ก็ไม่เข้าใจนะ ว่าทำไมทักษิณถึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่มีประสบการณ์
ทำไมต้องแสดงบทบาทตัวเองว่าเป็น "ผู้นำ" ต้องเล่นบท "ผู้ถืออำนาจ" ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำ
การเป็นผู้นำ จำเป็นหรือต้องออกแสงทุกวันทุกเรื่อง ไม่จำเป็นเลย
แต่ทักษิณก็แสดงบทบาทเหลือเกิน เหมือนกลัวคนไม่รู้ว่าข้าคือผู้มีอำนาจนะ
จะดีกว่าไหม เช้า ก่อนลูกสาวเข้างาน ก็บรีฟกับลูกสาว วันนี้จะทำอะไร จะบริหารจัดการยังไง
ตกค่ำ ก็สรุปกับลูกสาวอีกรอบ อะไรที่ลูกสาวผิดพลาดก็แนะนำไป อะไรทำได้ดีก็เดินต่อ ทำแบบนี้ทุกวัน
ลูกสาวก็จะเก่งขึ้น ได้รับการยอมรับมากขึ้น ทักษิณเองก็จะได้ชื่อว่าผู้นำที่อยู่เบื้องหลัง ไม่จำเป็นต้องเล่นบทวางก้าม
และบางเรื่องไม่จำเป็นก็อย่าพูด
อย่างวันนี้ เอาอีกแล้ว โหนอีกแล้ว เพื่ออะไรก็ไม่รู้ ทำไมไม่ปรับวิธีคิดวิธีทำ
เลิกซะทีกับการอ้างดีล ทำตัว วางตัว ทำงานตามปกติ ทักษิณได้รับการยอมรับไม่ใช่เพราะดีล แต่เพราะผลงาน
ดูเหมือนทักษิณเก็บความอัดอั้นไม่อยู่ เก็บอัตตาไม่ได้ ความเคียดแค้นอยากเอาคืนล้นทะลัก
พูดอะไร ทำอะไร ให้คนหมั่นไส้ก็ไม่สน จะทำซะอย่าง (ขณะที่ปากพล่ามเรื่องความเป็นธรรม พล่ามเรื่องทำตามกติกา)
ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ก็แสดงบทผู้อยู่เหนือตำแหน่ง เล่นบทผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ตัวเองเคยด่าเรื่องนี้ไว้
อ้างได้ไง ว่าที่ทำอยู่นี่ เพื่อบ้านเมือง
เพื่อบ้านเมืองอะไรฟร่ะ เกิดปัญหาไปทุกเรื่อง เกิดความขัดแย้งหาทางออกไม่ได้ไปทุกเรื่อง
เพียงเพื่ออยากได้การยอมรับ การสยบยอมทางการเมือง อลเวงวุ่นวายไปหมด (โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว-ครอบครัว)
ไม่สำนึกว่า เกือบยี่สิบปีที่หนีไปอยู่ต่างประเทศนั้น คนอื่น ๆ เขาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ไม่ใช่ "ลูกน้อง" อย่างเคยเป็น
นิ่ง ๆ (ยอมนอน รพ.ราชทัณฑ์แค่หกเดือน ไม่ทำ กลัวอะไรก็ไม่รู้ หากจะมีคนฆ่าก็ให้มันรู้ไป ใจถึงหน่อย)
ให้เรื่องคดีความที่โดนจบสมบูรณ์ด้วยดี ก็จะเหลือแค่เรื่อง 112 ที่ทักษิณมีโอกาสรอดสูงมากเพราะหลักฐานอ่อนจริง
แต่ทักษิณไม่เลือก วิ่งไปชั้น 14 จนเกิดปัญหา เกิดภาวะนิติสงครามลามไปถึงน้องสาว และอาจลามถึงลูกสาวเอาง่าย ๆ
ไม่สนผิดไม่สนถูก คิดแค่ว่ามีอำนาจ สร้างอำนาจต่อรอง แล้วดีล
ปัญหาก็จะหมดไป ไม่รู้เอาอะไรคิด
.
จะเกิดความเชื่อมั่นในบ้านเมืองได้ไงครับ
เมื่อคนมีตำแหน่ง มีอำนาจตามกฎหมาย อยู่ใต้การกำกับของอำนาจนอกระบบ
ฝ่ายหนึ่งก็มีอำนาจนอกระบบหนุน ฝ่ายหนึ่งก็มีอำนาจนอกระบบกำกับ บ้านเมืองก็เละสิโว้ย
ผิดซ้ำผิดซาก ต่อให้ชนะ บ้านเมืองก็เละไปหมด
เพราะใช้วิธีการที่ผิด เพราะมีวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง
.
