ทฤษฎีของผม Universum Infinitum Restituens

กระทู้สนทนา
เดียวจะอธิบายเกี่ยวกับการย้อนเวลาเเบบย้อนทั้ง จักรวาลก่อน มันคือการย้อนเวลาที่จะเเบ่งออกเป็น 3หลักการ

1 ย้อนเเบบพาตัวเองไปยังอนาคต ความทรงจํายังคงอยู่ มีผลกระทบต่ออนาคตเมื่อย้อนไป หรือเส้นเวลา


2 การย้อนกลับไปวัยเด็ก ลืมความทรงจํา มีผลกระทบต่อเส้นเวลาเเต่ไม่เสี่ยงมาก เพราะจําอะไรไม่ได้เหมือนสร้างเส้นเวลามาใหม่


3 การย้อนกลับทั้งหมด ทุกคนรวมถึงจักรวาล จะลืมไปเลย "ถ้าอนาคตย้อนเวลาได้ ปัจจุบันคือผลลัพธ์หรือเปล่า" เหมือนกับ เอกภพที่เป็นวงกลมเมื่อถึงสิ้นจุด


ไอ้ข้อ 3 ผมเอามาตั้งทฤษฎีที่ว่า Universum Infinitum Restituens

เเน่นอนที่ผมมั่นใจในเเบบที่ตัวเองคิด เเนวคิดที่ว่า มนุษย์ไม่มีทางจะทํามันได้เเน่ เพราะอะไร

ปัจจัยหลัก เเน่นอนมนุษย์ เกิดขีดจํากัดจะทําได้ เเต่มีหลายวิธีโดยที่มนุษย์ไม่ต้องทําเเต่เกิดจากธรรมชาติ

1  Rima alterius dimensionis > อีก5พันล้านปี โลกจะไม่สามารถอาศัยได้ จนต้องมุ้งหาดวงเคราะห์อื่น ขณะเดินทางพบเจอรอยร้าวอวกาศหลุดเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจทําให้ไปโผล่ในอีกมิติ ในรูปเเบบรีเซ็ต เราอาจจะไม่ได้อยู่ใน (galaxy) ทางช้างเผือกเเต่เเรก ไม่ได้อยู่ในจักรวาลนี้เเต่เเรก จักรวาลคือส่วน 1 ของสิ่งที่ใหญ่กว่า

2 Sapientia superior > สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาสูงกว่ามนุษย์หลายเท่า จักรวาลที่ถูกรีเซ็ตอาจจะเป็นเพียงการทดลองของสิ่งที่อยู่สูงกว่า

3 Designator > ผู้สร้าง - ผู้ออกเเบบตั้งใจจะรีเซ็ตจักรวาลเพราะมีเหตุผลบางอย่าง


🔷 ทฤษฎีของผม: Universum Infinitum Restituens

> "การรีเซ็ตจักรวาลที่ไม่มีที่สิ้นสุด"


📚 โครงสร้างทฤษฎี (โครงร่างเบื้องต้น)

ผมวางแนวคิดไว้ชัดเจนว่ามนุษย์ ไม่มีทางย้อนหรือรีเซ็ตจักรวาลได้ด้วยตนเอง
แต่ "กระบวนการรีเซ็ต" ยังสามารถเกิดได้ผ่าน 3 กลไกหลัก ซึ่งผมจะช่วยแยกเชิงตรรกะให้ชัดขึ้น:


---

🪐 1. Rima alterius dimensionis

> รอยร้าวระหว่างมิติ — การรีเซ็ตที่เกิดจากเหตุบังเอิญของธรรมชาติหรือจักรวาลซ้อนจักรวาล



🔬 สมมุติฐานหลัก:

การเดินทางของมนุษย์อพยพจากโลกที่ล่มสลาย

เผชิญรอยร้าวแห่งมิติระหว่างทาง (อาจเกิดจากแรงโน้มถ่วงผิดปกติ / singularity)

หลุดเข้าสู่ "อีกจักรวาล" ซึ่ง เหมือนจักรวาลปัจจุบันเป๊ะ — แต่เป็นจักรวาลที่ถูกรีเซ็ตแล้ว


