[SR] Review Kiehl’s Dark Spot Serum & Clarity Soothing Emulsion คู่หูผิวใส ไร้รอย

Review Kiehl’s Dark Spot Serum & Clarity Soothing Emulsion

สวัสดีค่ะ ชาว Pantip วันนี้มาพบกับรีวิว คู่หูลดรอยสิวของแบรนด์ Kiehl’s แถมครั้งนี้แบรนด์ยังได้ออก Product ตัวใหม่ ที่ช่วยมาเสริมทัพกับ Serum ลดรอยในตำนานของแบรนด์ จะเป็นตัวไหนบ้างมาดูรีวิวไปพร้อมๆกันเลยค่ะ ลืมบอกไป เราเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลจากกิจกรรม Pantip x Kiehl's นะคะ แต่มั่นใจได้เลยว่ารีวิวนี้ตรงปก ใช้จริงแน่นอน
 



มาดูส่วนผสมกัน 

ทั้งสองตัวจะมีส่วนผสมที่เป็นจุดเด่นต่างกัน แต่จุดเด่นที่เป็น Highlight แบรนด์ Kiehl’s เลย คือความน้อยแต่มาก ที่เรารู้สึกถูกใจมาตั้งแต่ในตัว Moisturizer ทั้งในตัว Cream และ Gel Cream และทั้งสองตัวที่มารีวิวในวันนี้ก็ยังคง Concept เดิม เพราะถ้าดูจากในรูป ส่วนผสมเด่นๆเขามีน้อยมาก แต่เป็นตัวเด่นๆทั้งนั้น

🩶 Kiehl’s Dark Spot Serum
Activate C (3-O-ETHYL ASCORBIC ACID)🧡 อนุพันธ์วิตามินซี ที่มีความเสถียรสูง มีความอ่อนโยนต่อผิว เพราะมีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิว (pH5.5) และยังซึมลงผิวง่ายมาก
Buffered Salicylic Acid 💛 BHA ตัวดัง ที่นอกจากจะช่วยเรื่องสิวแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกอย่างอ่อนโยน ทำให้ช่วยลดจุดด่างดำ รอยดำ แดง และในสูตรของ Kiehl’s จะเป็นสูตรการผลัดผิวอย่างอ่อนโยน

🤍 Kiehl’s Clarity Soothing Emulsion
5% Niacinamide 🩵 วิตามิน บี3 ตัวฮิต ทางแบรนด์ใส่มา 5% ซึ่งเป็นปริมาณที่มีงานวิจัยสนับสนุนว่าสามารถช่วยลดจุดด่างดำได้แน่นอน
Licorice Root 🪵 สารสะกัดจากรากชะเอมเทศ สารวะกัดที่ครอบจักรวาลมากที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยลดรอย จุดด่างดำแล้ว ยังช่วยลดการอักเสบได้ แถมยังช่วยคุมความมันส่วนเกินด้วย
Carnosine 🫧 สารวะกัดเปปไทด์ ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สำหรับใน Kiehl’s แล้วเจ้าส่วนผสมนี้จะช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวถึงสามเท่า
LHA 🩷 (Capryloyl Salicylic) ถ้าดูจากชื่อใครหลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคือตัวเดียวกันไหม ต้องบอกว่าตัวนี้คือ เวอร์ชั่นอัพเกรดจาก BHA หรือ Salycilic Acid ที่ทำมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เพราะประสิทธิภาพเรียกได้ว่าไม่ต่างจาก BHA แต่มีความอ่อนโยนกว่า และมีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิวด้วย

ทั้งสองตัวใช้คู่กันเพื่อเสริมทั้งเรื่องบำรุง และให้ความชุ่มชื้น แถมเนื้อที่ทางแบรนด์ทำมาต้องบอกว่า เบา สบายผิวมาก ถ้าอยากรู้ว่าเนื้อเป็นยังไง เราใช้แบบไหน ไปดูกันต่อได้เลยค่ะ


มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กัน

📌ตัวแรกจะเป็น Kiehl’s Dark Spot Serum เซรั่มตัวดัง ที่เนื้อเขาจะมาเป็นเนื้อสีใส เนื้อสัมผัสแรกอาจจะดูเหนียวๆ หน่อย แต่พอเนื้อลงผิวไปซักพัก ก็ซึมลงผิวง่าย และไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนหน้า ตัวนี้เราจะลงผิวต่อจาก Toner หรือ น้ำตบ แล้วปิดด้วย Moisturizer เราจะใช้ตัวนี้ในตอนกลางคืนเป็นหลักค่ะ



