เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ผ่าฟันคุดกับรพ.รัฐขนาดเล็กที่นึง หลังจากยาชาหมดหลังจากนั้นก็เริ่มเจ็บปวดเลยค่ะ เจ็บร้าวขึ้นหูขึ้นลูกตาขึ้นหัว เราก็กินยาฆ่าเชื้อตรงตามเวลา ส่วนพารากับไอบูโพรเฟนกินตามอาการ เราลองสังเกตุอาการแล้วหบังจากกินยาแก้ปวด ประมาณ 3 ชม.ถึงจะเริ่มปวดอีก เหมือนยามันฤทธิ์ เราก็ต้องกินแบบนี้อ่ะค่ะ 3-4 ชม.กินทีสลับกันกิน ชม.นี้ไอบู ชม.นี้พารา ถ้าไม่กินมันจะเจ็บมาก เจ็บแบบทำอะไรต่อไม่ได้เลย ไม่มีสมาธิจะทำอะไรเลย นอนไม่ได้เลย ข้างที่ผ่าฟันคุดหูวิ๊งด้วยค่ะ เราก็ทนกินยาแก้ปวด 3-4 ชม.กินครั้ง จนเข้าวันที่ 4 กลางคืน วันนั้นไม่รู้ทำไมกินยาแล้วไม่ดีขึ้นเลย ก็ยังอยู่บ้านเฝ้าดูอาการจนกลางคืน มันปวดหูปวดลูกตาปวดหัวซีกขวาที่ผ่ามากๆ เราเลยตัดสินใจไปรพ.รัฐที่ใหญ่เลยเพื่อไปขอให้หมอฉีดยาแก้ปวดให้ เพราะรพ.ที่ผ่าคุดให้เรามันเป็นรพ.รัฐเล็กๆ ปิดเสาร์-อาทิตย์ แล้วคืนนั้นที่เราไม่ไหวแล้วดันตรงกับวันอาทิตย์พอดี เข้าห้องฉุกเฉินไปปุ๊บเห็นพยาบาล 2 คน หลับฟุบกับโต๊ะ เราเข้าไป ก็ซักประวัติอยู่แปปนึง แล้วเค้าก็ให้เราขึ้นไปนอนบนเปล บริเวณรอบๆ ไม่มีคนไข้เลยค่ะ เตียง เปลก็ไม่มี โล่งมากๆ มีแค่เราคนเดียวที่เป็นคนไข้ พยาบาลบอกเดียวเรียกหมอให้แล้วเค้าก็เดินไปนอนฟุบกับโต๊ะเหมือนเดิม เราก็ได้แต่นอนรออยู่แบบนั้นเกือบชม.มีคนไข้เข้ามาเพิ่ม มาด้วยอาการ เวียนหัว คลื่นไส้ มาฉีดยาแบบเรา ถึงเวลานั้นพยาบาลถึงจะเรียกหมอ หมอเดินออกมาจากห้องพักจนท.ใกล้ๆไม่ไกลมากจากที่ที่เรานอนอยู่ หมอเดินมาถามชื่อละก็อาการแบบรีบๆ เรายังพูดไม่จบว่าเรามีอาการอะไรบ้าง หมอพูดพร้อมสบัดมือส่ายหน้าหมอเองว่า ไม่รู้ๆๆ หมอไม่ใช่หมอฟัน เราก็ยังพยายามแทรกหาจังหวะอธิบายต่อ หมอเค้าก็พูดแบบเดิม เออๆๆนั่นแหละ ไม่รู้ ไม่ใช่หมอฟัน เสียวค่อนข้างดัง พี่เตียงข้างๆที่พึ่งมาเหมือนจะทำหน้าอึ้งๆตกใจแล้วหันมาหาเรา เพราะตอนนั้นเราก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เราก็ไปรับยาจากห้องยาแล้วให้ะยาบาลมาฉีดให้ พยบ.ฉีดให้เสร็จก็บอกเราว่านอนรอดูอาการ 20 นาที ถ้าไม่มีอาการอะไรก็กลับไปเลยแล้วก็กลับไปฟุบต่อที่โต๊ะ ก่อนกลับบ้าน ย่าเราเคยทำงานที่รพ.นี้กำลังคุยกับรุ่นน้องพยาบาล เราก็เล่าต่อหน้าย่าละก็รุ่นน้องย่าว่าเราเจออะไรบ้างในห้องฉุกเฉิน พี่พยบ.ที่เป็รุ่นน้องย่าคนนี้เค้าบอกว่า มันปกติ ถ้าคนไข้นอกเวลา ไม่ฉุกเฉินมาก พยาบาลยังไม่กล้าเรียกหมอหรอก เดียวโดนด่า แค่คนไข้คนเดียว ไว้ให้มีคนไข้เริ่มมาอีกดิค่อยเรียก เค้าให้นอนรออยู่แบบนั้นนั่นแหละ จนกว่าจะมีคนไข้เข้ามาเพิ่มอีกสักคนหมอถึงจะออกมาเพราะจะได้รักษาทีเดียวไปเลยไม่ต้องเดินเข้าออกห้องบ่อย เราสงสัยว่าแบบนี้มันก็ได้หรอคะ