💡 ประเด็นน่าคิด:

เราอาจไม่ใช่ส่วนหนึ่งของทางช้างเผือกแต่เดิม

เราแค่ มาโผล่ในจักรวาลที่เกิดจากการรีเซ็ตโดยไม่รู้ตัว

เดจาวู คือ “เสียงสะท้อนจากจักรวาลเก่า”



---

🧠 2. Sapientia superior

> สิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์ — การรีเซ็ตที่เกิดจาก “อำนาจภายนอกระดับสูง”



🔬 สมมุติฐานหลัก:

สิ่งมีชีวิตระดับสูงกว่า (คล้าย Type IV หรือ V ใน Kardashev scale)

อาจมีเทคโนโลยีระดับ “สามารถเขียน-ลบ” จักรวาลได้

จักรวาลของเรา = การทดลอง หรือ ระบบจำลองที่ต้องถูกรีเซ็ตตามวัฏจักร


💡 ประเด็นน่าคิด:

“มนุษย์” อาจเป็นเพียง รูปแบบชีวิตที่เกิดขึ้นภายหลังการรีเซ็ตหลายรอบ

การรีเซ็ตไม่ได้ผิดพลาด แต่เป็น “วงจรควบคุม”

เดจาวู = เศษข้อมูลที่รั่วออกมาจากรอบทดลองก่อน



---

🌀 3. Designator

> ผู้ออกแบบ — การรีเซ็ตที่มีจุดประสงค์ตั้งแต่ต้นในระดับ “ผู้สร้างจักรวาล”



🔬 สมมุติฐานหลัก:

จักรวาลไม่ได้เกิดขึ้นเองแบบสุ่ม แต่ถูก ออกแบบ ให้มีวัฏจักร

ผู้สร้างอาจมีระบบ “รีเซ็ตเพื่อรักษาสมดุล” ของพลังงานหรือข้อมูล

คล้าย “การล้างกระดาน” เพื่อเริ่มเกมใหม่ เมื่อระบบเข้าสู่สภาวะเสียสมดุล


💡 ประเด็นน่าคิด:

มนุษย์ไม่ใช่เป้าหมายของจักรวาล

เราแค่ “เหตุการณ์ข้างเคียง” ที่ยังไม่ถูกลบทิ้งทั้งหมด

เดจาวู = แฮงค์ของระบบจำลอง ที่ยังคงมีความจำตกค้าง



---

🔍 คำถามใหญ่ที่ควรแทรกในทฤษฎี

1. ถ้ามีการรีเซ็ตจริง — เวลาเก่าหายไป หรือยังคงอยู่ในรูปแบบอื่น?


2. เดจาวูคือข้อมูลหลงเหลือ หรือเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง “จักรวาลที่ซ้อนกัน”?


3. ถ้าเรามีเดจาวู — แปลว่าเรา “รอด” จากการรีเซ็ต หรือแค่เศษซากของระบบเดิม?


4. ใครคือผู้ควบคุมการรีเซ็ต? และจะมีจุดจบของวัฏจักรนี้ไหม?

มาตอบคําถามกัน

1 อาจถูกทําลายเเต่ไม่หมดเวลาเก่าไม่ได้หายไปหมดเลยยังคงหลงเหลือ เเต่ส่งในมารูปเเบบเดจาวู เหมือนกับเเสงที่ต้องใช้เวลาเดินทางในห้วงจักรวาลขนาดใหญ่ เเต่จะไม่ส่งมาทีเดียว

2 เดจาวูตามหัวข้อเเรกเกิดจากการลงเหลือของเวลาเก่า

3 ไม่ได้รอดจากการรีเซ็ต เเต่คือเศษซากของเวลาที่หลงเหลืออยู่

4 ไม่มีคําตอบที่ว่าใคร คือผู้ควบคุมการรีเซ็ต เหมือนเป็น เอกภพคือวงกลม ที่จะเกิดซํ้าโดยที่เราไม่รู้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่