📌ตัวที่สอง จะเป็นตัวไหนไปไม่ได้เลย นอกจากน้องใหม่ Kiehl’s Clarity Soothing Emulsion เป็นเนื้อโลชั่นบางเบา ไม่ทิ้งคราบขาว จริงๆตัว Emulsion นี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดีพอประมาณ ตัวเราเองเป็นคนผิวผสม จะใส่ต่อจาก Toner และปิดจบด้วย Moisturizer เนื้อบางเบา หรือบางครั้งรีบ ๆ ก็ปิดจบด้วยกันแดดเลย เพราะตัวนี้มี Dimethicone เป็นส่วนผสมที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น สำหรับคนผิวผสม หรือผิวมันมากๆ ก็อาจจะใช้วิธีนี้ได้ แต่สำหรับคนที่ผิวแห้ง ยังไงเราแนะนำว่าควรใส่ Moisturizer ต่อด้วยตลอด 

**เราใช้สองตัวแยกกัน เช้า กลางคืน เพราะเป็นการลดขั้นตอน Skincare แถมพอดูจากส่วนผสมแล้ว ตัว Emulsion มีส่วนผสมที่เหมาะกับการใช้ในช่วงเช้ามาก เพราะส่วนผสมค่อนข้างเน้นไปทางอ่อนโยน แถมยังมีส่วนผสมที่ช่วยเสริมตัวกันแดด และความเสียหายผิวที่เกิดจากแสง UV ด้วย ส่วนในตัว Serum จริงๆแล้วน้องเป็นสูตรที่อ่อนโยน แต่สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่ายมากๆ อยากจะให้ลอง test ก่อน เพราะด้วยส่วนผสม BHA เป็นส่วนผสมกรด อาจจะไม่ได้เหมาะกับการใช้ช่วงเช้าสำหรับคนผิวแพ้ง่ายจริงๆ


ต่อไปมาดูผลลัพธ์กัน

เราใช้สองตัวนี้เป็นเวลา เกือบ 1 เดือน แต่ใช้ร่วมกับการทำ Skin cycling ด้วย รีวิวเลยจะโชว์ผลลัพธ์ที่เราใช้ ทั้งหมด 14 วัน หรือ 2อาทิตย์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่พอให้เห็นผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์แล้ว


📌 อย่างที่เห็น ปัญหาผิวของเราจะมีปัญหา สิว เป็นหลัป และปัญหาที่รองลงมาคือจุดด่างดำ รอยแดง ดำ ที่เกิดหลังจากสิว ถ้าถามว่าทำไมถึงกล้าใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยร่วมด้วย ต้องบอกว่าจากการดูส่วนผสมแล้ว สองตัวนี้ใช้ส่วนผสมที่ไม่ได้มีผลแย่ต่อสิว แต่ใช้ส่วนผสมที่ช่วยได้ทั้งลดรอย ลดสิว และลดอักเสบ ทำให้เรากล้าใช้ตัวนี้ จะบอกก่อนว่าปัญหาสิวที่เราเจอช่วงที่รีวิว เป็นปัญหาสิวที่ขึ้นหนักพอสมควร เนื่องจากนอนน้อย และต้องแต่วกน้าประจำ แต่ส่วนตัวเราว่าเรื่องลดรอยได้ดีเลย เพราะต่อให้สิวเราจะขึ้นเยอะมาก แต่หลังจากใช้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ รอยจะเริ่มจางลง และพอใช้ได้ 2 อาทิตย์ คือรอยจางลงมากขึ้น และผิวดูละเอียด เรียบเนียนขึ้น 

📍 ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบทั้งสองตัวมาก เพราะทางแบรนด์ยังคง concept น้อยแต่มาก และในไลน์ผลิตภัณฑ์ สามารถใช้ร่วมกันได้ดี เพราะเราชื่นชอบตัว Moisturizer อยู่แล้ว ร่วมถึงถ้ามีโอกาสอยากลองใช้ Retinol ของทางแบรนด์มาก เพราะจากการลองค้นข้อมูลของทางแบรนด์มา Kiehl’s ออกผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร Skin Cycling มาก อย่างเช่นตัว Kiehl’s Dark Spot Serum ที่ถึงแม่จะมีตัว กรด BHA และ Vitamin C  ก็ยังสามารถใช้ร่วมกันกับ Retinol ของทางแบรนด์ได้ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคน ควร test ก่อน)

หากใครสนใจเราอยากให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมในทาง www.kiehls.co.th ได้เลย ในเว็บไซต์ จะแนะนำตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทั้งวิธีการใช้ และบอกส่วนผสมอย่างละเอียด สนใจตัวไหน หาข้อมูลเพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจได้เลย
ชื่อสินค้า:   Kiehl’s Dark Spot Serum & Clarity Soothing Emulsion
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลจากกิจกรรม Pantip x Kiehl's
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่