สวัสดีสมาชิกทุกท่านฮะ ผมมีไอเดียอยากเริ่มเขียนบันทึกการเดินทาง ครั้นเมื่อไปประเทศอินเดียครับ
ทริปที่ผมสนุก และประทับใจมากที่สุดในตลอดระยะการเดินทางในหลายๆ ประเทศ
เลยอยากจะลองเอาเนื้อหาส่วนนึงที่เกิดขึ้นจริงมาร่วมแบ่งปัน และชวนวิจารณ์ครับ
โดยที่ตั้งใจเอาไว้ว่า อยากจะเป็นนักเขียนบันทึกหนังสือสนุกๆ และมีหนังสือของตัวเองสักเล่มฮะ
ต่อจากนี้จะเป็นเนื้อหาค้าบ
_____
ในวันที่แสนธรรมดาวันนึง ระหว่างการทำงานต้อกแต่กๆ ในฐานะการตลาดของบริษัทอย่างตั้งใจนิดหน่อยถึงปานกลาง อยู่ๆก็มีแชทจากสาวน้อยร่างอวบ ผู้มีแต่เสียงหัวเราะ และใจในการผจญภัย เพื่อนสนิมนัมเบอร์วันของฉัน ผู้เปิดประสบการณ์หลายๆ อย่างในชีวิตให้กับฉัน ยัยฟ้าใส ทักแชทมาด้วยประโยชน์สั้นๆกับฉันว่า “นุ๊ก อินเดียไหม” แน่นอน ประโยคเชิญชวนสั้นๆ ที่อ่านอย่างรวดเร็วและ ฉันตอบได้เลยทันทีว่า “ไม่!”
ในวัยทำงานมาสักพักอย่างเรา มีเงินเก็บแบบหนึ่งก้อน จะเจียดเงินในก้อนนั้นไปเที่ยวในราคา 4-5 หมื่นบาท/ทั้งทริป เธอจะไปเมืองร้อนหรอ ถามจริง แกร! จะไปทำไมให้ลำบาก! อินเดียหรอ ประเทศสุดท้ายในชีวิตแล้วจ่ะ ที่ฉันอยากจะไป เพลงอินเดียหรอ ไม่อิน วัฒนธรรมอินเดียหรอ ไม่เคยรู้ สตรีทฟู้ดอินเดียหรอ ไม่มีทาง แค่เลื่อน Feed บนหน้า TikTok เห็นจังหวะใช้มือที่ดูจะไปทางไม่ค่อยสะอาดปั้นขนม ขยำๆ ฉันก็บอกเลยว่า ไม่!มี!ทาง! เงินก้อนนี้ ใครเค้าก็ไปญี่ปุ่นป้ะ ไปฟังเสียง อิรัชชัยมาเสะ ของจริงสักครั้ง ไปสัมผัสหิมะแรก ไปชมซากุระ ให้ฟีลตามรอย Winter Love Song โอปป้านึล ซารางเฮ (อ๋อ ครั้นเราจะไปอ้างอิงถึงญี่ปุ่น แต่ไม่เคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นเลยอะ ขออินในฐานะแฟนซีรีส์เกาหลีได้ไหมล่ะ ประเทศก็ใกล้ๆกันแหละ ฟีลๆ) ได้ใส่โค๊ทหนาๆ ห่อหุ้มตัวเองจากฮีตเทคด้านในที่ไปซื้อเอาจาก GU ในราคาที่ถูกแสนถูก ตัวละไม่กี่ร้อยที่นู่นเลย ไม่ต้องแบกไปให้หนัก มันต้องฟีลนั้นป่ะ จะให้ไปเต้นบอลลี่วู้ดหรอแก แดดเปรี้ยงๆ หน้ามันๆ กับกลิ่นที่ไม่ถูกจริตหรอแก มันไม่ฟีลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
แต่ความเป็นเราน่ะนะ เพื่อนมันรู้อยู่แล้วว่าเราน่ะมันหลอกล่อง่าย หลังจากเพื่อนบิ๊วไปสักพัก พักใหญ่ๆ ใหญ่แบบใหญ้ ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่แบบ กุเคยไปมาแล้ว เมืองอื่น สวยมาก สนุกมาก อาหารอร่อยมาก ซึ่งใครจะเชื่อลงน้อ ใจเรามันไม่เปิดรับอยู่แล้วน่ะนะ แต่สุดท้ายเพื่อนก็ใช้ไม้ตายด้วยประโยคเรียบง่ายที่ว่า
“นุ๊ก คิดดูให้ดีนะ ถ้ากูไม่ชวน ชีวิตนี้ก็ไม่มีใครชวนอีกแล้ว
เพื่อนรอบตัวนอกจากกู ไม่มีใครไปอินเดียกับแน่นอน
และครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของกูที่จะไปอินเดีย จะไม่ได้ไปอินเดียอีกแล้ว”
เอาจริง ผู้อ่านที่รัก เธออินไหม ข้อความข้างบน อย่าบอกนะว่าเธอเฉยๆ ไม่อิน
เพราะฉันอินกับยัยข้อความนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เหมือนเอาไม้มาฟาดกลางหัวดังป๊าบบบบ
โอโหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห ข้อความทรงพลังอะไรขนาดนั้นอะ อ่านแล้ว ใจมันหวิวยังไงไม่รู้ แล้วมันเป็นจริงแบบที่นางพูดเลยว่า ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ฉันมีแค่ครั้งนี้แหละ โอเค ยังคิดไตร่ตรองไม่รอบคอบดี ฉันก็สามารถตอบกลับมันได้เลยทันทีว่า “โอเค ซื้อตั๋วเลย กูไป!”
