กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ตามกฎหมายใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 ตุลาคม 2568

โดยรวมเราว่าเป็นกองทุนที่ดีต่อลูกจ้างมาก  

แต่ในแง่ของการบริหารตัวโครงการ  เราไม่เห็นว่าจะต่างกับประกันสังคมเท่าไหร่   ทำไม่ต้องตั้งหน่วยแยกออกมาให้เปลืองงบประมาณแผ่นดิน  แทนที่จะเพิ่มอัตราการหักเงินไปเก็บประกันสังคมเพิ่มซึ่งๆ หน้าเลย   เช่น ตั้งแต่ 1 ตุลาคมจะหักเก็บประกันสังคมเพิ่มอีก 0.25%-0.5%

1.  ประหยัดภาษีประชาชน   เพราะการตั้งหน่วยงานเพิ่ม ต้องมีการจ้างพนักงาน, จ้างผู้บริหารระดับสูง, เช่าพื้นที่, ตั้งระบบ, ซื้อเครื่องคอมพ์, เดินสาย, ต่อเน็ต, ซื้อเฟอร์ ฯลฯ  ซึ่งถ้าหากเราไปเพิ่มในประกันสังคม   ของบางส่วนเราใช้ร่วมกันได้  ประหยัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้เยอะมาก

2.  บริษัททำบัญชีง่าย   แทนที่จะต้องแยกหัก แยกส่งสองที่  ก็หักออก และส่งที่เดียว

3.  ประชาชนสะดวกสบาย  หากตกงานต้องไปยื่นเรื่องเบิกเงิน   แทนที่จะต้องกรอกเอกสาร 2 ฟอร์ม  เดินทางไปยื่นเรื่อง2แห่ง 2รอบ  ก็สามารถทำทีเดียวได้เลยที่ประกันสังคมได้เลย  ไม่วุ่นวาย  มาตรฐานเดียวกัน

ตอนนี้ข้อดีอย่างเดียวเลยขอการแยกกองทุนนี้ออกมาคือ   การได้หน้าได้ตาของรัฐบาล    

เพราะพอตั้งหน่วยงานแยกออกมา  คนที่ได้หน้าคือรัฐบาลชุดนี้  ไม่ใช่ชุดที่ก่อตั้งกองทุนประกันสังคม    เหมือนโครงการเที่ยวหรือคนละครึ่ง  ตอนนั้นแอพเป๋าตังฮิตทั่วไทยมาก  ปรับปรุงระบบจนรองรับโครงการต่างๆได้มากมาย   ตอนไปเที่ยวตจว.ในไทยเพื่ออุดหนุนโรงแรมต่างๆ ก็สะดวกกดๆไม่กี่ปุ่มก็ได้ส่วนลดแล้ว  แต่พอเปลี่ยนรัฐบาล  โครงการพวกนี้ก็ไม่มีใครแตะอีกเลยลงทุนพัฒนาไปเยอะ เสียดายมากก

เพื่อนๆ ว่ามันมีข้อดีอะไรอีกถึงต้องแยกโครงการนี้ออกมาจากกองทุนประกันสังคม  เพราะเราคิดไม่ออกจริงๆ  เงินภาษีวิ่งออกสองหน่วยงาน  หาเรื่องวุ่นวายเพิ่มขึ้นแท้ๆ