? คุณเคยรู้สึกรักใครสักคน ทำดีกับเขาทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งคุณไปมั้ยครับ
? คุณเคยทุ่มเททำดีกับใคร แล้วเขาไม่เห็นค่าในสิ่งๆนั้นไหมครับ
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะครับ อาจจะยาวนิดนึง เริ่มกันเลยครับ
PART-1 : ที่มาของกระทู้นี้
ที่มามันเริ่มมาจาก วันนี้ผมฝันร้ายครับ ผมฝันว่าน้าสาวผมวิ่งไล่ล่าผม แล้วผมก็กลัวมากๆ
ผมเลยสะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมหงุดหงิดมากๆ เพราะ นอนได้ไม่เต็มอิ่ม (ผมได้นอนแค่ 7 ชั่วโมงเอง ปกติผมต้องนอน 9ชั่วโมง+ ถึงจะสดชื่น)
ประเด็นคือ ทำไมผมถึงกลัวน้าสาวผมขนาดนั้น? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ก่อน? ใจเย็นๆครับ นักเขียนฝึกหัดกำลังฝึกเขียน
ผมเกิดมาในครอบครัวที่เคยผ่าน สงครามกลางเมือง (Cambodian Civil War) มาก่อน
อาม่าผม พ่อผม แม่ผม น้าสาวผม และ พี่น้องของแม่ ก็เช่นกัน
ซึ่ง มันทำให้ พ่อ แม่ น้าสาวผม ต้องเผชิญเหตุการณ์ความยากลำบากตั้งแต่เด็กๆ
แม่ผม และ พ่อผม ต้องทำงานเอาตัวรอดตั้งแต่เด็กมากๆ (~10ขวบ)
ช่วงชีวิตวัยเด็ก จนถึงวัยกลางคน พ่อกับแม่ รวมถึงน้าสาวผม ต้องทำงานหนักมากๆเพื่อแค่ให้มีเงินมาซื้อข้าว เลี้ยงดูลูกๆ หลานๆ และ อาม่าผมที่แก่ชรา
เขาไม่มีเวลามานั่งพักหายใจหายคอ มานั่งสนใจเรื่องอะไรเลย เอาแค่ให้ไม่อดตายก็ยากแล้ว
แล้ววันหนึ่ง ผมก็เกิดมาตอนที่แม่ผม ~40 ในครอบครัวที่ อยู่ใน survival โหมด มาทั้งชีวิต
ครอบครัวผม เขาเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่ง พูดไม่เก่ง แสดงความรู้สึกไปเป็น (สกิล = 0)
เพราะ เขาไม่เคยมีโอกาสได้มานั่งฝึก ชีวิตเขาแต่เด็กจนโตต้องเอาตัวรอด อยู่ใน survival โหมด มาเกือบจะทั้งชีวิต
ในใจลึกๆ เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับคนทั่วๆไปนั่นแหละครับ มีความรัก ความโกรธ ตามประสามนุษย์ที่มีหัวใจ
เขาเองก็เคยรู้สึกรักใครสักคนนะ ในใจลึกๆเขารักผมมากๆ แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันไม่มีใครรู้หรอกว่า ในใจลึกๆ เขารู้สึกอย่างไร จนกว่าเขา จะแสดงความรู้สึกในใจออกมา เพื่อ สื่อสารให้คนอื่นๆรับรู้
มันไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณรู้สึกอย่างไร จนกว่าคุณจะแสดงออก มันออกมา
เพราะฉนั้น สกิลการสื่อสาร สกิลการแสดงออก มันถึงสำคัญมากๆ
กลับไปที่ ที่มาของกระทู้นี้ ว่า ทำไมผมถึงวิ่งหนีน้าสาวของผมในฝัน
