ไม่รู้สมัยนี้ ยังเหลือคนใช้ front ขนาด 1 din อยู่สักกี่คน ? .. แต่อย่างน้อย ก็คงมีบ้านผมอยู่ในนั้นแหละ ทั้งผม ทั้งพ่อ แหละ
- ประเด็น ไม่มีอะไรมาก .. เจ้า Clarion HX-D2 ที่ถอดมาจาก Pulsar ตอนขายรถ แล้วโยกไปใส่ Jazz GE ของพ่อ เริ่มงอแง ไม่อ่านแผ่น ซึ่งจริงๆมันเริ่มมีอาการบ้างตอนท้ายๆของ Pulsar แล้วล่ะ .. แล้วพ่อผมก็อารมณ์ อยากลองของใหม่มั่ง ก็เลยจัดให้
Clarion HX-D2 .. ผมฝากพี่เต้า ร้าน Mock Up ส่งซ่อมนะครับ มีคนขายหัวอ่านแท้ อยู่พอดี บอกเค้า ถ้ามันไม่ดี ให้เปลี่ยนเลย ซึ่งก็ตามคาด โดนไป 2,500 บาท แล้วก็เอามาเก็บสำรอง เผื่ออีกตัวใน City มีปัญหา (เจ้านี่ หลังๆนานๆที ใส่แผ่นเข้าไป ก็คายออกเหมือนกันนะ)
ตัวเลือก
ผมมีตัวเลือกให้พ่อ 2 ตัว นั่น คือ
1. Pioneer DEH-S5250BT
2. JVC KD-T952BT
ซึ่งใจผมน่ะ เชียร์ JVC อยู่ละ และหาได้ราวๆ 2,8XX บาทเอง ในขณะที่ Pioneer หาได้จากร้านคลองถม 2 ที่ 3,600 บาท อีกอย่าง สเปคของ JVC เหมือนจะสูงกว่าเพราะ Pre out 3 ชุด / DAC Burr Brown ด้วย
แต่นั่นแหละ .. มาคิดได้ว่า ใส่ไป เราก็ไม่ได้ฟัง งั้นก็เอาตามใจคนฟังละกัน นั่นคือ Pioneer DEH-S5250BT ครับ
สั่งจาก ร้านคลองถม 2 ครับ เพราะหาแล้วถูกที่สุด ถูกกว่าใน shopee ครับ
Unbox ออกมา ก็จะประมาณนี้ครับ
- Pre out 2 ชุด
- มี BT
- มีช่องเสียบ USB ที่ชาร์จไฟได้ 1.5A
สมัยนี้ เค้ายังมีกล่องเก็บหน้ากากกันขโมยอีกแฮะ .. มันไม่น่าจะหายแล้วมั้ง
กับ
รีโมทเนี่ย จะได้ใช้แค่ตอนจูนเสียงเวลาแอมป์อยู่ท้ายรถนี่แหละ
- ได้มาแล้ว .. จริงๆขี้เกียจวุ่นวาย ก็โยนไปให้พ่อ เอาไปติดเอง .. ปรากฎว่า พอเอาไปร้านแถวบ้าน ไปถึง ช่างรื้อออกมา เห็นสายไฟ แล้วก็ประกอบกลับ บอก "ต้องไปร้าน Hi-end สายไฟเยอะแยะไปหมด ไม่กล้ารื้อ"
- ใครเคยเห็นเจ้า Clarion HX-D2 ก็จะทราบว่า มันมีกล่องไฟแยกอีกกล่อง กับ ปลั๊กท้ายเครื่องเยอะหน่อย ใครไม่เคยก็จะตกใจแหละ
อ้าว งั้นก็หน้าที่ผมล่ะสิ !!! .. จริงๆ แอบเสียวพวกรื้อแล้วทำ D2 ผมพังด้วยแหละ
งั้นเอารถมายืมก่อนสักวันละกันเนอะ
- ไหนดูไมล์กันหน่อย .. 3 แสนกว่ากม.แล้วนะ
- วิ่งจาก ลาดกระบัง ไป สำโรง เช้าๆ รถไม่เยอะ ดูอัตราสิ้นเปลืองสิ .. ไม่แพ้ นังสามสูบ พันโบ นะ
ติดตั้ง + ลองฟัง
- เสร็จธุระครึ่งวันเช้า ก็วิ่งจาก สำโรง ไป ลาดพร้าว 16 .. ไปถึง ช่าง + เจ้าของร้าน ก็ลุยเลย แถมมีคำสั่ง จากพ่อผม ให้ bi-cap เข้าไปที่ crossover network ด้วย .. จริงๆตอนใส่ D2 แกก็สั่ง แต่ผมเบี้ยว เพราะมันดึกแล้ว 55+
- จัดไป .. ตัวชมพูเล็กๆนั่นแหละ คร่อมแหลม / คร่อม woofer .. ใช้ cap ของ wima พ่อบอก ของเยอรมันด้วย
ถามว่า .. ต่างไหม ?