เหตุการณ์ล่วงเลย ผ่านไปไม่รู้กี่วินาที กี่นาที กี่วัน กี่สัปดาห์ กี่เดือน
และแล้ว วันแห่งการเดินทางก็มาถึง วันที่เตรียมแล้วว่าฉันต้องลำบากต่อจากนี้ ฉันจะใช้ชีวิตยังไง กินอะไร ขี้ยังไง ไม่รู้เลย แอบเครียดนะ เครียดแบบไม่รู้อะไรเลย ว่าไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนฉันรับบทภาระจ้ะ ใครวางรูทแกวางเลย ใครอยากไปไหนแกเอาเลย ฉันรับบทเดินตามเท่านั้น 555 ซึ่งฉันไม่เคยไม่รู้อะไรเท่านี้มาก่อน ไม่อยากเปิดคลิปสปอยตัวเองว่าต้องเจอกลับอะไรอะ เลยเลือกที่จะ ไม่ดูดีกว่า ไปเหอะ เพื่อนไปไหนเราก็ไปปปปป
เรามุ่งหน้าไปสนามบินดอนเมืองในช่วงเย็น เพื่อเตรียมตัวเดินทางบินไปสนามบิน Jaipur หรือชัยปุระ ประเทศอินเดียในช่วงดึกๆ กับผู้เดินทางทั้งหมด 4 ชีวิต ประกอบไปด้วย ฉัน ยัยฟ้าใส และเพื่อนยัยฟ้าใสที่เป็นหมอฟันอีก 2 ชีวิต ซึ่งฉันเคยเจอแล้ว 1 และเป็นเพื่อนใหม่อีก 1 ค่าเฉลี่ยอายุราวๆ 30 ในวัยนี้มันน่ารักกำลังดีนะ แกว่าป่ะ จริง ฉันก็ว่า เด็กกว่านี้ ไม่มีภูมิในการป้องกันตัว แก่กว่านี้ น่าจะเหนื่อย เอาจริง เหตุผลข้างต้นเดาล้วนๆ เข้าข้างตัวเองทั้งหมด เพื่อให้ดูวัยเหมาะสมกับการไปอินเดีย ฮ่าๆ
หลังจากเราเช็คอินและนั่งรอในเกตด้วยความเกร็งที่ได้เจอเพื่อนใหม่เล็กน้อย เราก็เริ่มเม้ากันนิดหน่อย พอเป็นพิธี แต่พิธีนั้นก็ช่างแสนสั้นเหลือเกิน เมื่อเราค้นพบว่า 4 ชีวิตที่มาด้วยกัน โดนจับกระจายที่นั่งบนเครื่องกันทั้งหมด เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะงกจ้า นั่ง ECO แบบไม่ซื้อที่นั่ง แถมยังเช็คอินออนไลน์ก็คือ ไม่สามารถวอนขอที่นั่ง ทำตาปิ๊งๆใส่ใครได้ นอกจากแต้มดวง ฮ่าๆ (ซึ่งเอาจริง ไม่มีใครซี ฉันก็ไม่ซี ปกติถ้าไม่ได้ไปกับครอบครัวฉันนั่งแยกกับเพื่อนอยู่แล้ว เพราะเพื่อนส่วนมากตัวใหญ่ ไหล่ใหญ่ อกกว้าง มันเบียด มันแย่งกันวางแขน นั่งกับคนอื่นอาจแรนด้อมเจอคนตัวเล็กแล้วนั่งสบายกว่า อุอิ ความลับนี้ไม่เคยบอกใครเลยนะ เพื่อนเกียมวีนแล้วมั้ง) ฉันผู้ได้นั่ง ZONE 1 ราวๆ แถวที่ 3-4 ของเครื่อง มโนเอาแล้วกันว่าฉันนั่ง 3B โอเค ที่มโนเพราะลืมเลขจริงๆ แต่จำ SEAT ที่เป็น B ได้ อดได้นั่งริมหน้าต่างที่เป็น A เนาะ แต่ก้ที่บอกไม่เคยซีนั่งไหนก็ได้ที่ไม่ใช้นั่งข้างเพื่อน (เอ้า) จังหวะเดินขึ้นเครื่องในช่วงที่กำลังหาที่นั่ง พลันเหลือบสายตาว่าที่นั่งริมหน้าต่างข้างๆเรา มีคนนั่งประจำที่อยู่เรียบร้อยแล้ว
