สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip! วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวชะอำกับแฟนที่หลงใหลในคาเฟ่เป็นชีวิตจิตใจ บอกเลยว่าทริปนี้มีครบทุกอารมณ์ ทั้งสุข เศร้า เหงา และความประทับใจจนอยากเล่าให้ฟังแบบละเอียดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการค้นพบคาเฟ่ที่ทำให้ทริปนี้สมบูรณ์แบบอย่าง
"Amore Beach Cafe ชะอำ" ครับ!
เริ่มต้นทริปด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น... แต่ก็แอบผิดหวังไปบ้าง
ปกติแล้วเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด แฟนผมจะต้องลิสต์คาเฟ่ที่จะไปเช็คอินไว้เป็นสิบๆ ร้าน ชะอำก็เช่นกันครับ ก่อนไปเราหาข้อมูลกันอย่างดี ดูรีวิวจากเพจต่างๆ ปักหมุดร้านสวยๆ ไว้เต็มไปหมด แต่พอไปถึงจริงๆ กลับพบว่าหลายร้านที่ปักหมุดไว้
ปิดตัวไปแล้ว บ้างก็ร้างไปเลย บางร้านที่ยังเปิดอยู่ก็ดู
เงียบเหงา จนน่าใจหาย บรรยากาศดูไม่ค่อยน่านั่งเท่าไหร่ แถมราคาก็
overprice เกินเบอร์ไปมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและบรรยากาศที่ได้รับ หลายร้านไม่มีจุดเด่น หรือเอกลักษณ์อะไรที่น่าจดจำเลยครับ สารภาพว่าแอบรู้สึกเฟลเล็กน้อย เพราะความคาดหวังกับคาเฟ่ในชะอำมันพุ่งสูงปรี๊ดมาก่อนเดินทาง
จากความงง สู่ความประทับใจ: Amore Beach Cafe ชะอำ คาเฟ่ลับที่ไม่ลับอีกต่อไป
ในขณะที่เรากำลังวนๆ หาคาเฟ่ที่ดูเข้าท่าอยู่นั้น ก็เกิดเรื่องสุดงงขึ้นครับ! เราปักหมุดร้านกาแฟร้านหนึ่งไว้ พอไปถึงกลับพบว่า
ร้านนั้นเจ๊งไปแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ตรงพื้นที่เดิมของร้านที่ปิดไป มีคาเฟ่เปิดใหม่แกะกล่อง! ตอนแรกก็ลังเลว่าจะแวะดีไหม เพราะดูยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่คอแห้งและอยากลองอะไรใหม่ๆ เลยตัดสินใจแวะเข้าไปครับ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเจอ
Amore Beach Cafe ชะอำ ครับ!
ปรากฏว่าร้านนี้คือ
เพชรเม็ดงาม ของทริปนี้เลยครับ! ตอนที่เราไปเหมือนเขากำลัง
เทสต์ระบบ อยู่เลยครับ เจ้าของร้านให้การต้อนรับอย่างดีและดู
ใส่ใจเรื่องกาแฟ พอสมควร สังเกตได้จากอุปกรณ์เครื่องชงที่ดูดีมีคุณภาพ และการเลือกใช้วัตถุดิบ ตัวร้านอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ตกแต่งได้สวยงาม สะอาดตา มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ ได้หลายมุมเลยครับ
ที่สำคัญคือเรื่องอุปกรณ์และวัตถุดิบครับ เท่าที่จำได้คือ
เครื่องชงแวววับมาก เป็นยี่ห้อ
