"ถ้าความรักต้องแลกด้วยเงิน...เขาไม่ได้รักคุณ เขารับจ้างแสดง"

“ไม่ใช่ไม่รู้...แค่ลืมไปว่าความเหงามันหลอกเก่งกว่ามิจฉาชีพ”

          ในยุคที่โลกทั้งใบถูกอัดแน่นอยู่ในจอสี่เหลี่ยมแค่ฝ่ามือหนึ่ง “ความรัก” ไม่ต้องรอพรหมลิขิต… แค่กด Add ก็เสร็จพิธี แต่ความจริงมันเจ็บแสบ
ยิ่งกว่าเบาหวาน เพราะความหวานในโลกออนไลน์ กำลังกลายเป็นกับดักที่ร้ายแรง โดยเฉพาะกับ “ผู้สูงอายุ” ที่หัวใจยังอ่อนโยนแต่ไม่ทันเกม
ของคนเจ้าเล่ห์ที่รู้จักทุกมุมเปราะบางของมนุษย์ พวกเขาไม่ใช่นักมายากล… แต่สามารถเสกความเชื่อใจจากข้อความสั้นๆ ไม่ต้องเคยเจอหน้า
แค่รู้จังหวะจะโอน ทุกอย่างก็ง่ายกว่าการจ่ายตลาด ภาพโปรไฟล์ที่ยิ้มละมุน ไม่ได้แปลว่าเขามีคุณธรรม คำว่า “คิดถึงนะ” ทุกวัน อาจแปลว่า
อีกกี่บาทจะโอนมา ? เราเห็นข่าวคุณตาคุณยายโดนหลอกกันแทบทุกเดือน แต่น่าแปลกที่บางคนยังเชื่อว่า "ครั้งนี้เขาน่าจะจริงใจ" ทั้งที่ใจตัวเองก็เตือน
อยู่แล้ว… แต่ความเหงามักชนะทุกเหตุผล บางคนไม่กล้าพูดเรื่องที่โดนหลอก เพราะกลัวลูกหลานว่า ทั้งที่จริงๆ แล้ว "ความเงียบ" คือของขวัญชิ้นใหญ่
ให้มิจฉาชีพ เมื่อความรักถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือ และความเหงากลายเป็นช่องทาง มันไม่ใช่เรื่องของคนแก่ “ไม่ทันโลก” แต่มันคือปัญหาของคนรอบข้าง
ที่ “ไม่ทันใจ” จะปกป้องเขา ถ้าเราไม่รีบบอก ไม่รีบเตือน ไม่รีบสอน เรากำลังปล่อยให้คนที่เรารัก… เดินเข้าไปในหลุมพราง พร้อมรอยยิ้มที่คิดว่า
เป็นพรหมลิขิต ทั้งที่มันคือพล็อตซ้ำของอาชญากรรมรายวัน แล้วเรายังจะนั่งเฉยกันอยู่อีกเหรอ ? 

ทำไมผู้สูงอายุถึงตกเป็นเหยื่อได้ง่าย?
> ความเหงาคือบ่อเกิดของภัย
คนสูงวัยจำนวนมากใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างเงียบเหงา โลกออนไลน์จึงกลายเป็นที่พึ่งใจ…แต่บางครั้ง “คนที่ทักมา” ไม่ได้มาพร้อมไมตรี
เขามาพร้อม “มีด” ที่ปลอมเป็นดอกไม้
> เชื่อใจง่าย เพราะหัวใจยังอุ่น
ต่างจากวัยรุ่นที่มีเกราะป้องกันทางอารมณ์ ผู้สูงวัยหลายคนยังอยากเชื่อว่า “คนดีๆยังมีอยู่” จนลืมไปว่า “คนร้ายมักแต่งตัวดี พูดดี และรู้จุดอ่อนเราเป๊ะ
> ขาดทักษะทางดิจิทัล
ความไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยี ทำให้ตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้ช้า หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูก “ฟิชชิ่ง” ถูก “สแกม” หรือถูก “ปั่นหัว” จนหมดตัว

          ในวันที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสนามหาคู่ และคำว่า “คิดถึงนะ” กลายเป็นคำสั่งโอนเงินผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยกำลังเดินหลงเข้าไปใน
“กับดักความหวาน” ที่แฝงไปด้วยเข็มพิษของมิจฉาชีพ เพราะ "ความเหงาเปิดประตู" ความเชื่อใจเปิดทาง และเทคโนโลยีที่ไม่คุ้นก็กลายเป็นเครื่องมือให้โจรงัดเข้าบ้านโดยไม่ต้องพังประตู
พวกเขาไม่ได้โง่… แต่โลกมันหมุนเร็วกว่าจังหวะหัวใจ
พวกเขาไม่ได้อ่อนแอ… แค่ยังอยากเชื่อในความดีของมนุษย์
และที่น่าเศร้าที่สุดคือ ความเงียบ เพราะอายที่จะพูดว่าตัวเอง “โดนหลอก”
กลายเป็นเสียงเงียบที่เปิดโอกาสให้คนเลว ตีเนียนมาขโมยศักดิ์ศรี ไปพร้อมกับเงินทั้งชีวิต
ความรักในยุคจอเล็ก…ใหญ่พอจะทำให้คนหมดตัว แต่ "การเพิกเฉยของลูกหลาน" ใหญ่พอจะทำให้คนหมดศรัทธา ดังนั้น อย่าเอาแต่พูดว่า “สงสาร”
หากคุณยังไม่เคยลุกขึ้นมา “สอน” อย่าโพสต์ #Saveผู้สูงวัย ถ้ายังไม่เคยเอ่ยคำว่า “อย่าเชื่อแชตที่หวานกว่าความเป็นจริง” และอย่ารอให้รักกลายเป็นลวง แล้วค่อยมานั่งเสียใจตอนที่ทุกอย่างสายไป "เพราะในโลกที่คนเลวไม่ต้องใช้อาวุธ…แค่แชตคำเดียวก็เชือดใจคนได้ทั้งชีวิต"

          คุณจะปล่อยให้คนที่คุณรัก…ตกเป็นเหยื่อ หรือคุณจะลุกขึ้นมาเป็นเกราะให้พวกเขา?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่