ตอน ม.ต้น ผมย้ายไปอยู่กับน้าสาวผมครับ เพราะ พ่อกับแม่ต้องเลี้ยงดูอาม่าที่แก่ชรา บวกกับ โรงเรียนที่นั่นมันดีกว่าครับ เป็นโรงเรียนใหญ่ประจำจังหวัด
ช่วงเวลาตอน ม.ต้น ของผมเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดมากๆ
น้าสาวผม เขาเป็นคนที่ ปากร้ายมากๆ บ่นเก่ง จู้จี้จุกจิก ไม่รับฟังใคร ฟังใครไม่เป็น
เวลาผมจะพูดอะไรสักอย่าง ไม่เกิน 3วิ เขาจะพูดแทรกขึ้นมาทันที
ผมพูดอะไรไม่ได้เลย อึดอัดมากๆ ถ้าเขาไม่พูดแทรก เขาก็จะเมินผมไปเลย
เขาชอบเอาชนะ ทุกคน เขาวิจารณ์ทุกๆคน ทุกๆอย่าง toxic ขั้นสุด
ในใจลึกๆเขาเป็นคนที่ดีนะครับ เขาเป็นคนที่เป็นห่วงเป็นใยคนอื่น แต่ ด้วยความที่ สกิลการแสดงออกของเขา = 0
จากความเป็นห่วงเป็นใย => กลายเป็นความวิบัติแทน
นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมผมจึงกลัวน้าสาวผม และ เก็บไปเป็นฝันร้าย
______________________________
PART-2 : ความรัก, การแสดงออก, และ การฝึกที่จะรัก
ความรักมันคือสกิลครับ มันต้องฝึกทุกๆวัน
ถ้าในใจคุณรู้สึกรักใครมากๆ แต่คุณแสดงออกไม่เป็น สื่อสารไม่เป็น คุณก็ไม่สามารถส่งต่อความรู้สึกของคุณ ไปหาคนที่คุณรักได้
ไม่มีใครมานั่งคิดวิเคราะห์ถึงการกระทำของคุณหรอก ว่ามันมาจากความรัก คุณต้องสื่อสาร คุณต้องแสดงออกเป็น เขาถึงจะรู้
ผมเคยเจอหลายคนมากๆ ที่เติบโตมาในครอบครัว สิ่งแวดล้อมที่ แสดงออกความรักไม่เป็น
จนส่งผลให้เขา ไม่มีตัวอย่าง หรือ สกิลไปสื่อสาร ความรู้สึกของเขากับคนอื่น
เวลาคนอื่นมองมาที่คนเหล่านี้ สิ่งที่เขารับรู้คือ คนเหล่านี้เขาทำอะไรของเขาวะ ไม่เข้าใจ เช่น
ชอบซื้อของฝากมายัดเยียดให้เรา ชอบทำดี แต่พอไม่พอใจก็พูดจาแย่ๆใส่เรา
ในมุมมองของเขา: (แม่ผมนี่แหละ) เขากำลังแสดงออกความรักอยู่ แต่ผมไม่เก็ต
ในมุมมองของผม: ผมจะเห็นนิสัยแย่ๆของเขาก่อน เช่น พูดจาร้ายๆ แล้วก็ไถ่บาปโดยการทำข้าวให้กิน
ส่วนใหญ่ คนที่แสดงออกความรักไม่เป็น มักไม่เคยได้รับความรู้สึกว่าถูกรัก
คนที่ไม่เคยถูกรัก ก็มักจะโหยหาความรักมากๆ จากคนอื่นๆ
บวกกับ การแสดงออกไม่เป็น มันทำให้คนอื่นๆ รู้สึกอึดอัด
พอคนอื่นเขารู้สึกอึดอัด เขาก็ไม่อยากยุ่ง รักษาระยะห่าง
พอคนๆนั้นที่พยายามโหยหาความรัก และ แสดงออกไม่เป็น เห็นว่าคนอื่นๆเขาตีตัวออกห่าง
เขาก็ตีความไปเป็นว่า ทำบุญกับคนไม่ขึ้น คนอื่นมันไม่ดี ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาทำ
เขาก็จะโกรธ รู้สึกแย่ รู้สึกสูญเสียคุณค่าในตัวเอง แล้วก็โหยหาความรักมากกว่าเดิม
แล้วก็วนลูป ไปเรื่อยๆ
ปัญหามันอยู่ตรงที่
1. เราต้องการความรัก
2. เราสื่อสารไม่เป็น
คำถามคือ เราจะแก้มันยังไง?
