4 มิติของวิกฤต HYBE หลังจากมีปัญหากับ NJZ (NewJeans or MHDHH) “วิกฤตจริง และรุนแรงกว่าที่หลายคนคาดไว้”

4 มิติของวิกฤตHYBE หลังจากมีปัญหากับ NJZ (NewJeans or MHDHH)

1.วิกฤตด้านการเงิน (Financial Crisis)
-​HYBE ขายหุ้น SM ทั้งหมด (2.21 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 6.5 พันล้านบาท) เพื่อเรียกเงินสด
- ​เป็นการ “ยอมขาดทุน” จากการเข้าซื้อในราคาที่สูงช่วงต้นปี 2023
- ​การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า HYBE อาจขาดสภาพคล่องหรือกำลังปรับโครงสร้างการลงทุนอย่างเร่งด่วน

สรุป: มีโอกาสล้มละลาย แต่ยังมมีสัญญาณ "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" ชัดเจน

2. วิกฤตด้านภาพลักษณ์และแบรนด์ (Reputation Crisis)
- ​ขัดแย้งภายในระหว่าง HYBE กับ ADOR (Min Hee-jin) ถูกสื่อเกาหลีเล่นข่าวแรง
- ​สมาชิก NewJeans ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย — ทำให้แฟนคลับแตกเป็นสองฝ่าย
- ​ข้อพิพาทถูกยกระดับเป็นคดีศาล ยิ่งทำให้ HYBE ดูอ่อนแอในสายตาสาธารณะ

สรุป: ศิลปินในเครือสูญเสียความเชื่อมั่นต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแม่

3. ​วิกฤตด้านอำนาจควบคุมศิลปิน (Management Control Crisis)
- ​HYBE ไม่สามารถควบคุม ADOR ได้เต็มที่ ทั้งที่ถือหุ้นใหญ่กว่า 80%
- ​ความพยายามถอด Min Hee-jin ออกจากตำแหน่ง CEO ล้มเหลว (เธอมีการโต้กลับเชิงกฎหมายและสื่อ)
- ​ขณะเดียวกัน NewJeans ซึ่งเป็นทรัพย์สินสำคัญที่สุดของ ADOR ก็เริ่มมีท่าทีอยากแยกตัว

​สรุป: HYBE เหมือนเป็น "เจ้าของในชื่อ" แต่ไม่สามารถสั่งการได้จริง

4. วิกฤตโครงสร้างองค์กร (Structural Crisis)
- ​​​HYBE ขยายเร็วเกินไป มีค่ายย่อยหลายแห่ง (BIGHIT, BELIFT, ADOR, KOZ, PLEDIS)
-โมเดล “Multi-label” เริ่มแสดงปัญหาเรื่องการบริหารภายใน ความขัดแย้งผลประโยชน์ และการแย่งศิลปิน
- ​ขัดแย้งกับ ADOR คือตัวอย่างว่าระบบ "ยึดถืออิสระของค่ายลูก" อาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

สรุป: HYBE ต้องเลือกว่าจะ “ควบคุมเข้มขึ้น” หรือ “กระจายอำนาจจนควบคุมไม่ได้เลย”

บทสรุปสุดท้าย:
"วิกฤตจริง และรุนแรงกว่าที่หลายคนคาดไว้"
- ​หากเสีย NewJeans ไป = สูญเสียอนาคตของ K-pop รุ่นใหม่
- ​ถ้าเสียความเชื่อมั่นจากตลาดอีก = หุ้นร่วง, แฟนคลับเท, ศิลปินไม่อยากอยู่

​ทางรอดของ HYBE ขึ้นอยู่กับ:
1. ​การเจรจาให้ Min Hee-jin ยอมคืนอำนาจรักษา NewJeans ไว้ให้ได้
2. ​ฟื้นฟูโครงสร้างความสัมพันธ์ในองค์กรอย่างเร่งด่วน

​BTS จะช่วยได้หรือไม่: BTS ยังมีศักยภาพในการช่วย HYBE ได้ บางส่วน แต่ไม่สามารถ “แก้วิกฤตทั้งหมด” ได้เหมือนในอดีตแล้ว ด้วยเหตุผลต่อไปนี้:
ข้อจำกัด: BTS “ไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างได้”

1. สมาชิกอยู่ในช่วงเกณฑ์ทหารจนถึง 2025-2026

ไม่มีคอนเสิร์ตกลุ่ม ไม่มีโปรเจกต์ BTS เต็มรูปแบบที่ดึงเงินระดับพันล้านได้

2. ปัญหาหลักของ HYBE ไม่ได้อยู่ที่ BTS

ปัญหาคือ “ขัดแย้งกับศิลปินอื่น” (NewJeans), “โครงสร้างค่ายลูก”, “การควบคุมการบริหาร”

ต่อให้ BTS กลับมาทัวร์โลกก็ช่วยเรื่องเงินได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องศรัทธาในระบบบริหาร

3. HYBE ไม่ควรฝากอนาคตไว้ที่ BTS คนเดียว

ศิลปินรุ่นใหม่ เช่น ILLIT, TWS, LE SSERAFIM ควรแบกรายได้หลักในยุค BTS รับใช้ชาติ

ถ้าบริษัทต้อง “ใช้ BTS อุ้ม” ไปอีก 3-5 ปี เท่ากับไม่ยั่งยืน

สรุป: BTS ช่วยได้แค่รายได้ระยะสั้นแต่แก้วิกฤต NJZ / ADOR​ ไม่ได้ การ​ฟื้นภาพลักษณ์ HYBEช่วยได้บ้าง​ การ​กู้ศรัทธาจากตลาดหุ้น ช่วยได้ในร​ะยะสั้นเท่านั้น

หลายคนอาจไม่พอใจที่ยก BTS มา แต่ขอธิบายไว้ตรงนี้ว่า HYBE กำลังใช้ ​BTS เป็นเครื่องมือ เป็นตัวประกัน HYBE มักสร้างข่าวเพื่อบิดเบือน เพื่อมักจะให้อามี่หรือสแตนตึกไปโจมตีนิวจีน และมักจะโยนความกดกันไปให้ BTS เพื่อเล่นข่าวแบกความคาดหวังเคป๊อบ เพื่อให้หุ้น HYBE ดีดตัว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่