เบิร์ด แฟนแตงโม ให้การเป็นพยานต่อศาลว่า แตงโมเคยฉี่ข้างทางเนื่องจากไม่มีห้องน้ำ

นายเทคนิค เกื้อกูล หรือเบิร์ด แฟนของแตงโม เบิกควาามต่อศาลว่า แตงโมมีนิสัยมีความมั่นใจในตนเองและชอบทำอะไรด้วยตนเอง แตงโมเคยปัสสาวะบริเวณข้างทางเนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีห้องน้ำแต่เป็นช่วงกลางคืน โดยมีเบิร์ดยืนอยู่ใกล้ๆ กับจุดที่แตงโมปัสสาวะและขณะนั้น ผู้ตายสวมกางเกง

น้อยโหน่ง (เอมินทร์ พงษ์รุจนิธิธร) เบิกความต่อศาลว่า รู้จักแตงโมมา 5 ปี แตงโมเป็นคนสนุกสนาน กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสี่ยงในสิ่งที่บุคคลอื่นไม่กล้าทำ

นางสาวฐิติภัสร์ จุฑาสุขสวัสด์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบ้านให้แตงโม เบิกความว่า ดูแลแตงโมมานาน 5 ปี  แตงโมมีนิสัยคล้ายผู้ชาย กล้าเสี่ยง เช่น กล้าที่จะโหนรถสองแถวที่คนอื่นอาจจะไม่กล้าเสี่ยง  แตงโมมีนิสัยไม่ขี้อาย เช่น ขณะที่แตงโมกำลังทำภาระกิจส่วนตัวในห้องน้ำ แตงโมก็เรียกแม่บ้านเข้าไปในห้องน้ำโดยมิได้อาย  เคยเห็นแตงโมปัสสาวะโดยไม่ถอดชุด ทั้งที่อยู่ในบ้านและนอกบ้าน เช่น ท้ายรถขณะอยู่ในตลาดนัดเปิดท้ายขายของที่จอดอยู่ในตลาดนัด ซึ่งเป็นนิสัยปกติของแตงโม

โบ TK (นส.สุรัตนาวี) เบิกความว่า รู้จักกับแตงโมมาเป็นเวลา 7 ปี  แตงโมเป็นคนไม่ขี้อาย นิสัยคล้ายผู้ชายและกล้าแสดงออก  เคยเห็นผู้ตายถ่ายเซลฟี่ตัวเองขณะที่กำลังฉี่ในห้องน้ำและโพสต์ขึ้นโซเชี่ยล

ส่วนฮิปโป (นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย) เบิกควาามต่อศาลว่า  ชุดที่แตงโมใส่ในขณะเกิดเหตุ แตงโมสามารถปัสสาวะได้

ผมเข้าใจฮิปโปนะว่า ใกล้ชิดสนิทกับแตงโม จนเห็นความสามารถพิเศษของแตงโมว่า สามารถฉี่ได้ในขณะใส่ชุดบอดี้สูท (ซึ่งเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล บางคนทำไม่ได้ แต่บางคนก็ทำได้  คนที่ทำไม่ได้ ก็เอาแต่บรรทัดฐานตัวเองว่า ก็ชั้นฉี่ในชุดนี้ไม่ได้ แตงโมก็ต้องฉี่ไม่ได้สิ)

***********************************************************

ศาลวิเคราะห์จากคำเบิกความดังกล่าวของเหล่าคนสนิทใกล้ชิดแตงโมว่า  พยานแต่ละคนดังกล่าวล้วนคนใกล้ชิดของแตงโม ย่อมทราบอุปนิสัยของแตงโม จึงมีน้ำหนักเชื่อได้ว่า แตงโมกล้าที่จะไปปัสสาวะบริเวณท้ายเรือ