______________________________
PART-3 : การฝึกที่จะรัก โดยการรักตัวเอง
แก้ ข้อ2 ก่อน สื่อสารไม่เป็น
ลองจินตนาการว่า คุณอยากทำ กระเพราหมูกรอบไข่ดาว ให้คนที่คุณรักกิน
คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะอร่อยจริงๆ แล้ว คนที่คุณรักจะชอบ?
คุณก็ต้องลองชิมก่อนถูกมั้ย
และ ถ้าคุณอยากให้กระเพราจานนั้นมันอร่อยๆขึ้นๆไปอีก อร่อยที่สุด คุณก็ต้องทำกระเพราเก่งมากๆ ถูกต้องมั้ยครับ
และ วิธีการเดียวที่คุณจะทำกระเพราจานนั้นให้มันอร่อยๆ ทำให้ฝีมือคุณมันดี คุณก็ต้องทำทุกวัน ทำบ่อยๆ ใช่มั้ย
1. อยากทำกระเพราให้คนที่คุณรักกิน
2. คุณก็ต้องทำบ่อยๆ ชิมบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
ความรักก็เหมือนกันครับ
ถ้าคุณอยากรักใครสักคน คุณก็ต้องรักตัวเอง ด้วยตัวเองก่อน
ฝึกฝน เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ทั้งวิธีการพูด พูดยังไงให้สบายใจ
ถ้าเจอสถานการณ์นี้ ต้องทำอย่างไร ต้องพูดอย่างไร
เหมือน เวลาทำกระเพรา พริกชี้ฟ้าหมด ต้องพลิกแพลง ต้องจัดการยังไง
ถ้าเราลองเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เราจะรู้วิธีการทำให้มนุษย์คนหนึ่งสบายใจ มีความสุข
พอคุณรู้วิธีการที่จะทำให้มนุษย์คนนึงมีความสุข คุณก็แค่เอาวิธีเดียวกันไปทำกับคนอื่นๆ
แถม นอกจากจะรู้วิธีการรักมนุษย์คนๆนึงแล้ว การรักตัวเองสามารถเติมเต็มความ อยากที่จะถูกรัก ในใจเราได้ด้วย
แก้ปัญข้อ 1 ไปโดยปริยาย ต้องการความรัก
______________________________
PART-4 : วิธีการรักตัวเอง ภาคปฏิบัติ
ส่วนตัวผมใช้วิธีการ เขียน ลงสมุดบันทึกทุกๆวัน ผมจะคุยกับตัวเองทุกวัน ทั้งระบายความรู้สึก สารภาพความในใจ รับฟังความรู้สึกตัวเอง
เวลามีอะไร ผมจะเอาให้ตัวเองก่อน ผมจะไม่ทรมาณตัวเอง
ผมจะมองตัวเองเป็นเหมือนเพื่อนรักคนหนึ่ง และ ผมอยากทำให้เพื่อนรักคนนี้มีความสุข
แล้วผมก็พยายามทำสิ่งต่างๆให้ตัวเอง อะไรที่ทำกับตัวเองแล้วดี ผมก็เอาไปทำกับคนอื่น
ผมชอบอาบน้ำ ผมก็อาบ
ผมชอบคนพูดเพราะๆ ผมก็พูดกับตัวเองเพราะๆ
ผมชอบคนหน้าตาดี ผมก็ดูแลตัวเอง
มันไม่สำคัญหรอกว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร มันสำคัญว่า ผมรู้สึกอย่างไร
ตราบใดที่มันไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น อะไรที่ดีกับตัวเอง ผมก็จะทำ
ผมอยากให้เพื่อนที่สนิทที่สุดของผม (ซึ่งก็คือผมเอง) มีความสุข
การรักตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว เพราะ ถ้าคุณดูแลตัวเองได้ดี ชีวิตมีความสุข เดี๋ยวพลังงานดีๆที่คุณมีกับตัวเอง มันจะส่งไปหาคนรอบๆตัวคุณ จนสิ่งต่างๆค่อยๆดีขึ้นเอง