หนุ่มน้อยวัยราวๆ 20 ผู้นั่งอยู่ริมหน้าต่าง เพียงบอกแว้บเดียว เราก็พอจะเดาได้ว่าเค้าเป็นคนอินเดียที่ดูมีเงินประมาณนึง การแต่งตัวที่ดี และกำลังจดจ่อกับการเล่นเกมแบบสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ของเค้า ซึ่งแน่นอนว่า ความอินเดียคืออัธยาศัยดี ตั้งแต่ฉันเริ่มนั่งเบาะของฉัน ฉันสัมผัสได้เลยว่า เค้าพยายามแสดงออกอย่างมากว่าเค้าอยากคุยกับฉัน เค้าดูแบบเลิ่กลั่ก เอ้ะ อ้ะ เอ้อะ ฮะ ฮะ ฮะโหร๋ว มายเฟรน ไอ แอรม XXXX (จำชื่อไอ้หนุ่มน้อยไม่ได้ ขออภัย ชื่อยากเกิน คราวหน้าชื่อไอ้เขียว แดงซิ) ไนร์ท ตรู มรีท ยรูว ประโยคทักทายสั้นๆ ที่หลังจากนั้น ฉันไม่ได้หยุดคุยกับน้องเค้าอีกเลย คร่าวๆ คือน้องเค้าเป็นคนอินเดีย มาเรียนที่ไทย และกำลังกลับบ้าน ชวนคุยทุกเรื่อง ทุกเรื่อง ทุกเรื่องเลย สกิลอังกฤษ ฉันมันก็ไม่น้อยหน้าใคร พูดได้ คุยรู้เรื่อง แต่ฟังย้าก ยาก หนูกระดกลิ้นทุกคำเลยพ่อหนุ่มน้อย แต่ความเป็นมิตรฉันก็เยอะเหมือนกัน สู้ คุยอะไร คุย คุย คุย สักพักคุยเรื่องการ์ตูน เคยดู Demon Slayer ไหม (ดาบพิฆาตอสูร) ฉันก็แบบดูแล้ว เอ้า เม้าต่อได้อีก ทันจิโร่เอย มุซัน ใดๆ เอย ไปๆมาๆ จะสปอยตอนจบฉัน ฉันแบบสตร๊อปปปปปปปป พรีส ดร้อน สปรอย มี ไอ วร้อนนา วอท บราย มราย เซร้ว (แล้วฉันกระดกลิ้นทำไม) เอาว่า รู้ทุกเรื่องในชีวิตน้อง น้องเล่าทั้งหมด ถ้ามีเงินจะสร้างสารคดีให้เลย คุยเก่งจังน้อ เหนื่อย ผ่านไป 15 นาทีได้มั้ง เหนื่อย ไม่หยุดคุยเลย เอาจริง ฉันก็เป็นมิตร แต่เริ่มเหนื่อย จังหวะกำลังจะตัดบทยัยน้องคนนี้ กุกๆกักๆ เอ้า ยัยที่นั่ง 3C มานั่ง คนอินเดียวัยกลางคนดูเป็นคนทั่วไปก็มานั่ง ฉันก็ไม่ได้อะไร ยิ้มให้นิดหน่อย แล้วกลับมาเม้ากลับยัย 3A ต่อ สักพัก ยัยน้องคนริมหน้าต่างคนเดิม ถามคำถามฉันว่า แฮรฟ ยู เอรเวร่อ โกร ทรู ไจรเปรอ บรี ฟรอ? ฉันก็ตอบว่า โนร ดรีท อรีส มร้าย แรลลี่ เฟิร์ส ทะรามมมม โซรว เอรก ไซร้ เตร้ท ประโยคนี้ ประโยคนี้เลย นังประโยคเปลี่ยนชีวิต ยัยคนที่มานั่งใหม่ข้างๆ สะกดฉันเลยค่ะ Really???????? อิส ยัว เฟิร์สส ทะรามมมมมมมม แค่นั้นแหละค่ะ ชีวิตของฉัน ที่เปรียบดั่ง 3 หนุ่ม 3 มุม ชีวิตที่ฉันนั่งตรงกลางแล้วโดนประกบด้วยชาวอินเดียทั้ง 2 ข้าง ก็ไม่สงบอีกต่อไป แกต้องหันซ้ายคุย หันขวาคุย หันซ้ายตอบ หันขวาคุย หันซ้ายคุย หันขวาตอบ โว้ยยยยย ปวดคอออออ ฉันที่อยากจะนอน แตต้องคุยยยย นี่เครื่องยังไม่เทคออฟเลยนะ เหนื่อยแล้วววว เอาล่ะ กัปตันเริ่มปุกาศ แอร์สาวเริ่มทำหน้าที่ ไปนั่งตามตำแหน่ง เครื่องจะขึ้นแล้ว จังหวะนั้นแหละ 1 2 3 ฉันแกล้งหลับเลย ป้อก zZ zZ zZ ไม่สนหน้าไหนอีกต่อไป ฉันจะนอน แล้วฉันก็จะนอนแล้ว สิ้นสุดการเป็นมิตร ลง! ตรง! นี้!
.
เหตุการณ์สงบไปจนถึง เมืองชัยปุระ ประเทศ อินเดีย
.
.
.
.
.
.
.
อ๋อ นั่นคือ สิ่งที่คิดว่าควรจะเป็นจ่ะ
.
