักฐานรับรองว่าได้รับทุนจากหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน
กลุ่ม medical information
13) ใบสีเหลือง UK Pre-departure TB การตรวจปอดจาก IOM
ขั้นตอนที่ 12 หลังจากที่เราอัปโหลดเอกสารต่างๆ เข้าระบบแล้ว เราก็จะได้รับอีเมลยืนยันจาก vfs ค่ะ ว่ามีเอกสารอะไรบ้าง ให้ปริ้นท์เอกสาร appointment confirmation นี้ไปด้วยนะคะ เพราะวันที่เราไปยื่นวีซ่า เจ้าหน้าที่หน้าประตูจะขอดูและสแกน qr code ตรวจสอบค่ะ
วันยื่นวีซ่าที่ vfs
ขั้นตอนที่ 13 เราเลือกยื่นวีซ่าที่ vfs กรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ที่ The Shoppes Grand Rama 9 @ Belle นะคะ มีที่จอดรถค่ะ 1 ชั่วโมงแรกจอดฟรี แต่สามารถใช้ใบเสร็จจากการทำวีซ่าเพื่อสแตมป์บัตรจอดรถได้เพิ่ม รวมแล้วเป็น 3 ชั่วโมงค่ะ หรือจะนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพระราม 9 ก็ได้ เห็นว่าทาง The Shoppes มีรถกอล์ฟไว้คอยบริการด้วยค่ะ เรานัดหมายไว้ตอน 9.40 น. ไม่ควรไปก่อนนานค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จะให้เข้าไปข้างในตามรอบเวลาที่นัดมาเป๊ะๆ เลย
ขั้นตอนที่ 14 พอถึงรอบเวลาของเรา เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ยืนต่อแถวค่ะ มีคนมาสแกน qr code จากเอกสาร appointment confirmation แล้วก็ยื่นใบนี้ให้อีกคนที่นั่งโต๊ะอยู่ ถามว่าจะมารับเอง ส่งไปรษณีย์ หรือมีคนมารับแทน และต้องการ notification ทาง sms หรือไม่ (เสียเงินเพิ่ม) หลังจากนั้นก็นำสัมภาระและตัวเองผ่านเครื่องสแกน
ขั้นตอนที่ 15 เข้าไปด้านในก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ passport และให้บัตรคิวมา จะแจ้งว่าให้ไปรอที่หน้าห้องหมายเลขใดบ้าง ดูคิวของเราผ่านหน้าจอว่าจะให้ไปที่ห้องไหน ด้านในเป็นสัดเป็นส่วนมาก แต่ละคนมีห้องของตัวเอง ไม่ใช่ partition กั้น
ขั้นตอนที่ 16 เข้าไปในห้องก็จะพบกับเจ้าหน้าที่ ยื่นเอกสารกระดาษที่เราอัปโหลดเข้าระบบแล้วให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะถามว่าเอกสารเหล่านี้อัปโหลดมาแล้วใช่ไหม แค่นี้เลยค่ะ แล้วเค้าก็ยื่นเอกสารกลับคืนมาให้เรา หลังจากนั้นก็ถ่ายรูป เก็บลายนิ้วมือ ออกใบเสร็จให้ ตรวจสอบชื่อนามสกุลให้เรียบร้อย แล้วก็ลงชื่อค่ะ เจ้าหน้าที่จะเย็บใบเสร็จและสำเนาหน้าแรกของ passport เรา ยื่นคืนให้เราและแจ้งว่ารอผล 3 สัปดาห์ กระบวนการทั้งหมดที่เรายื่นวีซ่าไม่ถึง 15 นาทีค่ะ ก่อน 10 โมง เราก็ออกมาข้างนอกแล้ว
ขั้นตอนที่ 17 จะมีอีเมลส่งมาหลายฉบับแจ้งเราว่า 1) ตอนนี้ได้ยื่นวีซ่าที่ vfs แล้ว 2) ส่งไปยัง UKVI เพื่อพิจารณาแล้ว เราก็รอผลอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ว่าจะได้วีซ่าหรือไม่
ขั้นตอนที่ 18 1 วันผ่านไป เราได้รับผลวีซ่าแล้วค่ะ เป็นอีเมลจาก NoReply.UKVisaDecisions@fcdos.gov.uk ตอนแรกนึกว่าเป็น scam เพราะมันเร็วเกินไปมาก แจ้งผลว่าเราได้รับวีซ่านักเรียนแล้ว ให้รอการติดต่อกลับจาก vfs เพื่อไปรับเล่ม passport คืนค่ะ
รับเล่ม passport คืน
