หลายคนที่เป็นแฟนซีรี่ส์เกาหลี อาจจะคุ้นหรือผ่านตาพิธีการแต่งงานในเร่องมาบ้าง เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเห็น เคยดู
แต่ครั้งนี้เราได้มีโอกาสได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานแต่งเกาหลี เลยอยากจะแชร์ให้หลายๆคนได้เข้าใจ และเผื่อใครอยากรู้

เนื่องจากเรามีเพื่อนเป็นสาวเกาฯ ที่รู้จักกันมากว่า 10 ปี ไปมาหาสู่กันตามโอกาสจะอำนวย (ส่วนมากจะเป็นเราแหละที่บินไปหานาง 55555)
วันดีคืนดีนางก็ dm มาบอก ว่าจะแต่งงาน เราก็แบบ หืมมมม ยินดีด้วนนะ ทีแรกว่าจะไม่ไป แต่ตะหงิดๆ ใจว่า นางน่าจะอยากให้ไป
เพราะนางบอกล่วงหน้าตั้งเกือบ 2 เดือน เลย re check พี่ทีเขามีครอบครัวที่เกาหลี ก็พอได้ความว่าปกติคนเกาหลีจะมีระดับความสนิท
ถ้าไม่ได้อยู่ในเลเวลที่เขามองว่าสนิท เขาก็ไม่ชวน แล้วนี่คือบอกล่วงหน้าเกือบ 2 เดือน เพราะเราคนไกลด้วย ก็เลยบอกสาฯ ว่าหาตั๋ว
ไปกันค่ะ ก็เลยบอกนางไปว่าเดี่ยวไปนะ นางก็ตื้นตันใจ ไม่คิดว่าเราจะมา ( คือจริงๆ นางก็ไม่ได้ชวนตรงๆอ่ะ แค่บอกว่าจะแต่งนะ
เราก็แค่รู้สึกว่าเหมือนนางอยากให้มา)




พอถึงวันงาน เราว่างานแต่งที่นี่คือกระชับดี สถานที่จัดก็เป็นเหมือน wedding hall มี 2 ห้องจัดงาน วันนั้นแต่งอยู่ 4-5 คู่นะ
ของเพื่อเรารอบ 12.00 น ถ้านับตั้งแต่คู่บ่าวสาวเข้ามาถึงบริเวณงานจนจบงานกินข้าว ก็คือไม่เกินสองชั่วโมงครึ่ง
วัฒนธรรมการจัดงานแต่งที่นี่คือชัดเจน พอแขกมาถึง การให้ซองหรือของขวัญ เขาจะแบ่งเลยว่าโต๊ะไหนของฝั่งเจ้าบ่าว
โต๊ะไหนของฝั่งเจ้าสาว แขกต้องให้ ให้ถูกฝั่งนะ รวมถึงตอนเข้าไปนั่งร่วมพิธี ก็แบ่งเป็นฝั่ง แขกเจ้าบ่าว แขกเจ้าสาว
ซึ่งภายในห้องพิธีก็จะไม่มีอาหารการกินอะไรทั้งนั้น เป็นการเข้าไปนั่งร่วมเป็นสักขีพยานจริงๆ
มันจะมีห้องหนึ่งที่ให้เจ้าสาวและแขกร่วมถึงเพื่อนๆไปถ่ายรูปกัน ระหว่างรอที่ห้องใหญ่สำหรับจัดงานพร้อม