เพราะความเป็นจริง มันเพิ่งเริ่มมมม ทุกคนจ้ะ กลับมาาาาาา
เรายังอยู่กันบนเครื่องจ้า อะฮือออออออออออออออออออออออออออออออออ
จังหวะเครื่องกำลังเทคออฟ เริ่มไต่ระดับ ชึบชับ ชึบชับ ฉันไม่รับรู้อะไร นอกจาก แกล้งหลับ แกล้งหลับ เท่านั้น
ยัยน้องริมหน้าต่าง สะกิดไหล่ฉันจ่ะ โอ๊ยยยยย คนจะหลับก็สะกิด ไม่เอา ไม่เอา ฉันขอแกล้งหลับต่อ อย่าลืมตานะนังนุ๊ก อย่า ลืม ตา
ยัยน้องมันสู้มันสะกิดไหล่อีกกกกก สะกิด สะกิด สะกิดจนต้องตื่นแล้วอะ เอ้า ตื่นก็ตื่นวะ
แล้วสิ่งที่เห็นตรงหน้า มันชั่งคุ้มค่ากับการลืมตามากก เพราะเปลือกตาฉันที่เปิดรูรับแสงขึ้นมาแบบช้าๆ ประหนึ่งว่าหลับจริง เป็นภาพอิน้องเปิดกล่องผัดมาม่าขึ้นมากินอย่างโมโหหิว พร้อมสะกิดเรียกฉันว่า กินไหม 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
แม่เอ้ยยยยย ใช่เรื่องไหมเนี่ย พกผัดมาม่ามากินตอนขึ้นเทคออฟ อันตรายสุดๆ ไปเลย ถ้ามีจังหวะตกหลุมอากาศ นังกล่องผัดมาม่าต้องมาอยู่บนหน้าฉันแน่ๆ ฉันรู้โชคชะตาฉันเลย ฉันแบบ โอ้ โนว จ้า แต้งกิ้ว นะนายจ๋า กินเลยๆ แล้วนางก็บรรจงกินแบบเอร็ดอร่อย แบบที่กำลังแหงนหน้าไต่ขึ้นระดับฟ้าอ่ะแก ฉันงงมาก มันเป็นจังหวะที่แอร์ไม่เดินมาตรวจหรอ หรือยังไง แต่นี่แบบ ว้อยยย อะไรเนี้ย ฮ่าๆ เอ็นดูก็เอ็นดู กลัวยัยน้องมันติดคอด้วย กลัวถ้วยมันกระเด็นมาที่ฉันด้วย ความคิดตีกันไปหมด เอาวะ ช่างมัน นั่งต่อไปละกัน สู้ เหตุการณ์ทุกอย่างดูจะเข้าสู่โหมดปกติ แต่ทันที่ที่สัญญาณปลดเข็มขัดได้ดึงขึ้น ตึ้ง!
ทุกคนบนเครื่องบินทั้งลำ ตะโกนพร้อมชูมือขึ้น แล้วร้องว่า เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
555555555 ฉันชอบมาก แบบใหม่ แบบสับ ทุกคนตะโกนดีใจที่เครื่องเทคออฟได้อย่างปลอดภัย โคตรน่ารัก โคตรตลก ฉันนั่งขำพรืดดดดดเลย ฉันชอบ Culture นี้มากๆ คนอินเดียนี่เค้าสนุกจังเล้ยว้อยยยย หลังจากนั้น ทุก คน ปลด เข็มขัด แล้ว ลุก ขึ้น ยืน (เว้นวรรคแบบให้อ่านทีละคำ) พร้อมเดินไปที่กระเป๋า แล้วหยิบอาหารในกระเป๋ามากินกันอย่างไม่แคร์ใครทั้งนั้น แน่นอนว่าคนข้างฉันริมทางเดินก็เดินไปหยิบอะไรก้ไม่รู้มากินด้วยเหมือนกัน แล้วชีวิตหลังจากนั้น ภาพที่เห็นคือทุกคนเดินกันเหมือนอยู่ในตลาด คนนู้นแกะข้าวกิน คนนี้เดินไปคุยกับคนนั้น คนนั้นเอียงคอเหมือนจะเต้นที่ได้บิน งง ฉัน งง แอร์สาวบอกอ๋อ ปกติจ่ะ แล้วเดินจากไป ช่างเป็นไฟล์ทที่วุ่นวายและ Culture Shock สำหรับฉันมากๆ แต่ตั้งแต่เสียง เฮ ดังขึ้น เสียงที่เปลี่ยนความคิดเลย เอ้อ มันสนุกว่ะ แล้วฉันเริ่มจะจอยกับความสนุกที่มันช่างคาดเดาอะไรไม่ได้แบบนี้ซะแล้วซิ
_
เริ่มต้นคร่าวๆ เขียนไว้ประมาณนี้ครับ อยากได้คำวิจารณ์จากผู้อ่านทั่วๆไปครับ
เนื่องจากเพื่อนจะพอรู้คาแรคเตอร์ของเราบ้างแล้ว เลยอยากรับฟังมุมมองจากบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่เพื่อนเราบ้าง
ทุกเรื่องล้วนเป็นเหตุการณ์จริง จะพยายามไม่ใส่ไข่เพิ่มลงไปเท่าไหร่ แต่เน้นใส่อารมณ์เพื่อความอรรถรสฮะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกท่านครับ