ขั้นตอนที่ 19 เมื่อเราได้รับอีเมลจาก vfs แจ้งว่าให้ไปรับพาสปอร์ตคืนได้ ก็กลับไปที่เดิมค่ะ The Shoppes Grand Rama 9 @ Belle จะมีเคาน์เตอร์สำหรับรับเล่มคืนด้านหน้าเลย ยื่นเอกสารที่เจ้าหน้าที่ให้เรามาเมื่อตอนยื่นวีซ่า เราได้รับวีซ่าเรียบร้อยค่ะ แต่วีซ่าที่ได้นี้เป็นเพียง UK Entry Clearance เพื่อที่จะเดินทางเข้า UK เราจะต้องไปดำเนินการต่อในระบบเพื่อที่จะได้รับ eVisa อีกทีตามรายละเอียดในอีเมลที่ UKVisaDecisions ส่งมาค่ะ
ขอเรียงลำดับไทม์ไลน์การขอวีซ่าค่ะ
8 พ.ค. 68 กรอกข้อมูลในใบสมัครวีซ่า+นัดหมายยื่นวีซ่า
22 พ.ค. 68 ไปยื่นวีซ่าที่ The Shoppes Grand Rama 9 @ Belle
23 พ.ค. 68 ได้รับผลวีซ่าทางอีเมล
โดยส่วนตัว คิดว่าตอนนี้น่าจะพิจารณาเร็ว เพราะว่ายังไม่ใช่ช่วงพีค หากใครพร้อมแล้วก็สามารถยื่นได้เลยนะคะ คาดว่าน่าจะพิจารณาเร็วเหมือนเราค่ะ หากไปยื่นช่วงพีคๆ ก.ค. ส.ค. อาจจะได้รับวีซ่าช้า และอาจไม่ทันกับวันที่จะเดินทางไปเรียนค่ะ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจนะคะ หากมีรายละเอียดที่พลาดไป ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ หรือหากมีท่านใดอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งข้อความมาหลังไมค์ได้เลยค่ะ ยินดีตอบทุกคำถาม (ที่ตอบได้) นะคะ
สวัสดีค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ ทำวีซ่านักเรียน UK (พ.ค. 2025)
ตอนนี้เราได้รับวีซ่านักเรียน UK เรียบร้อยแล้ว บวกกับตอนก่อนที่เราจะไปทำวีซ่า หาอ่านรีวิวที่เป็นปัจจุบันไม่ค่อยได้ และได้ยินมาว่าเงื่อนไขการทำวีซ่านักเรียน UK เปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ทำวีซ่านักเรียน UK ที่อัปเดต (พ.ค. 2025) ค่ะ
ขอออกตัวก่อนว่าเราใช้ agency ในการกรอกข้อมูลให้นะคะ ทาง agency ก็จะมีไฟล์ word มาให้เรากรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลนี้ไปใส่ให้เราในระบบ ของ gov.uk เพื่อขอวีซ่าอีกทีค่ะ และข้อมูลพื้นฐานของเรา คือ ไปเรียนปริญญาโท ระยะเวลา 1 ปีค่ะ
การกรอกข้อมูลในระบบ gov.uk
ขั้นตอนที่ 1 เนื่องจากเราเป็น student visa ขอให้เพื่อนๆ ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับ student visa ตามลิ้งค์นี้ก่อนได้เลยค่ะ ว่าเราเข้าข่ายเป็น student visa หรือไม่ https://www.gov.uk/student-visa
ขั้นตอนที่ 2 หากตรงตามเงื่อนไขที่จะขอ student visa แล้ว ก็ไปกรอกข้อมูล apply online ตามลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ https://www.gov.uk/student-visa/apply-online
ขั้นตอนที่ 3 แล้วก็ตอบคำถามตามหน้าจอไปเรื่อยๆนะคะ จะไปส่วนไหนของ UK มีพาสปอร์ต EU/EEA/Swiss หรือไม่ จะเก็บ biometrics (การถ่ายรูปกับเก็บลายนิ้วมือ) ที่ประเทศใด สามารถเก็บ biometrics ได้ในประเทศที่เลือกหรือไม่ แล้วก็จะมีให้สร้าง account ก็ให้ใส่อีเมลและพาสเวิร์ดไปค่ะ จดไว้ด้วยนะคะ กันลืม ;) แล้วก็กด apply now ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 ก่อนที่เราจะลงมือกรอกข้อมูลต่างๆ นั้น ควรจะต้องมีเอกสาร 1) passport (เล่มปัจจุบัน และเล่มเก่า) 2) CAS Number ที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้อยู่ในมือด้วยนะคะ