ปราบยาเสพติด หรือปัญหาอื่น ๆ
เมิงไม่ต้องไปรบการใครหรอก เมิงรบกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มันรับประโยชน์ก็พอ ทำไมเมิงไม่ทำ ทำได้ไหม กล้าทำไหม
รบกับว้า ความคิดโบราณคอด ๆ นี่เหรอการแก้ปัญหาของคนเก่ง
อัตตาท่วม หลงตัวเอง จัดการอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้
ทำไมต้องแสดงบทบาทตัวเองว่าเป็น "ผู้นำ" ต้องเล่นบท "ผู้ถืออำนาจ" ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำ
การเป็นผู้นำ จำเป็นหรือต้องออกแสงทุกวันทุกเรื่อง ไม่จำเป็นเลย
แต่ทักษิณก็แสดงบทบาทเหลือเกิน เหมือนกลัวคนไม่รู้ว่าข้าคือผู้มีอำนาจนะ
จะดีกว่าไหม เช้า ก่อนลูกสาวเข้างาน ก็บรีฟกับลูกสาว วันนี้จะทำอะไร จะบริหารจัดการยังไง
ตกค่ำ ก็สรุปกับลูกสาวอีกรอบ อะไรที่ลูกสาวผิดพลาดก็แนะนำไป อะไรทำได้ดีก็เดินต่อ ทำแบบนี้ทุกวัน
ลูกสาวก็จะเก่งขึ้น ได้รับการยอมรับมากขึ้น ทักษิณเองก็จะได้ชื่อว่าผู้นำที่อยู่เบื้องหลัง ไม่จำเป็นต้องเล่นบทวางก้าม
และบางเรื่องไม่จำเป็นก็อย่าพูด
อย่างวันนี้ เอาอีกแล้ว โหนอีกแล้ว เพื่ออะไรก็ไม่รู้ ทำไมไม่ปรับวิธีคิดวิธีทำ
เลิกซะทีกับการอ้างดีล ทำตัว วางตัว ทำงานตามปกติ ทักษิณได้รับการยอมรับไม่ใช่เพราะดีล แต่เพราะผลงาน
ดูเหมือนทักษิณเก็บความอัดอั้นไม่อยู่ เก็บอัตตาไม่ได้ ความเคียดแค้นอยากเอาคืนล้นทะลัก
พูดอะไร ทำอะไร ให้คนหมั่นไส้ก็ไม่สน จะทำซะอย่าง (ขณะที่ปากพล่ามเรื่องความเป็นธรรม พล่ามเรื่องทำตามกติกา)
ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ก็แสดงบทผู้อยู่เหนือตำแหน่ง เล่นบทผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ตัวเองเคยด่าเรื่องนี้ไว้
อ้างได้ไง ว่าที่ทำอยู่นี่ เพื่อบ้านเมือง
เพื่อบ้านเมืองอะไรฟร่ะ เกิดปัญหาไปทุกเรื่อง เกิดความขัดแย้งหาทางออกไม่ได้ไปทุกเรื่อง
เพียงเพื่ออยากได้การยอมรับ การสยบยอมทางการเมือง อลเวงวุ่นวายไปหมด (โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว-ครอบครัว)
ไม่สำนึกว่า เกือบยี่สิบปีที่หนีไปอยู่ต่างประเทศนั้น คนอื่น ๆ เขาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ไม่ใช่ "ลูกน้อง" อย่างเคยเป็น
นิ่ง ๆ (ยอมนอน รพ.ราชทัณฑ์แค่หกเดือน ไม่ทำ กลัวอะไรก็ไม่รู้ หากจะมีคนฆ่าก็ให้มันรู้ไป ใจถึงหน่อย)
ให้เรื่องคดีความที่โดนจบสมบูรณ์ด้วยดี ก็จะเหลือแค่เรื่อง 112 ที่ทักษิณมีโอกาสรอดสูงมากเพราะหลักฐานอ่อนจริง
แต่ทักษิณไม่เลือก วิ่งไปชั้น 14 จนเกิดปัญหา เกิดภาวะนิติสงครามลามไปถึงน้องสาว และอาจลามถึงลูกสาวเอาง่าย ๆ
ไม่สนผิดไม่สนถูก คิดแค่ว่ามีอำนาจ สร้างอำนาจต่อรอง แล้วดีล
ปัญหาก็จะหมดไป ไม่รู้เอาอะไรคิด