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ
รักตัวเองให้มากๆ ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีครับ
หากคุณรู้สึกรักใครสัก (โปรดจงกดอ่าน)
? คุณเคยทุ่มเททำดีกับใคร แล้วเขาไม่เห็นค่าในสิ่งๆนั้นไหมครับ
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะครับ อาจจะยาวนิดนึง เริ่มกันเลยครับ
PART-1 : ที่มาของกระทู้นี้
ที่มามันเริ่มมาจาก วันนี้ผมฝันร้ายครับ ผมฝันว่าน้าสาวผมวิ่งไล่ล่าผม แล้วผมก็กลัวมากๆ
ผมเลยสะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมหงุดหงิดมากๆ เพราะ นอนได้ไม่เต็มอิ่ม (ผมได้นอนแค่ 7 ชั่วโมงเอง ปกติผมต้องนอน 9ชั่วโมง+ ถึงจะสดชื่น)
ประเด็นคือ ทำไมผมถึงกลัวน้าสาวผมขนาดนั้น? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ก่อน? ใจเย็นๆครับ นักเขียนฝึกหัดกำลังฝึกเขียน
ผมเกิดมาในครอบครัวที่เคยผ่าน สงครามกลางเมือง (Cambodian Civil War) มาก่อน
อาม่าผม พ่อผม แม่ผม น้าสาวผม และ พี่น้องของแม่ ก็เช่นกัน
ซึ่ง มันทำให้ พ่อ แม่ น้าสาวผม ต้องเผชิญเหตุการณ์ความยากลำบากตั้งแต่เด็กๆ
แม่ผม และ พ่อผม ต้องทำงานเอาตัวรอดตั้งแต่เด็กมากๆ (~10ขวบ)
ช่วงชีวิตวัยเด็ก จนถึงวัยกลางคน พ่อกับแม่ รวมถึงน้าสาวผม ต้องทำงานหนักมากๆเพื่อแค่ให้มีเงินมาซื้อข้าว เลี้ยงดูลูกๆ หลานๆ และ อาม่าผมที่แก่ชรา
เขาไม่มีเวลามานั่งพักหายใจหายคอ มานั่งสนใจเรื่องอะไรเลย เอาแค่ให้ไม่อดตายก็ยากแล้ว
แล้ววันหนึ่ง ผมก็เกิดมาตอนที่แม่ผม ~40 ในครอบครัวที่ อยู่ใน survival โหมด มาทั้งชีวิต
ครอบครัวผม เขาเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่ง พูดไม่เก่ง แสดงความรู้สึกไปเป็น (สกิล = 0)
เพราะ เขาไม่เคยมีโอกาสได้มานั่งฝึก ชีวิตเขาแต่เด็กจนโตต้องเอาตัวรอด อยู่ใน survival โหมด มาเกือบจะทั้งชีวิต
ในใจลึกๆ เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับคนทั่วๆไปนั่นแหละครับ มีความรัก ความโกรธ ตามประสามนุษย์ที่มีหัวใจ
เขาเองก็เคยรู้สึกรักใครสักคนนะ ในใจลึกๆเขารักผมมากๆ แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันไม่มีใครรู้หรอกว่า ในใจลึกๆ เขารู้สึกอย่างไร จนกว่าเขา จะแสดงความรู้สึกในใจออกมา เพื่อ สื่อสารให้คนอื่นๆรับรู้
มันไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณรู้สึกอย่างไร จนกว่าคุณจะแสดงออก มันออกมา
เพราะฉนั้น สกิลการสื่อสาร สกิลการแสดงออก มันถึงสำคัญมากๆ
กลับไปที่ ที่มาของกระทู้นี้ ว่า ทำไมผมถึงวิ่งหนีน้าสาวของผมในฝัน