ขั้นตอนที่ 5 กด start new application ได้เลยนะคะ แล้วก็กรอกข้อมูลตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ค่ะ กรอกให้ตรงกับความเป็นจริง และเอกสารที่เราจะยื่นนะคะ เช่น การเดินทางในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็ควรจะต้องกรอกให้ตรงกับความเป็นจริงที่มีหลักฐานในพาสปอร์ต แล้วเวลาสแกนเอกสารเข้าไปในระบบก็ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่กรอกใน application form ด้วยนะคะ เช็คข้อมูลทุกอย่างให้ถูกต้อง ก่อนกด submit นะคะ เพราะเราจะเข้าไปแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว
ขั้นตอนที่ 6 หลังจากนั้นก็จ่ายเงินค่า Immigration Health Surcharge (IHS) ค่ะ โดยนักเรียนต่างชาติที่เดินทางไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรระยะเวลานานกว่า 6 เดือนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมนี้ค่ะ เพื่อรับบริการด้านสุขภาพหากเราเจ็บป่วยขึ้นมา (หากใครไปเรียนภาษา หรือเรียนคอร์สอื่นที่มีระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือน ก็อาจจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป) โดยระบบก็จะคำนวณเป็นเงินบาทมาให้เลย ซึ่งคาดว่าน่าจะรวมทุกอย่างแล้ว (ค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน) เราก็ใช้บัตรเครดิตจ่ายไปได้เลยค่ะ ของเรา คือ ยอด 52XXX บาท ณ วันที่ 8 พ.ค. 2568 คิดเป็นเงินปอนด์ คือ 1164 ปอนด์ เราจะจ่ายเท่าไร ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราอาศัยอยู่ใน UK นะคะ
ขั้นตอนที่ 7 ต่อมาก็จ่ายค่าธรรมเนียม student visa ค่ะ ของเรา คือ ยอด 23XXX บาท ณ วันที่ 8 พ.ค. 2568 คิดเป็นเงินปอนด์ คือ 524 ปอนด์
ขั้นตอนที่ 8 พอจ่ายเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ครบหมดแล้ว ระบบก็จะพาเราไปที่หน้าสุดท้ายค่ะ คือ further actions ก็จะมีกิจกรรม 3 อย่างให้เราทำ คือ
1) ให้เราดาวน์โหลด checklist ออกมา ใน checklist ก็จะมีบอกว่าเราจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อไปให้ vfs (เป็นบริษัทที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่า UK ค่ะ) ในวันที่เรายื่นวีซ่าค่ะ สำหรับเราแล้ว checklist ก็จะมี passport อย่างเดียวค่ะ คิดว่านักเรียนไทยก็น่าจะเป็นแบบนี้หมดค่ะ ไม่ได้จำเป็นต้องยื่นเอกสารอะไรเพิ่มเติมค่ะ
2) ให้เช็คว่าต้องตรวจปอดเพื่อหาวัณโรคหรือไม่ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่อยุ่ในลิสต์ที่ต้องไปตรวจปอดค่ะ
3) การไปถ่ายรูปและเก็บลายนิ้วมือ หากเราคลิกลิ้งค์นี้ มันก็จะลิ้งค์ไปยังเว็บไซต์ของ vfs เพื่อให้เราทำการนัดหมาย และเลือกซื้อบริการต่างๆ ค่ะ
การนัดหมายวันที่จะเข้าไปยื่นวีซ่าที่ vfs
ขั้นตอนที่ 9 พอมาที่เว็บไซต์ของ vfs แล้ว ก็จะมีให้เรานัดหมายวันต่างๆ จะเลือกแบบ standard หรือ premium ก็ได้แล้วแต่สะดวกค่ะ ส่วนตัวเราเลือก standard สแกน+อัปโหลดเอกสารเอง และไปรับเล่มคืนเอง เลยไม่ได้ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ หากต้องการบริการเพิ่มเติมให้ทางศูนย์ vfs สแกน+อัปโหลดเอกสารให้ก็จ่ายเงินเพิ่ม 800 บาท หรือต้องการให้ส่งเล่มคืนทางไปรษณีย์ก็จ่ายเพิ่ม 400 บาท ยังมีบริการอื่นๆอีก สามารถดูรายละเอียดในเว็บ vfs ได้เลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 10 หลังจากนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะส่งอีเมลมาให้เพื่อยืนยันวันนัดหมาย จะมี qr code อยู่นะคะ
ขั้นตอนที่ 11 เตรียมเอกสารต่างๆ เพื่ออัปโหลดเข้าระบบด้วยตัวเองล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันนัดหมาย แม้ว่า checklist จะบอกว่าไม่ขอเอกสารอะไรเพิ่มเติมนอกจาก passport แต่เราก็ต้องอัปโหลด supporting documents เข้าระบบเอาไว้ค่ะ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเราเอง เจ้าหน้าที่จะได้ไม่มีข้อกังขาเอกสารที่เราอัปโหลดเข้าระบบไป มีดังนี้ค่ะ (เราทำสำเนาเอกสารเหล่านี้ไว้อีก 2 ชุด เผื่อไปด้วยในวันยื่นวีซ่าค่ะ และนำเอกสารตัวจริงติดตัวไปด้วยค่ะ เผื่อสแกนแล้วมีปัญหา)
กลุ่ม proof of application
1) appointment letter ที่ได้จาก vfs
2) ฟอร์มที่สมัครวีซ่า
3) payment confirmation ที่จ่ายค่าวีซ่า และ IHS (save pdf จากอีเมลได้เลย)
4) checklist documents (ที่บอกว่าให้นำแค่ passport ไป)
กลุ่ม proof of identity/travel history
5) บัตรประชาชน
6) passport เล่มปัจจุบันที่สแกนหน้าที่มีตราประทับทุกหน้า (ต้องนำสำเนาหน้าแรกไปด้วย 1 ชุด เพราะตอนที่ยื่นวีซ่า เจ้าหน้าที่จะเขียนและเซ็นลงสำเนา เพื่อให้เรามายื่นตอนรับเล่มคืนค่ะ)
7) passport เล่มเก่าที่มีการเดินทางที่กรอกไว้ในระบบขอวีซ่า
กลุ่ม other
8) CAS Number
กลุ่ม educational evidence
9) transcript
10) ใบปริญญา
11) ผล IELTS
กลุ่ม financial evidence
12) statement ของบัญชีที่มีเงินฝากเอาไว้ หรือเอกสารหลักฐานรับรองว่าได้รับทุนจากหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน
กลุ่ม medical information
13) ใบสีเหลือง UK Pre-departure TB การตรวจปอดจาก IOM
ขั้นตอนที่ 12 หลังจากที่เราอัปโหลดเอกสารต่างๆ เข้าระบบแล้ว เราก็จะได้รับอีเมลยืนยันจาก vfs ค่ะ ว่ามีเอกสารอะไรบ้าง ให้ปริ้นท์เอกสาร appointment confirmation นี้ไปด้วยนะคะ เพราะวันที่เราไปยื่นวีซ่า เจ้าหน้าที่หน้าประตูจะขอดูและสแกน qr code ตรวจสอบค่ะ
วันยื่นวีซ่าที่ vfs
ขั้นตอนที่ 13 เราเลือกยื่นวีซ่าที่ vfs กรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ที่ The Shoppes Grand Rama 9 @ Belle นะคะ มีที่จอดรถค่ะ 1 ชั่วโมงแรกจอดฟรี แต่สามารถใช้ใบเสร็จจากการทำวีซ่าเพื่อสแตมป์บัตรจอดรถได้เพิ่ม รวมแล้วเป็น 3 ชั่วโมงค่ะ หรือจะนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพระราม 9 ก็ได้ เห็นว่าทาง The Shoppes มีรถกอล์ฟไว้คอยบริการด้วยค่ะ เรานัดหมายไว้ตอน 9.40 น. ไม่ควรไปก่อนนานค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่จะให้เข้าไปข้างในตามรอบเวลาที่นัดมาเป๊ะๆ เลย