vdo presentation จะเปิดวนให้แขกดูไปก่อน ที่จอข้างๆ ผนัง ไม่ใช่เปิดบนเวที พอพิธีเริ่ม จอจะถูกดึงขึ้นไปเก็บ
เริ่มด้วยแม่ของคู่บ่าวสาวเดินเข้ามาก่อน โดยแม่ของบ่าวสาวก็จะใส่ชุดฮันบก ที่แบ่งฝั่งไว้แล้วเช่นกันคือ
แม่เจ้าสาวใส่โทนสีชมพูแดง แม่เจ้าบ่าว ฟ้าน้ำเงิน เดินไปหน้าพิธี เสร็จแล้วเปิดตัวเจ้าบ่าวด้วยเพลงสนุกๆ
เจ้าบ่าวยืนรอเจ้าสาว พิธีกรก็กล่าวอะไรไป แล้วเจ้าสาวมาพร้อมพ่อ เจ้าบ่าวเดินมารับ ทำพิธีบนเวที มีถ่ายรูปหมู่ครอบครัว
แล้วบ่าวสาวสวมแหวน เจ้าบ่าวร้องเพลงให้เจ้าสาวพร้อมบอกความในใจ แล้วทั้วคู่ก็เดินโชว์ตัวอีกรอบ








จากนั้นก็ถ่ายรูปหมู่บนเวทีอีกครั้ง คราวนี้กลุ่มใหญ่เลย ญาติสนิทมิตรสหาย แล้วก็มาสู่การโยนดอกไม้ ซึ่งที่นี่ก็คือระบุตัวคนรับเลยค่ะ
ตอนแรกเราก็แปลกใจว่าทำไมคู่ที่ทำพิธีก่อนหน้าเพื่อนเรา มีสาวๆออกมา 4-5 คน แต่ตอนโยน มีคนเดียวเท่านั้นที่รับ
ที่เหลือยืนตบมือเฉยๆ พอถึงคู่เพื่อเรา มีคนเดียวค่ะที่ออกมา และโยนให้คนนั้นเลย มารู้ทีหลังว่า เขาระบุเลยว่าจะให้ใคร
จะได้ไม่ต้องมาผิดใจกับเจ้าสาว ว่าทำไมเธอไม่โยนให้ฉัน



เสร็จจากเรื่องพิธีก็เป็นเรื่องงานเลี้ยง แขกก็เดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง ซึ่งมันก็คือห้องอาหารแบบ international buffet ค่ะ
มีโซนที่ทางร้านจัดไว้สำหรับแขกงานแต่ง ก่อนเข้าไปแขกก็ยื่นคูปองให้ คูปองเราจะมีรูปการ์ตูนเจ้าสาวติดที่คูปองเพื่อให้รู้ว่าเป็นแขกฝั่งไหน
ข้างในก็มีไลน์บุฟเฟ่ต์ ไปตักเองอะไรเองมานั่งทานที่โซนที่จัดไว้ แล้วบ่าวสาวก็เดินมาทักทายตามโต๊ะแขก
มีเวลาทาน 1 ชั่วโมงก่อนคู่ต่อไปจะเสร็จ ซึ่งเขารักษาเวลามาก เราเริ่มทานบ่ายโมง พอใกล้บ่ายสองแบบอีกสัก 5 นาทีจะบ่ายสอง
บริกรเริ่มเดินแจ้งแขกว่าต้องทานให้เสร็จนะ เพราะแขกของอีกคู่เขากำลังจะออกมาทานแล้ว

เออ ดีเป็นประสบการณ์ใหม่ดี
จบงานแต่งคู่บ่าวสาวไปฮันนีมูนกันที่เวียดนาม ซึ่งเราเพิ่งรู้ว่าตอนนี้คนเกาหลีนิยมไปเที่ยวเวียดนามกันมาก
เพราะระยะทางใกล้กว่าไทยและค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า อืมมมม

ปล. เราชอบทีมกองภาพ wedding เขา เยอะดีจริงๆ จัดแสง จัดท่า จัดมุม เก็บทุกเม็ด คุ้มค่าจ้างเลยทีเดียว
แถมรูปหน้างานก็ feel พระเอก นางเอกในซีรีส์อ่ะ ยอมใจความ mood&tone ของงานภาพ
ปล.2 ใส่สีดำ สีเข้มๆ มางานแต่งไม่ผิดนะคะ เป็นสีสุภาพ เจ้าภาพไม่ว่า แต่ใส่สีขาวถือว่าผิด เพราะเป็นสีสำหรับเจ้าสาว