ตอน ม.ต้น ผมย้ายไปอยู่กับน้าสาวผมครับ เพราะ พ่อกับแม่ต้องเลี้ยงดูอาม่าที่แก่ชรา บวกกับ โรงเรียนที่นั่นมันดีกว่าครับ เป็นโรงเรียนใหญ่ประจำจังหวัด
ช่วงเวลาตอน ม.ต้น ของผมเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดมากๆ
น้าสาวผม เขาเป็นคนที่ ปากร้ายมากๆ บ่นเก่ง จู้จี้จุกจิก ไม่รับฟังใคร ฟังใครไม่เป็น
เวลาผมจะพูดอะไรสักอย่าง ไม่เกิน 3วิ เขาจะพูดแทรกขึ้นมาทันที
ผมพูดอะไรไม่ได้เลย อึดอัดมากๆ ถ้าเขาไม่พูดแทรก เขาก็จะเมินผมไปเลย
เขาชอบเอาชนะ ทุกคน เขาวิจารณ์ทุกๆคน ทุกๆอย่าง toxic ขั้นสุด
ในใจลึกๆเขาเป็นคนที่ดีนะครับ เขาเป็นคนที่เป็นห่วงเป็นใยคนอื่น แต่ ด้วยความที่ สกิลการแสดงออกของเขา = 0
จากความเป็นห่วงเป็นใย => กลายเป็นความวิบัติแทน
นั่นจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมผมจึงกลัวน้าสาวผม และ เก็บไปเป็นฝันร้าย
______________________________
PART-2 : ความรัก, การแสดงออก, และ การฝึกที่จะรัก
ความรักมันคือสกิลครับ มันต้องฝึกทุกๆวัน
ถ้าในใจคุณรู้สึกรักใครมากๆ แต่คุณแสดงออกไม่เป็น สื่อสารไม่เป็น คุณก็ไม่สามารถส่งต่อความรู้สึกของคุณ ไปหาคนที่คุณรักได้
ไม่มีใครมานั่งคิดวิเคราะห์ถึงการกระทำของคุณหรอก ว่ามันมาจากความรัก คุณต้องสื่อสาร คุณต้องแสดงออกเป็น เขาถึงจะรู้
ผมเคยเจอหลายคนมากๆ ที่เติบโตมาในครอบครัว สิ่งแวดล้อมที่ แสดงออกความรักไม่เป็น
จนส่งผลให้เขา ไม่มีตัวอย่าง หรือ สกิลไปสื่อสาร ความรู้สึกของเขากับคนอื่น
เวลาคนอื่นมองมาที่คนเหล่านี้ สิ่งที่เขารับรู้คือ คนเหล่านี้เขาทำอะไรของเขาวะ ไม่เข้าใจ เช่น
ชอบซื้อของฝากมายัดเยียดให้เรา ชอบทำดี แต่พอไม่พอใจก็พูดจาแย่ๆใส่เรา
ในมุมมองของเขา: (แม่ผมนี่แหละ) เขากำลังแสดงออกความรักอยู่ แต่ผมไม่เก็ต
ในมุมมองของผม: ผมจะเห็นนิสัยแย่ๆของเขาก่อน เช่น พูดจาร้ายๆ แล้วก็ไถ่บาปโดยการทำข้าวให้กิน
ส่วนใหญ่ คนที่แสดงออกความรักไม่เป็น มักไม่เคยได้รับความรู้สึกว่าถูกรัก
คนที่ไม่เคยถูกรัก ก็มักจะโหยหาความรักมากๆ จากคนอื่นๆ
บวกกับ การแสดงออกไม่เป็น มันทำให้คนอื่นๆ รู้สึกอึดอัด
พอคนอื่นเขารู้สึกอึดอัด เขาก็ไม่อยากยุ่ง รักษาระยะห่าง
พอคนๆนั้นที่พยายามโหยหาความรัก และ แสดงออกไม่เป็น เห็นว่าคนอื่นๆเขาตีตัวออกห่าง
เขาก็ตีความไปเป็นว่า ทำบุญกับคนไม่ขึ้น คนอื่นมันไม่ดี ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เขาทำ
เขาก็จะโกรธ รู้สึกแย่ รู้สึกสูญเสียคุณค่าในตัวเอง แล้วก็โหยหาความรักมากกว่าเดิม
แล้วก็วนลูป ไปเรื่อยๆ
ปัญหามันอยู่ตรงที่
1. เราต้องการความรัก
2. เราสื่อสารไม่เป็น
คำถามคือ เราจะแก้มันยังไง?