คำตอบ คือ .. ต่างครับ .. ทั้งช่าง ทั้งผม เป็นพวกชอบพิสูจน์ไง ก็ต้องข้างเดียว แล้วโยก balance ฟังดิ .. เออ เสียงแหลมมันเนียนขึ้น มันกร้านน้อยลง
กลับมาบอกพ่อ .. พ่อคุยใหญ่ .. ของเยอรมันแท้ๆ เชียวนะ 55+
- ชุด crossover อยู่ใต้เบาะคนขับ .. ท่ายาก ก็มา
- ลืมๆ มีของขลังอีกอัน ตะกั่วเงิน WBT มีเงินผสม 4% มั้ง สั่งมา 2 เมตร เพราะเผื่อใช้ในอนาคตด้วย ทีแรกกะเอา 8% ละ ซึ่งช่างก็บอกว่า ดีแล้ว .. เอา 8% มา บัดกรียากมาก .. แต่ผมไม่เอา 8% เพราะคิดว่า เงินเยอะไป เดี๋ยวแหลมมันคม .. สั่ง shopee แหละ ร้อยกว่าบาท
- หน้ารถก็รื้อไป .. ยากตรงไหน ช่างรื้อแป้บเดียวเอง
- เรียบร้อย หล่อๆ
ฟังเสียงครั้งแรก
- เปิดมาครั้งแรก .. โห .. นี่มัน pioneer ชัดๆเลย (ก็แน่ล่ะ มัน pioneer นี่นา)
กลางแห้งๆ
แหลมแข็งๆ พุ่งๆ หน่อย
- ถ้าเคยฟัง pioneer รถยนต์ยุค 30 ปีก่อนมายังไง เจ้านี่ก็อย่างนั้นแหละ ไม่ได้บอกว่า ไม่ดีนะ เพราะของแบบนี้แฟนใคร แฟนมัน เพียงแต่ จำได้ว่า มันหายไปตอน P80 ที่ใส่ใน Civic FD แล้วก็มาได้ยินอีกที ในพวกจอ 2din ซีรี่ส์ Z 5XXX อะไรสักอย่าง
แต่นั่นคือ การเปิดฟังครั้งแรก ไม่ได้ปรับอะไรใดๆ ทั้งสิ้นครับ ยังไม่เบิร์นด้วยครับ
มาลองอีกครั้ง หลังเบิร์น
- ทิ้งเวลาไป 2 - 3 สัปดาห์ ซึ่งน่าจะเบิร์นละ รวมถึง ผ่านการปรับจูนเสียงจากพ่อผม มาระดับหนึ่งละ
เสียงร้อง : หวานขึ้น ไม่บาง ไม่หนา กำลังดี
เสียงแหลม : ดีกว่าเดิมเยอะ มีรายละเอียด แต่ ยังคงเหลือความแข็ง ความแห้ง แบบของ pioneer อยู่นิดนึง แต่น้อยกว่าตอนแรกเยอะ
เสียงเบส : อันนี้ ยังบวมๆกวนๆ ยังไม่เข้าที่ครับ
โดยรวม สำหรับ pioneer ก็ยังยืนยันว่า แนวฟังเพลงสนุก มันส์ๆ ใช้ได้ครับ
ถ้าเทียบกับ JVC เหรอ ? .. รายนั้น เสียงร้องจะอวบอิ่ม มีน้ำมีนวล สปีดจะช้ากว่า เบสจะลูกโตอวบๆ แต่เก็บตัวช้ากว่า แหลมฟังสบาย ไม่กัดหู แต่ไม่ทอดยาวครับ
ก็แล้วแต่ว่า ชอบแนวไหนแหละ
ประมาณนี้ครับ ขอบคุณครับ
ฝากช่อง Youtube เหมือนเดิมครับ แต่ไม่มีคลิปเพลงให้ฟังนะครับ กลัวติดลิขสิทธิ์ หรือ มีเพลงไหน ไม่ติดลิขสิทธิ์ ใครทราบฝากแจ้งหน่อย เคยเห็นของ เบิร์ดกะฮาร์ท บอกว่า เอาไปใช้ได้ แต่ไม่รู้ว่า ลง youtube จะติดไหม ? เพราะจริงๆ อยากอัดคลิปเทียบเสียงของสายแต่ละยี่ห้อเลย สนุกดีนะ มานั่งจับความต่างผ่านคลิป ผมเชื่อว่า ฟังออก
* * * เปลี่ยน Front 1 Din Pioneer DEH-S5250BT ให้ Jazz GE ดีกว่า * * *
