หวั่น ‘เนต้า’ แพแตก คนไทยแจ้งความผู้บริหารจีน หลอกเซ็นรับเป็นกรรมการบริษัทคนเดียว

เนต้า ระส่ำ พนักงานชาวไทย สรินยา ศรีไทย ตำแหน่ง Sale Operation Specialist เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ หวั่นผู้บริหารชาวจีน หลอกให้เซ็นรับเป็นกรรมการบริษัทอยู่คนเดียว




ตามข่าวที่ เนต้า ประเทศไทย กำลังปรับโครงสร้างธุรกิจ จากสภาพคล่องของบริษัทแม่ ที่ติดหนี้ทั้ง ดีลเลอร์ และซัพพลายเออร์ ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารชาวจีน นายซูน เปาหลง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ยืนยันว่า ยังดำเนินธุรกิจในไทยต่อเนื่อง ไม่หนีไปไหน ท่ามกลางการปิดตัวลงของดีลเลอร์หลายราย


ส่วนดีลเลอร์ที่เหลืออยู่ ต่างเปิดแคมเปญ Cut Loss สำหรับ NETA V-II โดยตั้งราคาโปรโมท 3XX,XXX บาท (คาดว่าจะเป็นราคา 399,000 บาท หรือต่ำกว่านั้น) โดยเชื่อว่า NETA V-II ของดีลเลอร์ล็อตนี้ เป็นรถ Clash back แทนตัวเงินที่ เนต้า ออโต้ ประเทศไทย ต้องจ่ายดีลเลอร์ (จ่ายหนี้เป็นรถแทน)

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เหลือชื่อกรรมการเพียงคนเดียวคือ น.ส.สรินยา ศรีไทย ยิ่งเกิดคำถามว่า รายชื่อผู้บริหารจีนไปอยู่ไหน ปล่อยให้คนไทยรับผิด รับชอบคนเดียวหรือไม่ สอดคล้องกับการลาออกของพนักงานหลายคน

ล่าสุด น.ส.สรินยา ศรีไทย ตำแหน่ง Sale Operation Specialist ของบริษัท เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ แล้ววันนี้ (27 พ.ค.) หวั่นถูกหลอกให้เซ็นรับเป็นกรรมการบริษัท

ในบันทึกแจ้งความระบุว่า ตอนแรก น.ส.สรินยา ตกลงกับผู้บริหารชาวจีนว่า ต้องมีกรรมการของบริษัทจำนวน 2 คน แต่ต่อมาได้ตรวจสอบจนพบว่า หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด มีชื่อตนเองเป็นกรรมการของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงได้มาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และเพื่อจะได้นำไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด คือการเปิดศูนย์กระจายอะไหล่ ที่ นครชัยศรี จ.นครปฐม และการออกมาตอบโต้ว่า บริษัทแม่ที่จีน โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ ออโต้โมบิล จำกัด ไม่ได้ยื่นขอล้มละลายนั้น

ที่มา https://www.thansettakij.com/motor/ev/628579
.
.

ไขปริศนาเนต้าออโต้ ทำไมกรรมการเหลือคนเดียว-ผู้บริหารจีนหนีไปไหน

เปิดเผยความจริงเบื้องหลังวิกฤตเนต้าออโต้ หลังกรรมการเหลือเพียงคนเดียวต้องแจ้งความหวั่นถูกหลอก ผู้บริหารจีนหายตัว ยอดขายร่วง 45.8%



กรณีนางสาวสรินยา ศรีไทย กรรมการเพียงคนเดียวของบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังจากจีน ที่เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เผยให้เห็นภาพความเป็นจริงที่น่าตกใจของวงการธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

คำถามสำคัญคือ ทำไมพนักงานขายที่ดำรงตำแหน่ง Sale Operation Specialist ถึงกลายเป็นกรรมการคนเดียวของบริษัทมหาศาลที่มียอดขายเคยสูงถึง 6,321 ล้านบาท? และเหตุใดผู้บริหารชาวจีนทั้งหมดจึงหายตัวไป ทิ้งให้คนไทยต้องแบกรับผิดชอบคนเดียวท่ามกลางวิกฤตหนี้สินของบริษัทแม่กว่า 4 แสนล้านบาท และยอดขายที่ร่วงลง 45.8%

จากบันทึกแจ้งความระบุว่า นางสาวสรินยา ซึ่งดำรงตำแหน่ง Sale Operation Specialist ของบริษัท ตอนแรกได้ตกลงกับผู้บริหารชาวจีนว่าต้องมีกรรมการของบริษัทจำนวน 2 คน แต่เมื่อตรวจสอบเอกสารจริงกลับพบว่า หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด มีชื่อตนเองเป็นกรรมการของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว

การแจ้งความครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตของบริษัท หลังผู้บริหารชาวจีนหลายคนได้ออกจากตำแหน่งกรรมการ ล่าสุดนายซูน เปาหลง ได้ออกจากตำแหน่งกรรมการในเดือนพฤษภาคม 2568 แต่ยังคงดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปอยู่

จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า สถานการณ์ของ เนต้า ออโต้ ในประเทศไทยเริ่มทรุดหนักตั้งแต่ปี 2567 หลังบริษัทแม่ โฮซอน ออโต้ ในประเทศจีนประสบปัญหาทางการเงิน รายงานล่าสุดระบุว่าบริษัทแม่มีหนี้สินสูงถึง 100,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท

ผลกระทบสะเทือนถึงการดำเนินงานในประเทศไทย โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น ได้แก่ Neta V, Neta VII และ Neta X รวมเพียง 6,534 คัน ลดลง 45.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โครงสร้างผู้ถือหุ้นปัจจุบัน

ณ เดือนธันวาคม 2567 บริษัทมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงกับกลุ่มบริษัทจีนอย่างชัดเจน โดยมีผู้ถือหุ้นหลัก คือ NETA AUTO HK INVESTMENT LIMITED (สัญชาติฮ่องกง) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นร้อยละ 100.00 จำนวน 23,199,998 หุ้น ซึ่งแสดงให้เห็นการควบคุมบริษัทแบบเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ยังมีผู้ถือหุ้นรองอีก 2 ราย ได้แก่ HOZON AUTO MSS CO., LTD. และ ZHONGLIAN TIANXIA TONGXIANG NEW ENERGY VEHICLE SERVICES CO., LTD. ซึ่งทั้งคู่เป็นบริษัทสัญชาติจีน แต่ละรายถือหุ้นเพียง 1 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.00

ข้อมูลงบการเงินแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัท โดยในปี 2565 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการดำเนินงาน บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 1,466 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 80.7 ล้านบาท พร้อมกับมีสินทรัพย์รวม 1,801 ล้านบาท

ต่อมาในปี 2566 บริษัทรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6,321 ล้านบาท เติบโตกว่า 4 เท่าจากปีก่อน และสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 7,350 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้มาพร้อมกับความท้าทายด้านการควบคุมต้นทุน เพราะมีต้นทุนขาย 6,987 ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวม 6,321 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดขาดทุนขั้นต้น 691 ล้านบาท รวมกับค่าใช้จายในการขายและบริการที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,126 ล้านบาท ทำให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 1,808 ล้านบาท

จากรายงานงบการเงินล่าสุด ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีกำไร (ขาดทุน) สะสมติดลบ 1,882 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นลบ 1,672 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียนมีเพียง 210 ล้านบาท  

วิกฤตการเงินของบริษัทแม่ในจีน

สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ปัญหาสภาพคล่องของ Neta Auto เกิดจากหลายปัจจัย โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า Neta Auto มีหนี้สินประมาณ 50-60 พันล้านหยวน แต่แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า หนี้ที่แท้จริงอาจสูงถึง 100 พันล้านหยวน หรือ 4 แสนกว่าล้านบาท ในขณะที่ ยอดขายลดลงอย่างหนักในปี 2566-2567  โดยในเดือนมกราคม 2568 Neta Auto ขายรถในจีนได้เพียง 159 คัน และในเดือนกุมภาพันธ์เพียง 377 คัน ลดลง 98% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

มีข่าวว่า Neta Auto มีการลดเงินเดือนและปลดพนักงานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 พนักงานทั้งหมดถูกลดเงินเดือนสองครั้ง ครั้งแรกลด 50% และในเดือนมีนาคม 2568 ลดอีก 50% สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาทางการเงินที่บริษัทแม่กำลังเผชิญ

ผลกระทบจากปัญหาของบริษัทแม่ส่งผลถึงการดำเนินงานในประเทศไทยอย่างชัดเจน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-พฤศจิกายน) เนต้าทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น ได้แก่ Neta V, Neta VII และ Neta X รวมเพียง 6,534 คัน ลดลง 45.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โรงงานบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี นิคมอุตสาหกรรมบางชัน จ.กรุงเทพ ที่รับหน้าที่ประกอบรถยนต์ไฟฟ้า EV เนต้า เตรียมปลดพนักงาน 400 คน สอดคล้องกับยอดขายของ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ลดลง การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นสัญญาณชัดเจนของการปรับลดการผลิตเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลง

ขณะที่บรรดาดีลเลอร์เนต้า ยังระบุว่า ที่ผ่านมา บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด จ่าย intensive ดีลเลอร์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แทนเงินสด สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาสภาพคล่องที่ส่งผลกระทบต่อเครือข่ายการจำหน่าย

เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ เนต้า ก็ยุติการทำตลาดในสิงคโปร์ ทำให้ปัจจุบันยอดขายหลักอยู่ในประเทศไทย ในขณะที่ล่าสุดมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการล้มละลายของ โฮซอน ออโต้ (Hozon Auto) บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า NETA แต่ทั้ง โฮซอน ออโต้ และ เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง

เนต้า ยืนยันบริษัทแม่ กำลังปรับโครงสร้างทางธุรกิจ โดยมีรัฐบาลท้องถิ่นจีน หนุนหลัง พร้อมแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง ส่วนโรงงานประเทศไทย เตรียมประกอบ Neta X ปี 2025 บริษัทพยายามฟื้นฟูสถานการณ์ผ่านการหาแหล่งเงินทุนใหม่และการปรับโครงสร้างหนี้

ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต นายซูน เปาหลง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการก่อนออกจากตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2568 แต่ยังคงเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ยืนยันว่ายังดำเนินธุรกิจในไทยต่อเนื่อง ไม่หนีไปไหน แม้จะมีการปิดตัวลงของดีลเลอร์หลายราย เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่องของบริษัทแม่ที่ติดหนี้ทั้งดีลเลอร์และซัพพลายเออร์

ดีลเลอร์ที่เหลืออยู่ต่างเปิดแคมเปญ Cut Loss สำหรับ NETA V-II โดยตั้งราคาโปรโมท 399,000 บาท หรือต่ำกว่านั้น โดยเชื่อว่า NETA V-II ของดีลเลอร์ล็อตนี้ เป็นรถ Clash back แทนตัวเงินที่ เนต้า ออโต้ ประเทศไทย ต้องจ่ายดีลเลอร์ สะท้อนถึงการจ่ายหนี้เป็นรถแทนเงินสดเนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง

ประเด็นที่น่าตกใจคือ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เหลือชื่อกรรมการเพียงคนเดียวคือ นางสาวสรินยา ศรีไทย ยิ่งเกิดคำถามว่ารายชื่อผู้บริหารจีนไปอยู่ไหน ปล่อยให้คนไทยรับผิดชอบคนเดียวหรือไม่ สอดคล้องกับการลาออกของพนักงานหลายคน

ล่าสุด นางสาวสรินยา ศรีไทย ตำแหน่ง Sale Operation Specialist ของบริษัท ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 หวั่นถูกหลอกให้เซ็นรับเป็นกรรมการบริษัท
ในบันทึกแจ้งความระบุว่า ตอนแรก นางสาวสรินยา ตกลงกับผู้บริหารชาวจีนว่าต้องมีกรรมการของบริษัทจำนวน 2 คน แต่ต่อมาได้ตรวจสอบจนพบว่า หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด มีชื่อตนเองเป็นกรรมการของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงได้มาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และเพื่อจะได้นำไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

จากประวัติการดำเนินงานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าบริษัทเนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ผ่านช่วงเวลาแห่งการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงแรก แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่หลังปี 2566 เนื่องจากปัญหาของบริษัทแม่ในจีน ทั้งการลดลงของยอดขาย ปัญหาสภาพคล่อง และแรงกดดันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันสูง

สถานการณ์ล่าสุดในพฤษภาคม 2568 แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของวิกฤต โดยเหลือกรรมการเพียงคนเดียวที่ต้องแจ้งความเพื่อป้องกันตัวเอง การปิดตัวของดีลเลอร์หลายราย และการขายรถแบบขาดทุนเพื่อเคลียร์สต็อก แม้จะมีแผนการฟื้นฟูและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นจีน แต่อนาคตของบริษัทยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและต้องพิสูจน์ความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้

ที่มา https://www.thansettakij.com/motor/628597
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่