______________________________
PART-3 : การฝึกที่จะรัก โดยการรักตัวเอง
แก้ ข้อ2 ก่อน สื่อสารไม่เป็น
ลองจินตนาการว่า คุณอยากทำ กระเพราหมูกรอบไข่ดาว ให้คนที่คุณรักกิน
คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะอร่อยจริงๆ แล้ว คนที่คุณรักจะชอบ?
คุณก็ต้องลองชิมก่อนถูกมั้ย
และ ถ้าคุณอยากให้กระเพราจานนั้นมันอร่อยๆขึ้นๆไปอีก อร่อยที่สุด คุณก็ต้องทำกระเพราเก่งมากๆ ถูกต้องมั้ยครับ
และ วิธีการเดียวที่คุณจะทำกระเพราจานนั้นให้มันอร่อยๆ ทำให้ฝีมือคุณมันดี คุณก็ต้องทำทุกวัน ทำบ่อยๆ ใช่มั้ย
1. อยากทำกระเพราให้คนที่คุณรักกิน
2. คุณก็ต้องทำบ่อยๆ ชิมบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
ความรักก็เหมือนกันครับ
ถ้าคุณอยากรักใครสักคน คุณก็ต้องรักตัวเอง ด้วยตัวเองก่อน
ฝึกฝน เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ทั้งวิธีการพูด พูดยังไงให้สบายใจ
ถ้าเจอสถานการณ์นี้ ต้องทำอย่างไร ต้องพูดอย่างไร
เหมือน เวลาทำกระเพรา พริกชี้ฟ้าหมด ต้องพลิกแพลง ต้องจัดการยังไง
ถ้าเราลองเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เราจะรู้วิธีการทำให้มนุษย์คนหนึ่งสบายใจ มีความสุข
พอคุณรู้วิธีการที่จะทำให้มนุษย์คนนึงมีความสุข คุณก็แค่เอาวิธีเดียวกันไปทำกับคนอื่นๆ
แถม นอกจากจะรู้วิธีการรักมนุษย์คนๆนึงแล้ว การรักตัวเองสามารถเติมเต็มความ อยากที่จะถูกรัก ในใจเราได้ด้วย
แก้ปัญข้อ 1 ไปโดยปริยาย ต้องการความรัก
______________________________
PART-4 : วิธีการรักตัวเอง ภาคปฏิบัติ
ส่วนตัวผมใช้วิธีการ เขียน ลงสมุดบันทึกทุกๆวัน ผมจะคุยกับตัวเองทุกวัน ทั้งระบายความรู้สึก สารภาพความในใจ รับฟังความรู้สึกตัวเอง
เวลามีอะไร ผมจะเอาให้ตัวเองก่อน ผมจะไม่ทรมาณตัวเอง
ผมจะมองตัวเองเป็นเหมือนเพื่อนรักคนหนึ่ง และ ผมอยากทำให้เพื่อนรักคนนี้มีความสุข
แล้วผมก็พยายามทำสิ่งต่างๆให้ตัวเอง อะไรที่ทำกับตัวเองแล้วดี ผมก็เอาไปทำกับคนอื่น
ผมชอบอาบน้ำ ผมก็อาบ
ผมชอบคนพูดเพราะๆ ผมก็พูดกับตัวเองเพราะๆ
ผมชอบคนหน้าตาดี ผมก็ดูแลตัวเอง
มันไม่สำคัญหรอกว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร มันสำคัญว่า ผมรู้สึกอย่างไร
ตราบใดที่มันไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น อะไรที่ดีกับตัวเอง ผมก็จะทำ
ผมอยากให้เพื่อนที่สนิทที่สุดของผม (ซึ่งก็คือผมเอง) มีความสุข
การรักตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว เพราะ ถ้าคุณดูแลตัวเองได้ดี ชีวิตมีความสุข เดี๋ยวพลังงานดีๆที่คุณมีกับตัวเอง มันจะส่งไปหาคนรอบๆตัวคุณ จนสิ่งต่างๆค่อยๆดีขึ้นเอง
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ
รักตัวเองให้มากๆ ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีครับ