เรื่องย่อ
"Prison Break" เป็นซีรีส์แนวดราม่า แอ็คชั่น ระทึกขวัญ ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2005 ซีรีส์เรื่องนี้สร้างสรรค์โดย
Paul Scheuring และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายทั่วโลกด้วยพล็อตเรื่องที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยการหักมุม
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ
Lincoln Burrows (Dominic Purcell) ชายหนุ่มผู้ซึ่งชีวิตตกต่ำ ถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาฆาตกรรมน้องชายของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคดีที่เขาไม่ได้ก่อ และถูกจัดฉากขึ้นโดยกลุ่มผู้มีอำนาจลึกลับ เมื่อไม่มีทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์และอุทธรณ์ได้สำเร็จ ความหวังเดียวของ Lincoln จึงตกอยู่ในมือของ
Michael Scofield (Wentworth Miller) น้องชายผู้ฉลาดปราดเปรื่องและอัจฉริยะด้านวิศวกรรมโครงสร้าง
ด้วยความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของพี่ชาย Michael จึงวางแผนการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่สุดเพื่อช่วย Lincoln แหกคุก เขาจงใจปล้นธนาคารเพื่อติดคุกในเรือนจำเดียวกับพี่ชาย คือ
Fox River State Penitentiary ซึ่งเป็นเรือนจำที่เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรโครงสร้างและมีความรู้เรื่องแผนผังอาคารทั้งหมด Michael มีรอยสักขนาดใหญ่ที่ปกคลุมร่างกาย ซึ่งแท้จริงแล้วคือแผนผังเรือนจำที่ถูกเข้ารหัสและซ่อนเร้นไว้
ซีรีส์ติดตามการดำเนินงานตามแผนการแหกคุกของ Michael ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ ทั้งการรับมือกับนักโทษอันตราย ผู้คุมสุดโหด การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ FBI และการแข่งขันกับเวลาที่ใกล้เข้ามาสู่กำหนดประหารชีวิตของ Lincoln นอกจากแผนการแหกคุกที่เข้มข้นแล้ว เรื่องราวยังเปิดเผยให้เห็นถึง
การสมคบคิดระดับชาติ ขององค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังการจัดฉาก Lincoln ซึ่งทำให้การหลบหนีของ Michael และ Lincoln ไม่ใช่เพียงแค่การแสวงหาอิสรภาพส่วนตัว แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเปิดโปงความจริงและทวงคืนความยุติธรรมในวงกว้าง
ความรู้สึกหลังรับชม
"Prison Break" เป็นซีรีส์ที่มอบความตื่นเต้นและเร้าใจได้อย่างเต็มพิกัดตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบของซีซันหลัก (ซีซัน 1-2)
พล็อตเรื่องมีความเฉียบคม มีการวางแผนที่ซับซ้อน และเต็มไปด้วยการหักมุมที่ทำให้ผู้ชมคาดไม่ถึง การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยความตึงเครียดทำให้รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในเรือนจำและลุ้นระทึกไปกับการกระทำทุกย่างก้าวของ Michael และ Lincoln
การแสดงของ
Wentworth Miller ในบท Michael Scofield นั้นยอดเยี่ยมมาก เขาถ่ายทอดบุคลิกของอัจฉริยะผู้เงียบขรึม ฉลาดหลักแหลม และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยพี่ชายได้อย่างน่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ Dominic Purcell ในบท Lincoln Burrows ก็ถ่ายทอดบทพี่ชายผู้สิ้นหวังและหวาดระแวงได้อย่างดีเยี่ยม เคมีระหว่างนักแสดงทั้งสองนั้นเป็นจุดแข็งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องมีความน่าติดตาม
ตัวละครสมทบอื่นๆ ในเรือนจำก็มีสีสันและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักโทษแต่ละคนที่มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง หรือผู้คุมและเจ้าหน้าที่ FBI ที่เข้ามามีบทบาทในการสืบสวน ทำให้โลกของ "Prison Break" มีความสมจริงและน่าติดตามมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในซีซันหลังๆ (โดยเฉพาะซีซัน 3-4 และซีซัน 5 ที่กลับมาอีกครั้ง) แม้จะยังคงมีฉากแอ็คชั่นและความตื่นเต้นอยู่ แต่พล็อตเรื่องก็เริ่มมีความซับซ้อนและยืดเยื้อจนเกินไปในบางครั้ง รวมถึงการหักมุมที่บางครั้งก็รู้สึกว่าถูกใช้มากเกินไปจนเสียความน่าเชื่อถือไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ซีซันแรกๆ ของ "Prison Break" ก็ยังคงถูกยกให้เป็นหนึ่งในซีรีส์แอ็คชั่น-ระทึกขวัญที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.3/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 82% , คะแนนจากผู้ชม 85% (เฉลี่ยจากทุกซีซัน)
สรุป
"Prison Break" คือซีรีส์ที่เริ่มต้นได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้น เป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยการวางแผนอันชาญฉลาด การหักมุม และความตึงเครียด การแสดงของ
Wentworth Miller เป็นจุดเด่นที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีชีวิตชีวาและน่าจดจำ แม้ว่าคุณภาพอาจจะลดลงไปบ้างในซีซันหลังๆ แต่สำหรับซีซันแรกๆ นั้น ถือเป็นผลงานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวแอ็คชั่น อาชญากรรม และเรื่องราวการแหกคุกที่เต็มไปด้วยไหวพริบ ด้วยคะแนนที่สูงทั้งจากนักวิจารณ์และผู้ชม "Prison Break" ยังคงเป็นหนึ่งในซีรีส์ในตำนานที่ควรค่าแก่การรับชม.