- ประเด็น ไม่มีอะไรมาก .. เจ้า Clarion HX-D2 ที่ถอดมาจาก Pulsar ตอนขายรถ แล้วโยกไปใส่ Jazz GE ของพ่อ เริ่มงอแง ไม่อ่านแผ่น ซึ่งจริงๆมันเริ่มมีอาการบ้างตอนท้ายๆของ Pulsar แล้วล่ะ .. แล้วพ่อผมก็อารมณ์ อยากลองของใหม่มั่ง ก็เลยจัดให้
Clarion HX-D2 .. ผมฝากพี่เต้า ร้าน Mock Up ส่งซ่อมนะครับ มีคนขายหัวอ่านแท้ อยู่พอดี บอกเค้า ถ้ามันไม่ดี ให้เปลี่ยนเลย ซึ่งก็ตามคาด โดนไป 2,500 บาท แล้วก็เอามาเก็บสำรอง เผื่ออีกตัวใน City มีปัญหา (เจ้านี่ หลังๆนานๆที ใส่แผ่นเข้าไป ก็คายออกเหมือนกันนะ)
ตัวเลือก
ผมมีตัวเลือกให้พ่อ 2 ตัว นั่น คือ
1. Pioneer DEH-S5250BT
2. JVC KD-T952BT
ซึ่งใจผมน่ะ เชียร์ JVC อยู่ละ และหาได้ราวๆ 2,8XX บาทเอง ในขณะที่ Pioneer หาได้จากร้านคลองถม 2 ที่ 3,600 บาท อีกอย่าง สเปคของ JVC เหมือนจะสูงกว่าเพราะ Pre out 3 ชุด / DAC Burr Brown ด้วย
แต่นั่นแหละ .. มาคิดได้ว่า ใส่ไป เราก็ไม่ได้ฟัง งั้นก็เอาตามใจคนฟังละกัน นั่นคือ Pioneer DEH-S5250BT ครับ
สั่งจาก ร้านคลองถม 2 ครับ เพราะหาแล้วถูกที่สุด ถูกกว่าใน shopee ครับ
Unbox ออกมา ก็จะประมาณนี้ครับ
- Pre out 2 ชุด
- มี BT
- มีช่องเสียบ USB ที่ชาร์จไฟได้ 1.5A
สมัยนี้ เค้ายังมีกล่องเก็บหน้ากากกันขโมยอีกแฮะ .. มันไม่น่าจะหายแล้วมั้ง
กับ
รีโมทเนี่ย จะได้ใช้แค่ตอนจูนเสียงเวลาแอมป์อยู่ท้ายรถนี่แหละ
- ได้มาแล้ว .. จริงๆขี้เกียจวุ่นวาย ก็โยนไปให้พ่อ เอาไปติดเอง .. ปรากฎว่า พอเอาไปร้านแถวบ้าน ไปถึง ช่างรื้อออกมา เห็นสายไฟ แล้วก็ประกอบกลับ บอก "ต้องไปร้าน Hi-end สายไฟเยอะแยะไปหมด ไม่กล้ารื้อ"
- ใครเคยเห็นเจ้า Clarion HX-D2 ก็จะทราบว่า มันมีกล่องไฟแยกอีกกล่อง กับ ปลั๊กท้ายเครื่องเยอะหน่อย ใครไม่เคยก็จะตกใจแหละ
อ้าว งั้นก็หน้าที่ผมล่ะสิ !!! .. จริงๆ แอบเสียวพวกรื้อแล้วทำ D2 ผมพังด้วยแหละ
งั้นเอารถมายืมก่อนสักวันละกันเนอะ
- ไหนดูไมล์กันหน่อย .. 3 แสนกว่ากม.แล้วนะ
- วิ่งจาก ลาดกระบัง ไป สำโรง เช้าๆ รถไม่เยอะ ดูอัตราสิ้นเปลืองสิ .. ไม่แพ้ นังสามสูบ พันโบ นะ
ติดตั้ง + ลองฟัง
- เสร็จธุระครึ่งวันเช้า ก็วิ่งจาก สำโรง ไป ลาดพร้าว 16 .. ไปถึง ช่าง + เจ้าของร้าน ก็ลุยเลย แถมมีคำสั่ง จากพ่อผม ให้ bi-cap เข้าไปที่ crossover network ด้วย .. จริงๆตอนใส่ D2 แกก็สั่ง แต่ผมเบี้ยว เพราะมันดึกแล้ว 55+
- จัดไป .. ตัวชมพูเล็กๆนั่นแหละ คร่อมแหลม / คร่อม woofer .. ใช้ cap ของ wima พ่อบอก ของเยอรมันด้วย
ถามว่า .. ต่างไหม ?
