ก่อนหน้านี้ เราไปสมัครงานกับเพื่อนมา เราไม่เคยทำงานมาก่อน เคยแต่ฝึกงาน วันต่อมาติดต่อเรามาให้เริ่มทดลองทำงานในวันถัดไปได้เลย วันแรกเราก็ทำได้ วันต่อมาเราก็ทำต่อ วันที่สามผู้จัดการก็ให้เพื่อนร่วมงานดึงเราเขาไลน์ เราเริ่มมีหวังจะได้ทำงานนี้จริงๆ แต่ไม่นานเพื่อนเราก็พูดกับเพื่อนร่วมงานว่าจะทำแค่เดือนเดียว ตอนแรกเราก็พูดกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นว่าอย่าไปบอกใคร เพราะเรายังไม่ตัดสินใจจะทำเดือนเดียว เราอยากทำไปเรื่อยๆ เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็ไปพูดกับเจ้าของร้าน แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้ตัว ทำงานอย่างมีความสุข แต่หลังเลิกงาน เพื่อนอีกคนก็มาคุยว่าพน.ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ พูดประมาณว่าเพราะเจ้าของร้านบอกว่าจะเอาคนทำงานประจำ อันนี้ไม่ได้ไล่นะย้ำคำนี้หลายรอบแล้วพูดด้วยยิ้มทั้งที่ไม่เคยยิ้มเลย จนเรารู้สึกไม่ดี พอจะกลับบ้านมีแต่คนมาพูด มาถามด้วยเฟรนลี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาคุยด้วยเลย จนเรากับเพื่อนคิดไปไกล ว่าทำไมมันแปลก เลยโทรหาเจ้าของร้าน เจ้าของร้านก็พูดเสียงแข็ง เหมือนไม่อยากคุย แล้วหลุดพูดว่า“ทำงานช้า-” แล้วรีบเปลี่ยนคำพูดว่า ก็เราอยากทำงานแค่เดือนเดียวไม่ใช่หรอ เสียเวลาพี่ แต่เราได้ยินชัดเจนคำนั้น เราเลยคิดกับตัวเองยอมรับว่าเราทำอะไรก็ช้า ก่อนหน้านี้มั่นใจที่จะโทรก็เพราะเราอดทน ทำทุกอย่างที่เขาให้ทำมาตลอด ไม่เกี่ยงเลยสักนิด เลยไม่คิดว่าจะมีเหตุผลไล่เราออก ซึ่งตอนเริ่มโทรก็พูดไปตั้งแต่ต้นว่าเราไม่ได้พูดว่าจะทำ 1 เดือน เพื่อนของเราที่มั่นใจว่าจะทำ 1 เดือน แต่โดนพูดแทรกก่อน แล้วพูดลงท้ายว่าพี่ไม่เอาทั้งสองคนเลยค่ะ เรารู้สึกเหมือนโลกพังทลาย กินไม่ลง อยากร้องไห้ตลอดพูดกับใคร สบตากับใครไม่ได้เลย อยากร้องไห้ ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง แต่เสียใจที่ตัวเองเป็นแบบนั้น แม้แต่พ่อกับแม่ตัวเองเวลาสบตาก็อยากจะร้องไห้กับคนอื่นๆก็เหมือนกัน จุกคอพูดไม่ออก บางทีเวลาแม่หรือคนอื่นพูดรู้สึกเบาแทบไม่ได้ยิน เม้อทั้งวัน คนเรียกไม่ได้ยิน เราอยากยังใช้ชีวิตอยู่ต่อ ไม่อยากเป็นแบบนี้ มีใครเคยเป็นแบบนี้ หรือแนะนำเราได้มั้ยว่าควรทำอะไรต่อ เพราะตอนนี้ไม่กล้าจะออกไปไหนเลย อยากอยู่แต่ในห้องตัวเองไม่อยากพูดกับใครเลย เราไม่อยากเป็นแบบนี้ อยากใช้ชีวิตต่อแบบมีความสุข รู้สึกทรมานใจ
ทำยังไงให้ใช้ชีวิตอยู่ต่อได้คะ?