ลองเขียนบันทึกการเดินทาง เกี่ยวกับ การเดินทางไปเที่ยวประเทศอินเดีย | อยากให้ทุกคนลองอ่านแล้ววิจารณ์ให้หน่อยครับ
ทริปที่ผมสนุก และประทับใจมากที่สุดในตลอดระยะการเดินทางในหลายๆ ประเทศ
เลยอยากจะลองเอาเนื้อหาส่วนนึงที่เกิดขึ้นจริงมาร่วมแบ่งปัน และชวนวิจารณ์ครับ
โดยที่ตั้งใจเอาไว้ว่า อยากจะเป็นนักเขียนบันทึกหนังสือสนุกๆ และมีหนังสือของตัวเองสักเล่มฮะ
ต่อจากนี้จะเป็นเนื้อหาค้าบ
_____
ในวันที่แสนธรรมดาวันนึง ระหว่างการทำงานต้อกแต่กๆ ในฐานะการตลาดของบริษัทอย่างตั้งใจนิดหน่อยถึงปานกลาง อยู่ๆก็มีแชทจากสาวน้อยร่างอวบ ผู้มีแต่เสียงหัวเราะ และใจในการผจญภัย เพื่อนสนิมนัมเบอร์วันของฉัน ผู้เปิดประสบการณ์หลายๆ อย่างในชีวิตให้กับฉัน ยัยฟ้าใส ทักแชทมาด้วยประโยชน์สั้นๆกับฉันว่า “นุ๊ก อินเดียไหม” แน่นอน ประโยคเชิญชวนสั้นๆ ที่อ่านอย่างรวดเร็วและ ฉันตอบได้เลยทันทีว่า “ไม่!”
ในวัยทำงานมาสักพักอย่างเรา มีเงินเก็บแบบหนึ่งก้อน จะเจียดเงินในก้อนนั้นไปเที่ยวในราคา 4-5 หมื่นบาท/ทั้งทริป เธอจะไปเมืองร้อนหรอ ถามจริง แกร! จะไปทำไมให้ลำบาก! อินเดียหรอ ประเทศสุดท้ายในชีวิตแล้วจ่ะ ที่ฉันอยากจะไป เพลงอินเดียหรอ ไม่อิน วัฒนธรรมอินเดียหรอ ไม่เคยรู้ สตรีทฟู้ดอินเดียหรอ ไม่มีทาง แค่เลื่อน Feed บนหน้า TikTok เห็นจังหวะใช้มือที่ดูจะไปทางไม่ค่อยสะอาดปั้นขนม ขยำๆ ฉันก็บอกเลยว่า ไม่!มี!ทาง! เงินก้อนนี้ ใครเค้าก็ไปญี่ปุ่นป้ะ ไปฟังเสียง อิรัชชัยมาเสะ ของจริงสักครั้ง ไปสัมผัสหิมะแรก ไปชมซากุระ ให้ฟีลตามรอย Winter Love Song โอปป้านึล ซารางเฮ (อ๋อ ครั้นเราจะไปอ้างอิงถึงญี่ปุ่น แต่ไม่เคยดูซีรีส์ญี่ปุ่นเลยอะ ขออินในฐานะแฟนซีรีส์เกาหลีได้ไหมล่ะ ประเทศก็ใกล้ๆกันแหละ ฟีลๆ) ได้ใส่โค๊ทหนาๆ ห่อหุ้มตัวเองจากฮีตเทคด้านในที่ไปซื้อเอาจาก GU ในราคาที่ถูกแสนถูก ตัวละไม่กี่ร้อยที่นู่นเลย ไม่ต้องแบกไปให้หนัก มันต้องฟีลนั้นป่ะ จะให้ไปเต้นบอลลี่วู้ดหรอแก แดดเปรี้ยงๆ หน้ามันๆ กับกลิ่นที่ไม่ถูกจริตหรอแก มันไม่ฟีลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
แต่ความเป็นเราน่ะนะ เพื่อนมันรู้อยู่แล้วว่าเราน่ะมันหลอกล่อง่าย หลังจากเพื่อนบิ๊วไปสักพัก พักใหญ่ๆ ใหญ่แบบใหญ้ ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่ ใหญ่แบบ กุเคยไปมาแล้ว เมืองอื่น สวยมาก สนุกมาก อาหารอร่อยมาก ซึ่งใครจะเชื่อลงน้อ ใจเรามันไม่เปิดรับอยู่แล้วน่ะนะ แต่สุดท้ายเพื่อนก็ใช้ไม้ตายด้วยประโยคเรียบง่ายที่ว่า
เอาจริง ผู้อ่านที่รัก เธออินไหม ข้อความข้างบน อย่าบอกนะว่าเธอเฉยๆ ไม่อิน
เพราะฉันอินกับยัยข้อความนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เหมือนเอาไม้มาฟาดกลางหัวดังป๊าบบบบ
โอโหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห ข้อความทรงพลังอะไรขนาดนั้นอะ อ่านแล้ว ใจมันหวิวยังไงไม่รู้ แล้วมันเป็นจริงแบบที่นางพูดเลยว่า ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ฉันมีแค่ครั้งนี้แหละ โอเค ยังคิดไตร่ตรองไม่รอบคอบดี ฉันก็สามารถตอบกลับมันได้เลยทันทีว่า “โอเค ซื้อตั๋วเลย กูไป!”