คำตอบ คือ .. ต่างครับ .. ทั้งช่าง ทั้งผม เป็นพวกชอบพิสูจน์ไง ก็ต้องข้างเดียว แล้วโยก balance ฟังดิ .. เออ เสียงแหลมมันเนียนขึ้น มันกร้านน้อยลง
กลับมาบอกพ่อ .. พ่อคุยใหญ่ .. ของเยอรมันแท้ๆ เชียวนะ 55+
- ชุด crossover อยู่ใต้เบาะคนขับ .. ท่ายาก ก็มา
- ลืมๆ มีของขลังอีกอัน ตะกั่วเงิน WBT มีเงินผสม 4% มั้ง สั่งมา 2 เมตร เพราะเผื่อใช้ในอนาคตด้วย ทีแรกกะเอา 8% ละ ซึ่งช่างก็บอกว่า ดีแล้ว .. เอา 8% มา บัดกรียากมาก .. แต่ผมไม่เอา 8% เพราะคิดว่า เงินเยอะไป เดี๋ยวแหลมมันคม .. สั่ง shopee แหละ ร้อยกว่าบาท
- หน้ารถก็รื้อไป .. ยากตรงไหน ช่างรื้อแป้บเดียวเอง
- เรียบร้อย หล่อๆ
ฟังเสียงครั้งแรก
- เปิดมาครั้งแรก .. โห .. นี่มัน pioneer ชัดๆเลย (ก็แน่ล่ะ มัน pioneer นี่นา)
กลางแห้งๆ
แหลมแข็งๆ พุ่งๆ หน่อย
- ถ้าเคยฟัง pioneer รถยนต์ยุค 30 ปีก่อนมายังไง เจ้านี่ก็อย่างนั้นแหละ ไม่ได้บอกว่า ไม่ดีนะ เพราะของแบบนี้แฟนใคร แฟนมัน เพียงแต่ จำได้ว่า มันหายไปตอน P80 ที่ใส่ใน Civic FD แล้วก็มาได้ยินอีกที ในพวกจอ 2din ซีรี่ส์ Z 5XXX อะไรสักอย่าง
แต่นั่นคือ การเปิดฟังครั้งแรก ไม่ได้ปรับอะไรใดๆ ทั้งสิ้นครับ ยังไม่เบิร์นด้วยครับ
มาลองอีกครั้ง หลังเบิร์น
- ทิ้งเวลาไป 2 - 3 สัปดาห์ ซึ่งน่าจะเบิร์นละ รวมถึง ผ่านการปรับจูนเสียงจากพ่อผม มาระดับหนึ่งละ
เสียงร้อง : หวานขึ้น ไม่บาง ไม่หนา กำลังดี
เสียงแหลม : ดีกว่าเดิมเยอะ มีรายละเอียด แต่ ยังคงเหลือความแข็ง ความแห้ง แบบของ pioneer อยู่นิดนึง แต่น้อยกว่าตอนแรกเยอะ
เสียงเบส : อันนี้ ยังบวมๆกวนๆ ยังไม่เข้าที่ครับ
โดยรวม สำหรับ pioneer ก็ยังยืนยันว่า แนวฟังเพลงสนุก มันส์ๆ ใช้ได้ครับ
ถ้าเทียบกับ JVC เหรอ ? .. รายนั้น เสียงร้องจะอวบอิ่ม มีน้ำมีนวล สปีดจะช้ากว่า เบสจะลูกโตอวบๆ แต่เก็บตัวช้ากว่า แหลมฟังสบาย ไม่กัดหู แต่ไม่ทอดยาวครับ
ก็แล้วแต่ว่า ชอบแนวไหนแหละ
ประมาณนี้ครับ ขอบคุณครับ
ฝากช่อง Youtube เหมือนเดิมครับ แต่ไม่มีคลิปเพลงให้ฟังนะครับ กลัวติดลิขสิทธิ์ หรือ มีเพลงไหน ไม่ติดลิขสิทธิ์ ใครทราบฝากแจ้งหน่อย เคยเห็นของ เบิร์ดกะฮาร์ท บอกว่า เอาไปใช้ได้ แต่ไม่รู้ว่า ลง youtube จะติดไหม ? เพราะจริงๆ อยากอัดคลิปเทียบเสียงของสายแต่ละยี่ห้อเลย สนุกดีนะ มานั่งจับความต่างผ่านคลิป ผมเชื่อว่า ฟังออก