*******************************************

ปล.  จากคำเบิกความของคนบนเรือในคำพิพากษานี้ตอนต้นๆ จะเห็นว่า คนบนเรือมีการดื่มทั้งแชมเปญ และไวน์ ทั้งตอนขาไป และตอนขากลับ  รวมถึงตอนที่อยู่บนเรือ  คลิปวิดีโอที่แตงโมกำลังร้องเพลงบนเรือ  ก็เห็นแตงโมถือแก้วไวน์ ร้องไปดื่มไวน์ไป

ผลชันสูตรศพแตงโม จากการตรวจปริมาณแอลกอฮอลล์ที่ลูกตาของแตงโม ก็พบปริมาณแอลกอฮอลสูงถึง 93 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์

ด้วยความเมา บวกกับนิสัยส่วนตัวของแตงโมที่แม้แต่เพื่อนสนิท ก็ยังยืนยันว่า มักทำอะไรแบบผู้ชาย ไม่อายคน   ทำไมจะไม่กล้าไปฉี่ที่ท้ายเรือล่ะ

และตอนที่อยู่ร้านอาหารบ้านตานิด  แตงโมไปฉี่ครั้งแรกตอนลงจากเรือขึ้นร้านอาหาร  แต่พอทานอาหารเสร็จ  คนอื่นๆ ต่างไปฉี่กันหมด ส่วนแตงโมกำลังสนใจดูแต่รูปในมือถือที่ถ่าย ก็เลยไม่ได้ไปฉี่ก่อนที่จะลงเรือกลับ

บนเรือ มีห้องน้ำก็จริง แต่บรรจุไว้ด้วยสิ่งของ  แล้วก็อยู่ด้านหน้าเรือ

ถ้าแตงโมปวดฉี่จริงๆ คงไม่บอกให้ปอหรือโรเบิร์ต จอดเรือแวะปั๊มก่อน

น่าจะตัดสินใจเดินไปฉี่เองบริเวณท้ายเรือ ซึ่งมีแพลตฟอร์มสีแดงให้พอยืนฉี่ได้ (เห็นจากการจำลองนางงามตกเรือ ก็จะเห็นว่า นั่งยองๆ ฉี่ได้ ไม่ใช่ไม่ได้เลยเด็ดขาด)

เวลาคนเมา  บางคนก็มักจะทำอะไรสุ่มเสี่ยงโดยไม่คำนึงถึงอันตรายอยู่แล้ว หรือการตัดสินใจแย่ลง   เคยมีคนตั้งกระทู้ในพันทิปว่า  เคยเมาแล้วทำอะไรเพี้ยนสุดแค่ไหน  https://pantip.com/topic/34553846 ก็มีเพื่อนสมาชิกหลายๆ คนมาตอบ  เช่น  ผู้หญิงจูบเพื่อนสนิทผู้ชายทั้งที่ไม่ได้ชอบ หรือผู้หญิงเมาแล้วไปฉี่ในห้องน้ำผู้ชาย  บางคนเมาแล้วเดินไปกลางถนน  บางคนเมาแล้วตัดขนเพชรแบ่งกันกินกับเพื่อน ฯลฯ

แล้วทำไมแตงโมจะไปฉี่ที่ท้ายเรือไม่ได้ล่ะ

อย่าให้อคติบังตาเลยครับ

ขนาดเพื่อนแตงโมหลายๆ คน พอถึงเวลาต้องไปตอบคำถามในศาล  ก่อนจะเบิกความ ก็ต้องกล่าวคำสาบาน ซึ่งในนั้นมีคำสาปแช่งตัวเองให้ไม่เจริญให้ประสบความพินาศถ้าโกหก  ก็เลยต้องพูดความจริง

คนที่ไม่เชื่อว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ  คุณเป็นใคร ใกล้ชิดกับแตงโมแค่ไหน  ทำไมถึงเอาตัวคุณเองเป็นบรรทัดฐาน แล้วตัดสินลงโทษคนบนเรือจากอคติของพวกคุณ

*******************************************


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่