ขั้นตอนที่ 14 พอถึงรอบเวลาของเรา เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ยืนต่อแถวค่ะ มีคนมาสแกน qr code จากเอกสาร appointment confirmation แล้วก็ยื่นใบนี้ให้อีกคนที่นั่งโต๊ะอยู่ ถามว่าจะมารับเอง ส่งไปรษณีย์ หรือมีคนมารับแทน และต้องการ notification ทาง sms หรือไม่ (เสียเงินเพิ่ม) หลังจากนั้นก็นำสัมภาระและตัวเองผ่านเครื่องสแกน
ขั้นตอนที่ 15 เข้าไปด้านในก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ passport และให้บัตรคิวมา จะแจ้งว่าให้ไปรอที่หน้าห้องหมายเลขใดบ้าง ดูคิวของเราผ่านหน้าจอว่าจะให้ไปที่ห้องไหน ด้านในเป็นสัดเป็นส่วนมาก แต่ละคนมีห้องของตัวเอง ไม่ใช่ partition กั้น
ขั้นตอนที่ 16 เข้าไปในห้องก็จะพบกับเจ้าหน้าที่ ยื่นเอกสารกระดาษที่เราอัปโหลดเข้าระบบแล้วให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะถามว่าเอกสารเหล่านี้อัปโหลดมาแล้วใช่ไหม แค่นี้เลยค่ะ แล้วเค้าก็ยื่นเอกสารกลับคืนมาให้เรา หลังจากนั้นก็ถ่ายรูป เก็บลายนิ้วมือ ออกใบเสร็จให้ ตรวจสอบชื่อนามสกุลให้เรียบร้อย แล้วก็ลงชื่อค่ะ เจ้าหน้าที่จะเย็บใบเสร็จและสำเนาหน้าแรกของ passport เรา ยื่นคืนให้เราและแจ้งว่ารอผล 3 สัปดาห์ กระบวนการทั้งหมดที่เรายื่นวีซ่าไม่ถึง 15 นาทีค่ะ ก่อน 10 โมง เราก็ออกมาข้างนอกแล้ว
ขั้นตอนที่ 17 จะมีอีเมลส่งมาหลายฉบับแจ้งเราว่า 1) ตอนนี้ได้ยื่นวีซ่าที่ vfs แล้ว 2) ส่งไปยัง UKVI เพื่อพิจารณาแล้ว เราก็รอผลอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ว่าจะได้วีซ่าหรือไม่
ขั้นตอนที่ 18 1 วันผ่านไป เราได้รับผลวีซ่าแล้วค่ะ เป็นอีเมลจาก NoReply.UKVisaDecisions@fcdos.gov.uk ตอนแรกนึกว่าเป็น scam เพราะมันเร็วเกินไปมาก แจ้งผลว่าเราได้รับวีซ่านักเรียนแล้ว ให้รอการติดต่อกลับจาก vfs เพื่อไปรับเล่ม passport คืนค่ะ
รับเล่ม passport คืน
ขั้นตอนที่ 19 เมื่อเราได้รับอีเมลจาก vfs แจ้งว่าให้ไปรับพาสปอร์ตคืนได้ ก็กลับไปที่เดิมค่ะ The Shoppes Grand Rama 9 @ Belle จะมีเคาน์เตอร์สำหรับรับเล่มคืนด้านหน้าเลย ยื่นเอกสารที่เจ้าหน้าที่ให้เรามาเมื่อตอนยื่นวีซ่า เราได้รับวีซ่าเรียบร้อยค่ะ แต่วีซ่าที่ได้นี้เป็นเพียง UK Entry Clearance เพื่อที่จะเดินทางเข้า UK เราจะต้องไปดำเนินการต่อในระบบเพื่อที่จะได้รับ eVisa อีกทีตามรายละเอียดในอีเมลที่ UKVisaDecisions ส่งมาค่ะ
ขอเรียงลำดับไทม์ไลน์การขอวีซ่าค่ะ
8 พ.ค. 68 กรอกข้อมูลในใบสมัครวีซ่า+นัดหมายยื่นวีซ่า
22 พ.ค. 68 ไปยื่นวีซ่าที่ The Shoppes Grand Rama 9 @ Belle
23 พ.ค. 68 ได้รับผลวีซ่าทางอีเมล
โดยส่วนตัว คิดว่าตอนนี้น่าจะพิจารณาเร็ว เพราะว่ายังไม่ใช่ช่วงพีค หากใครพร้อมแล้วก็สามารถยื่นได้เลยนะคะ คาดว่าน่าจะพิจารณาเร็วเหมือนเราค่ะ หากไปยื่นช่วงพีคๆ ก.ค. ส.ค. อาจจะได้รับวีซ่าช้า และอาจไม่ทันกับวันที่จะเดินทางไปเรียนค่ะ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจนะคะ หากมีรายละเอียดที่พลาดไป ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ หรือหากมีท่านใดอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งข้อความมาหลังไมค์ได้เลยค่ะ ยินดีตอบทุกคำถาม (ที่ตอบได้) นะคะ
สวัสดีค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้