Prison Break: แผนลับแหกคุก ปฏิบัติการพลิกโลกเพื่ออิสรภาพของพี่ชาย
เรื่องย่อ
"Prison Break" เป็นซีรีส์แนวดราม่า แอ็คชั่น ระทึกขวัญ ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2005 ซีรีส์เรื่องนี้สร้างสรรค์โดย Paul Scheuring และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายทั่วโลกด้วยพล็อตเรื่องที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยการหักมุม
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Lincoln Burrows (Dominic Purcell) ชายหนุ่มผู้ซึ่งชีวิตตกต่ำ ถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาฆาตกรรมน้องชายของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคดีที่เขาไม่ได้ก่อ และถูกจัดฉากขึ้นโดยกลุ่มผู้มีอำนาจลึกลับ เมื่อไม่มีทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์และอุทธรณ์ได้สำเร็จ ความหวังเดียวของ Lincoln จึงตกอยู่ในมือของ Michael Scofield (Wentworth Miller) น้องชายผู้ฉลาดปราดเปรื่องและอัจฉริยะด้านวิศวกรรมโครงสร้าง
ด้วยความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของพี่ชาย Michael จึงวางแผนการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่สุดเพื่อช่วย Lincoln แหกคุก เขาจงใจปล้นธนาคารเพื่อติดคุกในเรือนจำเดียวกับพี่ชาย คือ Fox River State Penitentiary ซึ่งเป็นเรือนจำที่เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรโครงสร้างและมีความรู้เรื่องแผนผังอาคารทั้งหมด Michael มีรอยสักขนาดใหญ่ที่ปกคลุมร่างกาย ซึ่งแท้จริงแล้วคือแผนผังเรือนจำที่ถูกเข้ารหัสและซ่อนเร้นไว้
ซีรีส์ติดตามการดำเนินงานตามแผนการแหกคุกของ Michael ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ ทั้งการรับมือกับนักโทษอันตราย ผู้คุมสุดโหด การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ FBI และการแข่งขันกับเวลาที่ใกล้เข้ามาสู่กำหนดประหารชีวิตของ Lincoln นอกจากแผนการแหกคุกที่เข้มข้นแล้ว เรื่องราวยังเปิดเผยให้เห็นถึง การสมคบคิดระดับชาติ ขององค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังการจัดฉาก Lincoln ซึ่งทำให้การหลบหนีของ Michael และ Lincoln ไม่ใช่เพียงแค่การแสวงหาอิสรภาพส่วนตัว แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเปิดโปงความจริงและทวงคืนความยุติธรรมในวงกว้าง
ความรู้สึกหลังรับชม
"Prison Break" เป็นซีรีส์ที่มอบความตื่นเต้นและเร้าใจได้อย่างเต็มพิกัดตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบของซีซันหลัก (ซีซัน 1-2) พล็อตเรื่องมีความเฉียบคม มีการวางแผนที่ซับซ้อน และเต็มไปด้วยการหักมุมที่ทำให้ผู้ชมคาดไม่ถึง การดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยความตึงเครียดทำให้รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในเรือนจำและลุ้นระทึกไปกับการกระทำทุกย่างก้าวของ Michael และ Lincoln
การแสดงของ Wentworth Miller ในบท Michael Scofield นั้นยอดเยี่ยมมาก เขาถ่ายทอดบุคลิกของอัจฉริยะผู้เงียบขรึม ฉลาดหลักแหลม และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยพี่ชายได้อย่างน่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ Dominic Purcell ในบท Lincoln Burrows ก็ถ่ายทอดบทพี่ชายผู้สิ้นหวังและหวาดระแวงได้อย่างดีเยี่ยม เคมีระหว่างนักแสดงทั้งสองนั้นเป็นจุดแข็งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพี่น้องมีความน่าติดตาม
ตัวละครสมทบอื่นๆ ในเรือนจำก็มีสีสันและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักโทษแต่ละคนที่มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง หรือผู้คุมและเจ้าหน้าที่ FBI ที่เข้ามามีบทบาทในการสืบสวน ทำให้โลกของ "Prison Break" มีความสมจริงและน่าติดตามมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในซีซันหลังๆ (โดยเฉพาะซีซัน 3-4 และซีซัน 5 ที่กลับมาอีกครั้ง) แม้จะยังคงมีฉากแอ็คชั่นและความตื่นเต้นอยู่ แต่พล็อตเรื่องก็เริ่มมีความซับซ้อนและยืดเยื้อจนเกินไปในบางครั้ง รวมถึงการหักมุมที่บางครั้งก็รู้สึกว่าถูกใช้มากเกินไปจนเสียความน่าเชื่อถือไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ซีซันแรกๆ ของ "Prison Break" ก็ยังคงถูกยกให้เป็นหนึ่งในซีรีส์แอ็คชั่น-ระทึกขวัญที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.3/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 82% , คะแนนจากผู้ชม 85% (เฉลี่ยจากทุกซีซัน)
สรุป
"Prison Break" คือซีรีส์ที่เริ่มต้นได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้น เป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยการวางแผนอันชาญฉลาด การหักมุม และความตึงเครียด การแสดงของ Wentworth Miller เป็นจุดเด่นที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีชีวิตชีวาและน่าจดจำ แม้ว่าคุณภาพอาจจะลดลงไปบ้างในซีซันหลังๆ แต่สำหรับซีซันแรกๆ นั้น ถือเป็นผลงานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนวแอ็คชั่น อาชญากรรม และเรื่องราวการแหกคุกที่เต็มไปด้วยไหวพริบ ด้วยคะแนนที่สูงทั้งจากนักวิจารณ์และผู้ชม "Prison Break" ยังคงเป็นหนึ่งในซีรีส์ในตำนานที่ควรค่าแก่การรับชม.