La Marzocco น่าจะเป็นรุ่น
Linea Classic ซึ่งเป็นแบรนด์ที่บาริสต้าทั่วโลกยอมรับเรื่องคุณภาพและความสม่ำเสมอของรสชาติกาแฟ
เมล็ดกาแฟก็มีให้เลือกทั้งคั่วกลางและคั่วเข้ม ผมสั่ง
คั่วกลาง มาลอง รสชาติ
เปรี้ยวสว่าง กำลังดี อร่อย สมกับเป็นร้านกาแฟที่ใส่ใจจริงๆ ครับ
ส่วนไซรัปที่ใช้ก็เป็นของ
Monin ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพ ไม่ใช่พวกของถูกๆ อย่างยี่ห้อขวดละ 70-80 บาทครับ เครื่องบด 2 ตัวน่าจะมี ยี่ห้อ
Anfim เครื่องบดกาแฟสัญชาติอิตาลี เกรดโปร ทนทาน บดนิ่ง ได้ผงกาแฟคุณภาพสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับร้านกาแฟที่ต้องการความเป๊ะ อีกตัวน่าจะเป็น
APRESSO A7 เครื่องบดกาแฟสายลุย เฟืองใหญ่ บดไว ราคาจับต้องได้ สำหรับร้านที่ต้องการความคุ้มค่าแต่ยังคงคุณภาพ
ดูจากเครื่องชง เครื่องบด และไซรัปก็บอกได้เลยว่าเจ้าของร้านใส่ใจและลงทุนกับอุปกรณ์และวัตถุดิบที่ดีจริงๆ ครับ
ส่วนเรื่องราคา กาแฟ
Americano 90 บาท ถ้าเทียบกับราคาในกรุงเทพฯ ร้านดีๆ ผมจะให้เรทประมาณ 60-65 บาท แต่สำหรับ Amore Beach Cafe ชะอำ ผมรู้สึกว่าราคานี้
ไม่ได้ over มาก เลยครับ เพราะผมให้ค่า
ความสวยงามของสถานที่ ทั้งการตกแต่ง บรรยากาศที่ดี รวมถึง
เครื่องมือ เครื่องชง และ
วัตถุดิบ ที่เขาเลือกใช้ครับ รสชาติกาแฟก็ดีงามสมราคา ไม่ผิดหวังเลยครับ
สรุปอุปกรณ์ สุดโหด
- เครื่องสกัดกาแฟ
La Marzocco น่าจะเป็นรุ่น
Linea Classic รุ่นยอดนิยม ทนถึก บาริสต้าชอบใช้กัน
- เครื่องบดตัวซ้ายที่ดูใหญ่หน่อย น่าจะเป็น
APRESSO A7
- เครื่องบดตัวกลาง น่าจะเป็น
Anfim น่าจะเป็น
Scody ll
บอกเลยว่าชุดนี้ของแรงทั้งนั้น ร้านกาแฟจัดเต็ม!
ส่วนแฟนผมสั่งแนว
Mocktail ชื่อเมนู
Sunshine อะไรสักอย่าง ราคา
110 บาท ผมชิมแล้วรู้สึก
โอเคสุขใจ รสชาติ
สดชื่น กำลังดี ดื่มแล้วรู้สึกพร้อมที่จะไปถ่ายรูปให้แฟนริมหาดต่อได้เลยครับ! ราคานี้ถือว่า
สมเหตุสมผล ครับ
สรุปแล้ว... ชะอำยังมีของดีซ่อนอยู่
แม้ว่าทริปนี้จะเริ่มต้นด้วยความผิดหวังจากคาเฟ่หลายร้านที่ไม่ได้อย่างใจ แต่การได้เจอ
Amore Beach Cafe ชะอำ ที่ประทับใจโดยบังเอิญก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ดีมากๆ ครับ ทำให้รู้ว่าชะอำยังมีคาเฟ่ดีๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ เพียงแค่ต้องใช้เวลาค้นหาและอาจจะต้องเปิดใจลองร้านใหม่ๆ ครับ ใครไปชะอำแล้วอยากลองกาแฟดีๆ ในบรรยากาศสบายๆ แนะนำ
Amore Beach Cafe ชะอำ เลยครับ!