เหตุการณ์ล่วงเลย ผ่านไปไม่รู้กี่วินาที กี่นาที กี่วัน กี่สัปดาห์ กี่เดือน
และแล้ว วันแห่งการเดินทางก็มาถึง วันที่เตรียมแล้วว่าฉันต้องลำบากต่อจากนี้ ฉันจะใช้ชีวิตยังไง กินอะไร ขี้ยังไง ไม่รู้เลย แอบเครียดนะ เครียดแบบไม่รู้อะไรเลย ว่าไปไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนฉันรับบทภาระจ้ะ ใครวางรูทแกวางเลย ใครอยากไปไหนแกเอาเลย ฉันรับบทเดินตามเท่านั้น 555 ซึ่งฉันไม่เคยไม่รู้อะไรเท่านี้มาก่อน ไม่อยากเปิดคลิปสปอยตัวเองว่าต้องเจอกลับอะไรอะ เลยเลือกที่จะ ไม่ดูดีกว่า ไปเหอะ เพื่อนไปไหนเราก็ไปปปปป
เรามุ่งหน้าไปสนามบินดอนเมืองในช่วงเย็น เพื่อเตรียมตัวเดินทางบินไปสนามบิน Jaipur หรือชัยปุระ ประเทศอินเดียในช่วงดึกๆ กับผู้เดินทางทั้งหมด 4 ชีวิต ประกอบไปด้วย ฉัน ยัยฟ้าใส และเพื่อนยัยฟ้าใสที่เป็นหมอฟันอีก 2 ชีวิต ซึ่งฉันเคยเจอแล้ว 1 และเป็นเพื่อนใหม่อีก 1 ค่าเฉลี่ยอายุราวๆ 30 ในวัยนี้มันน่ารักกำลังดีนะ แกว่าป่ะ จริง ฉันก็ว่า เด็กกว่านี้ ไม่มีภูมิในการป้องกันตัว แก่กว่านี้ น่าจะเหนื่อย เอาจริง เหตุผลข้างต้นเดาล้วนๆ เข้าข้างตัวเองทั้งหมด เพื่อให้ดูวัยเหมาะสมกับการไปอินเดีย ฮ่าๆ
หลังจากเราเช็คอินและนั่งรอในเกตด้วยความเกร็งที่ได้เจอเพื่อนใหม่เล็กน้อย เราก็เริ่มเม้ากันนิดหน่อย พอเป็นพิธี แต่พิธีนั้นก็ช่างแสนสั้นเหลือเกิน เมื่อเราค้นพบว่า 4 ชีวิตที่มาด้วยกัน โดนจับกระจายที่นั่งบนเครื่องกันทั้งหมด เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะงกจ้า นั่ง ECO แบบไม่ซื้อที่นั่ง แถมยังเช็คอินออนไลน์ก็คือ ไม่สามารถวอนขอที่นั่ง ทำตาปิ๊งๆใส่ใครได้ นอกจากแต้มดวง ฮ่าๆ (ซึ่งเอาจริง ไม่มีใครซี ฉันก็ไม่ซี ปกติถ้าไม่ได้ไปกับครอบครัวฉันนั่งแยกกับเพื่อนอยู่แล้ว เพราะเพื่อนส่วนมากตัวใหญ่ ไหล่ใหญ่ อกกว้าง มันเบียด มันแย่งกันวางแขน นั่งกับคนอื่นอาจแรนด้อมเจอคนตัวเล็กแล้วนั่งสบายกว่า อุอิ ความลับนี้ไม่เคยบอกใครเลยนะ เพื่อนเกียมวีนแล้วมั้ง) ฉันผู้ได้นั่ง ZONE 1 ราวๆ แถวที่ 3-4 ของเครื่อง มโนเอาแล้วกันว่าฉันนั่ง 3B โอเค ที่มโนเพราะลืมเลขจริงๆ แต่จำ SEAT ที่เป็น B ได้ อดได้นั่งริมหน้าต่างที่เป็น A เนาะ แต่ก้ที่บอกไม่เคยซีนั่งไหนก็ได้ที่ไม่ใช้นั่งข้างเพื่อน (เอ้า) จังหวะเดินขึ้นเครื่องในช่วงที่กำลังหาที่นั่ง พลันเหลือบสายตาว่าที่นั่งริมหน้าต่างข้างๆเรา มีคนนั่งประจำที่อยู่เรียบร้อยแล้ว
หนุ่มน้อยวัยราวๆ 20 ผู้นั่งอยู่ริมหน้าต่าง เพียงบอกแว้บเดียว เราก็พอจะเดาได้ว่าเค้าเป็นคนอินเดียที่ดูมีเงินประมาณนึง การแต่งตัวที่ดี และกำลังจดจ่อกับการเล่นเกมแบบสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ของเค้า ซึ่งแน่นอนว่า ความอินเดียคืออัธยาศัยดี ตั้งแต่ฉันเริ่มนั่งเบาะของฉัน ฉันสัมผัสได้เลยว่า เค้าพยายามแสดงออกอย่างมากว่าเค้าอยากคุยกับฉัน เค้าดูแบบเลิ่กลั่ก เอ้ะ อ้ะ เอ้อะ ฮะ ฮะ ฮะโหร๋ว มายเฟรน ไอ แอรม XXXX (จำชื่อไอ้หนุ่มน้อยไม่ได้ ขออภัย ชื่อยากเกิน คราวหน้าชื่อไอ้เขียว แดงซิ) ไนร์ท ตรู มรีท ยรูว ประโยคทักทายสั้นๆ ที่หลังจากนั้น ฉันไม่ได้หยุดคุยกับน้องเค้าอีกเลย คร่าวๆ คือน้องเค้าเป็นคนอินเดีย มาเรียนที่ไทย และกำลังกลับบ้าน ชวนคุยทุกเรื่อง ทุกเรื่อง ทุกเรื่องเลย สกิลอังกฤษ ฉันมันก็ไม่น้อยหน้าใคร พูดได้ คุยรู้เรื่อง แต่ฟังย้าก ยาก หนูกระดกลิ้นทุกคำเลยพ่อหนุ่มน้อย แต่ความเป็นมิตรฉันก็เยอะเหมือนกัน สู้ คุยอะไร คุย คุย คุย สักพักคุยเรื่องการ์ตูน เคยดู Demon Slayer ไหม (ดาบพิฆาตอสูร) ฉันก็แบบดูแล้ว เอ้า เม้าต่อได้อีก ทันจิโร่เอย มุซัน ใดๆ เอย ไปๆมาๆ จะสปอยตอนจบฉัน ฉันแบบสตร๊อปปปปปปปป พรีส ดร้อน สปรอย มี ไอ วร้อนนา วอท บราย มราย เซร้ว (แล้วฉันกระดกลิ้นทำไม) เอาว่า รู้ทุกเรื่องในชีวิตน้อง น้องเล่าทั้งหมด ถ้ามีเงินจะสร้างสารคดีให้เลย คุยเก่งจังน้อ เหนื่อย ผ่านไป 15 นาทีได้มั้ง เหนื่อย ไม่หยุดคุยเลย เอาจริง ฉันก็เป็นมิตร แต่เริ่มเหนื่อย จังหวะกำลังจะตัดบทยัยน้องคนนี้ กุกๆกักๆ เอ้า ยัยที่นั่ง 3C มานั่ง คนอินเดียวัยกลางคนดูเป็นคนทั่วไปก็มานั่ง ฉันก็ไม่ได้อะไร ยิ้มให้นิดหน่อย แล้วกลับมาเม้ากลับยัย 3A ต่อ สักพัก ยัยน้องคนริมหน้าต่างคนเดิม ถามคำถามฉันว่า แฮรฟ ยู เอรเวร่อ โกร ทรู ไจรเปรอ บรี ฟรอ? ฉันก็ตอบว่า โนร ดรีท อรีส มร้าย แรลลี่ เฟิร์ส ทะรามมมม โซรว เอรก ไซร้ เตร้ท ประโยคนี้ ประโยคนี้เลย นังประโยคเปลี่ยนชีวิต ยัยคนที่มานั่งใหม่ข้างๆ สะกดฉันเลยค่ะ Really???????? อิส ยัว เฟิร์สส ทะรามมมมมมมม แค่นั้นแหละค่ะ ชีวิตของฉัน ที่เปรียบดั่ง 3 หนุ่ม 3 มุม ชีวิตที่ฉันนั่งตรงกลางแล้วโดนประกบด้วยชาวอินเดียทั้ง 2 ข้าง ก็ไม่สงบอีกต่อไป แกต้องหันซ้ายคุย หันขวาคุย หันซ้ายตอบ หันขวาคุย หันซ้ายคุย หันขวาตอบ โว้ยยยยย ปวดคอออออ ฉันที่อยากจะนอน แตต้องคุยยยย นี่เครื่องยังไม่เทคออฟเลยนะ เหนื่อยแล้วววว เอาล่ะ กัปตันเริ่มปุกาศ แอร์สาวเริ่มทำหน้าที่ ไปนั่งตามตำแหน่ง เครื่องจะขึ้นแล้ว จังหวะนั้นแหละ 1 2 3 ฉันแกล้งหลับเลย ป้อก zZ zZ zZ ไม่สนหน้าไหนอีกต่อไป ฉันจะนอน แล้วฉันก็จะนอนแล้ว สิ้นสุดการเป็นมิตร ลง! ตรง! นี้!
.
เหตุการณ์สงบไปจนถึง เมืองชัยปุระ ประเทศ อินเดีย
.
.
.
.
.
.
.
อ๋อ นั่นคือ สิ่งที่คิดว่าควรจะเป็นจ่ะ
.
เพราะความเป็นจริง มันเพิ่งเริ่มมมม ทุกคนจ้ะ กลับมาาาาาา
เรายังอยู่กันบนเครื่องจ้า อะฮือออออออออออออออออออออออออออออออออ
จังหวะเครื่องกำลังเทคออฟ เริ่มไต่ระดับ ชึบชับ ชึบชับ ฉันไม่รับรู้อะไร นอกจาก แกล้งหลับ แกล้งหลับ เท่านั้น
ยัยน้องริมหน้าต่าง สะกิดไหล่ฉันจ่ะ โอ๊ยยยยย คนจะหลับก็สะกิด ไม่เอา ไม่เอา ฉันขอแกล้งหลับต่อ อย่าลืมตานะนังนุ๊ก อย่า ลืม ตา
ยัยน้องมันสู้มันสะกิดไหล่อีกกกกก สะกิด สะกิด สะกิดจนต้องตื่นแล้วอะ เอ้า ตื่นก็ตื่นวะ
แล้วสิ่งที่เห็นตรงหน้า มันชั่งคุ้มค่ากับการลืมตามากก เพราะเปลือกตาฉันที่เปิดรูรับแสงขึ้นมาแบบช้าๆ ประหนึ่งว่าหลับจริง เป็นภาพอิน้องเปิดกล่องผัดมาม่าขึ้นมากินอย่างโมโหหิว พร้อมสะกิดเรียกฉันว่า กินไหม 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
แม่เอ้ยยยยย ใช่เรื่องไหมเนี่ย พกผัดมาม่ามากินตอนขึ้นเทคออฟ อันตรายสุดๆ ไปเลย ถ้ามีจังหวะตกหลุมอากาศ นังกล่องผัดมาม่าต้องมาอยู่บนหน้าฉันแน่ๆ ฉันรู้โชคชะตาฉันเลย ฉันแบบ โอ้ โนว จ้า แต้งกิ้ว นะนายจ๋า กินเลยๆ แล้วนางก็บรรจงกินแบบเอร็ดอร่อย แบบที่กำลังแหงนหน้าไต่ขึ้นระดับฟ้าอ่ะแก ฉันงงมาก มันเป็นจังหวะที่แอร์ไม่เดินมาตรวจหรอ หรือยังไง แต่นี่แบบ ว้อยยย อะไรเนี้ย ฮ่าๆ เอ็นดูก็เอ็นดู กลัวยัยน้องมันติดคอด้วย กลัวถ้วยมันกระเด็นมาที่ฉันด้วย ความคิดตีกันไปหมด เอาวะ ช่างมัน นั่งต่อไปละกัน สู้ เหตุการณ์ทุกอย่างดูจะเข้าสู่โหมดปกติ แต่ทันที่ที่สัญญาณปลดเข็มขัดได้ดึงขึ้น ตึ้ง!
ทุกคนบนเครื่องบินทั้งลำ ตะโกนพร้อมชูมือขึ้น แล้วร้องว่า เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
555555555 ฉันชอบมาก แบบใหม่ แบบสับ ทุกคนตะโกนดีใจที่เครื่องเทคออฟได้อย่างปลอดภัย โคตรน่ารัก โคตรตลก ฉันนั่งขำพรืดดดดดเลย ฉันชอบ Culture นี้มากๆ คนอินเดียนี่เค้าสนุกจังเล้ยว้อยยยย หลังจากนั้น ทุก คน ปลด เข็มขัด แล้ว ลุก ขึ้น ยืน (เว้นวรรคแบบให้อ่านทีละคำ) พร้อมเดินไปที่กระเป๋า แล้วหยิบอาหารในกระเป๋ามากินกันอย่างไม่แคร์ใครทั้งนั้น แน่นอนว่าคนข้างฉันริมทางเดินก็เดินไปหยิบอะไรก้ไม่รู้มากินด้วยเหมือนกัน แล้วชีวิตหลังจากนั้น ภาพที่เห็นคือทุกคนเดินกันเหมือนอยู่ในตลาด คนนู้นแกะข้าวกิน คนนี้เดินไปคุยกับคนนั้น คนนั้นเอียงคอเหมือนจะเต้นที่ได้บิน งง ฉัน งง แอร์สาวบอกอ๋อ ปกติจ่ะ แล้วเดินจากไป ช่างเป็นไฟล์ทที่วุ่นวายและ Culture Shock สำหรับฉันมากๆ แต่ตั้งแต่เสียง เฮ ดังขึ้น เสียงที่เปลี่ยนความคิดเลย เอ้อ มันสนุกว่ะ แล้วฉันเริ่มจะจอยกับความสนุกที่มันช่างคาดเดาอะไรไม่ได้แบบนี้ซะแล้วซิ
_
เริ่มต้นคร่าวๆ เขียนไว้ประมาณนี้ครับ อยากได้คำวิจารณ์จากผู้อ่านทั่วๆไปครับ
เนื่องจากเพื่อนจะพอรู้คาแรคเตอร์ของเราบ้างแล้ว เลยอยากรับฟังมุมมองจากบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่เพื่อนเราบ้าง
ทุกเรื่องล้วนเป็นเหตุการณ์จริง จะพยายามไม่ใส่ไข่เพิ่มลงไปเท่าไหร่ แต่เน้นใส่อารมณ์เพื่อความอรรถรสฮะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกท่านครับ