แฟนผมให้ 10/10 เลย ส่วนผมโดยรวมให้ 8/10
เพื่อนๆ คนไหนมีประสบการณ์เจอคาเฟ่ลับที่ชะอำ หรืออยากแนะนำร้านไหนเพิ่มเติม คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะครับ! เผื่อทริปหน้าจะได้ตามรอยไปลองบ้างครับ 😊
แนะนำสายคาเฟ่ที่ชะอำ: Amore Beach Cafe ชะอำ... เพชรเม็ดงามที่เจอโดยบังเอิญ!
เริ่มต้นทริปด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น... แต่ก็แอบผิดหวังไปบ้าง
ปกติแล้วเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด แฟนผมจะต้องลิสต์คาเฟ่ที่จะไปเช็คอินไว้เป็นสิบๆ ร้าน ชะอำก็เช่นกันครับ ก่อนไปเราหาข้อมูลกันอย่างดี ดูรีวิวจากเพจต่างๆ ปักหมุดร้านสวยๆ ไว้เต็มไปหมด แต่พอไปถึงจริงๆ กลับพบว่าหลายร้านที่ปักหมุดไว้ ปิดตัวไปแล้ว บ้างก็ร้างไปเลย บางร้านที่ยังเปิดอยู่ก็ดู เงียบเหงา จนน่าใจหาย บรรยากาศดูไม่ค่อยน่านั่งเท่าไหร่ แถมราคาก็ overprice เกินเบอร์ไปมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและบรรยากาศที่ได้รับ หลายร้านไม่มีจุดเด่น หรือเอกลักษณ์อะไรที่น่าจดจำเลยครับ สารภาพว่าแอบรู้สึกเฟลเล็กน้อย เพราะความคาดหวังกับคาเฟ่ในชะอำมันพุ่งสูงปรี๊ดมาก่อนเดินทาง
จากความงง สู่ความประทับใจ: Amore Beach Cafe ชะอำ คาเฟ่ลับที่ไม่ลับอีกต่อไป
ในขณะที่เรากำลังวนๆ หาคาเฟ่ที่ดูเข้าท่าอยู่นั้น ก็เกิดเรื่องสุดงงขึ้นครับ! เราปักหมุดร้านกาแฟร้านหนึ่งไว้ พอไปถึงกลับพบว่า ร้านนั้นเจ๊งไปแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ตรงพื้นที่เดิมของร้านที่ปิดไป มีคาเฟ่เปิดใหม่แกะกล่อง! ตอนแรกก็ลังเลว่าจะแวะดีไหม เพราะดูยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่คอแห้งและอยากลองอะไรใหม่ๆ เลยตัดสินใจแวะเข้าไปครับ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเจอ Amore Beach Cafe ชะอำ ครับ!
ปรากฏว่าร้านนี้คือ เพชรเม็ดงาม ของทริปนี้เลยครับ! ตอนที่เราไปเหมือนเขากำลัง เทสต์ระบบ อยู่เลยครับ เจ้าของร้านให้การต้อนรับอย่างดีและดู ใส่ใจเรื่องกาแฟ พอสมควร สังเกตได้จากอุปกรณ์เครื่องชงที่ดูดีมีคุณภาพ และการเลือกใช้วัตถุดิบ ตัวร้านอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ตกแต่งได้สวยงาม สะอาดตา มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ ได้หลายมุมเลยครับ
ที่สำคัญคือเรื่องอุปกรณ์และวัตถุดิบครับ เท่าที่จำได้คือ เครื่องชงแวววับมาก เป็นยี่ห้อ La Marzocco น่าจะเป็นรุ่น Linea Classic ซึ่งเป็นแบรนด์ที่บาริสต้าทั่วโลกยอมรับเรื่องคุณภาพและความสม่ำเสมอของรสชาติกาแฟ เมล็ดกาแฟก็มีให้เลือกทั้งคั่วกลางและคั่วเข้ม ผมสั่ง คั่วกลาง มาลอง รสชาติ เปรี้ยวสว่าง กำลังดี อร่อย สมกับเป็นร้านกาแฟที่ใส่ใจจริงๆ ครับ
ส่วนไซรัปที่ใช้ก็เป็นของ Monin ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพ ไม่ใช่พวกของถูกๆ อย่างยี่ห้อขวดละ 70-80 บาทครับ เครื่องบด 2 ตัวน่าจะมี ยี่ห้อ Anfim เครื่องบดกาแฟสัญชาติอิตาลี เกรดโปร ทนทาน บดนิ่ง ได้ผงกาแฟคุณภาพสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับร้านกาแฟที่ต้องการความเป๊ะ อีกตัวน่าจะเป็น APRESSO A7 เครื่องบดกาแฟสายลุย เฟืองใหญ่ บดไว ราคาจับต้องได้ สำหรับร้านที่ต้องการความคุ้มค่าแต่ยังคงคุณภาพ
ดูจากเครื่องชง เครื่องบด และไซรัปก็บอกได้เลยว่าเจ้าของร้านใส่ใจและลงทุนกับอุปกรณ์และวัตถุดิบที่ดีจริงๆ ครับ
ส่วนเรื่องราคา กาแฟ Americano 90 บาท ถ้าเทียบกับราคาในกรุงเทพฯ ร้านดีๆ ผมจะให้เรทประมาณ 60-65 บาท แต่สำหรับ Amore Beach Cafe ชะอำ ผมรู้สึกว่าราคานี้ ไม่ได้ over มาก เลยครับ เพราะผมให้ค่า ความสวยงามของสถานที่ ทั้งการตกแต่ง บรรยากาศที่ดี รวมถึง เครื่องมือ เครื่องชง และ วัตถุดิบ ที่เขาเลือกใช้ครับ รสชาติกาแฟก็ดีงามสมราคา ไม่ผิดหวังเลยครับ
สรุปอุปกรณ์ สุดโหด
- เครื่องสกัดกาแฟ La Marzocco น่าจะเป็นรุ่น Linea Classic รุ่นยอดนิยม ทนถึก บาริสต้าชอบใช้กัน
- เครื่องบดตัวซ้ายที่ดูใหญ่หน่อย น่าจะเป็น APRESSO A7
- เครื่องบดตัวกลาง น่าจะเป็น Anfim น่าจะเป็น Scody ll
บอกเลยว่าชุดนี้ของแรงทั้งนั้น ร้านกาแฟจัดเต็ม!
ส่วนแฟนผมสั่งแนว Mocktail ชื่อเมนู Sunshine อะไรสักอย่าง ราคา 110 บาท ผมชิมแล้วรู้สึก โอเคสุขใจ รสชาติ สดชื่น กำลังดี ดื่มแล้วรู้สึกพร้อมที่จะไปถ่ายรูปให้แฟนริมหาดต่อได้เลยครับ! ราคานี้ถือว่า สมเหตุสมผล ครับ
สรุปแล้ว... ชะอำยังมีของดีซ่อนอยู่
แม้ว่าทริปนี้จะเริ่มต้นด้วยความผิดหวังจากคาเฟ่หลายร้านที่ไม่ได้อย่างใจ แต่การได้เจอ Amore Beach Cafe ชะอำ ที่ประทับใจโดยบังเอิญก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ดีมากๆ ครับ ทำให้รู้ว่าชะอำยังมีคาเฟ่ดีๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ เพียงแค่ต้องใช้เวลาค้นหาและอาจจะต้องเปิดใจลองร้านใหม่ๆ ครับ ใครไปชะอำแล้วอยากลองกาแฟดีๆ ในบรรยากาศสบายๆ แนะนำ Amore Beach Cafe ชะอำ เลยครับ!
แฟนผมให้ 10/10 เลย ส่วนผมโดยรวมให้ 8/10
เพื่อนๆ คนไหนมีประสบการณ์เจอคาเฟ่ลับที่ชะอำ หรืออยากแนะนำร้านไหนเพิ่มเติม คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะครับ! เผื่อทริปหน้าจะได้ตามรอยไปลองบ้างครับ 😊