JJNY : ณัฐชา ยันดุเดือดแน่ ถกงบ’69│ปชน.จ่อเพิ่มอำนาจผู้ว่าฯกทม.│ตะกอนน้ำมันดำเกลื่อนหาดแม่รำพึง│ข้อพิพาทส่อกระทบการศีกษา

ณัฐชา ยันดุเดือดแน่ ถกงบ’69 ในสถานการณ์สั่นคลอน พรรคร่วมซ่อนงบอื้อ สะสมแต้มเผื่อมีเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5197616
.
.
“ปชน.“ ยัน อภิปรายงบ 69 ล็อกเป้าทุกกระทรวง ชี้ พรรคร่วมฯ ซ่อนงบ ทำโครงการไว้เป็นแต้มต่อสำหรับเลือกตั้ง มอง เพิ่มงบกลาโหม เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน เหตุไม่พึ่งกองทัพคงไม่มีวันนี้
.
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณประจำปี 2569 ระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคมนี้ว่า ได้จัดยุทธศาสตร์ไว้เรียบร้อย และเตรียมความพร้อมไว้เลยว่าการอภิปรายงบประมาณฯ วาระหนึ่ง ซึ่งเราก็โปรยสโลแกนไว้แล้วว่า รอบนี้เราช่วยหาเงินให้รัฐบาลด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลมีการวางกรอบวงเงินงบประมาณไว้ไม่สอดคล้อง หรือสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่กรอบวงเงินงบประมาณ และโครงการที่มีการของบประมาณไปแล้วไม่ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง รวมถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้รับปากไว้กับพี่น้องประชาชน แต่เมื่อเราเปิดดู พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี’69 ก็จะมองไม่เห็นในรายละเอียดที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้ นั่นหมายความว่า คำพูดของผู้นำประเทศไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ถ้าอนุมัติตามกรอบวงเงินประมาณปี’69
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนได้ล็อกเป้าการอภิปรายไปที่กระทรวงไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ล็อกทุกกระทรวง ยิงทุกกระทรวงแน่นอน เพราะในการทำงานเป็นทีม วันนี้เราจะเห็นได้ชัดว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็ทำกันไปคนละทิศคนละทาง เริ่มมีกระบวนการที่จะชิงไหวชิงพริบ ชิงความโดดเด่น เพราะมีสัญญาณที่อาจจะมีการรับรู้ได้ว่าใกล้จะมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว แต่ละพรรคการเมืองก็จะเริ่มใช้กลไกกระทรวงของตัวเองไปในทิศทางของการหาเสียงล่วงหน้า ดังนั้น ในการของบประมาณปี 2569 เราก็จะโฟกัสเป็นพิเศษว่าแต่ละพรรคการเมืองพยายามทำอะไรอยู่
.
เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กำลังมีปัญหากับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาล จะส่งผลต่อการผ่านร่างงบปี 2569 ด้วยหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ตนคิดว่างบประมาณปี 2569 ดุเดือดแน่นอน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองก็เริ่มมีความสั่นคลอน และมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างแล้ว จึงเชื่อว่าในการอภิปรายงบครั้งนี้ในเวลาทั้ง 4 วัน จะทำให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่า ในขณะนี้ทางรัฐบาลสามารถไปต่อได้อีกไกลแค่ไหน และในกรอบวงเงินงบประมาณปี 2569 มีการซ่อนโครงการอะไรอยู่ไว้ใช้เพื่อเป็นแต้มต่อทางการเมือง สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่
.
เมื่อถามว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมและด้านความมั่นคงปีนี้เพิ่มมากขึ้น นายณัฐชากล่าวว่า ก็น่าจะเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน เพราะวันนี้เราเห็นได้ชัดว่า ตัวนายกรัฐมนตรีถ้าไม่พึ่งทหาร หรือกองทัพ ก็คงไม่มีวันนี้ ฉะนั้นประโยชน์ต่างตอบแทนเดียวที่สามารถทำได้คือ แลกเปลี่ยนในเรื่องงบประมาณ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เราจะเห็นได้ชัดว่า ในวันนี้ความต้องการของประชาชนจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ที่เป็นปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่การอนุมัติวงเงินงบประมาณอันดับหนึ่งกลับกลายเป็นในเรื่องต่างตอบแทนเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งอำนาจ จึงเป็นการทำให้ประชาชนเห็นได้ชัดว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้มันส่งผลพวง และผลกระทบมาเป็นวงกว้างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2569 ด้วย
.

.
ปชน.จ่อเพิ่มอำนาจผู้ว่าฯกทม. ระดมไอเดียแก้กม. ยังอุบชื่อผู้สมัคร ยันทาบทามไว้แล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5197734
.
“ปชน.” จัดเวทีระดมความเห็น แก้ร่าง พ.ร.บ.กทม. เพิ่มอำนาจผู้ว่าฯ จัดบริการสาธารณะ กระจายอํานาจ 2 ชั้น ชูโมเดลโตเกียว-ลอนดอน “ณัฐชา” เผย ทาบทามคนชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ ไว้แล้ว แต่ขออุบชื่อ มั่นใจ คนกทม.เลือกแน่
.
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคประชาชน (ปชน.) จัดกิจกรรมเสวนา และวงรับฟังความเห็นประชาชน ต่อการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กทม. นําโดย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายฉัตรชัย หมอดี ส.ก.เขตบางนา
.
นายณัฐชา กล่าวว่า ระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เรามีผู้ว่า กทม.ที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว แต่จะได้ยินหลายครั้งว่า มีปัญหาในการบริหารงานเรื่องของอำนาจหน้าที่ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ในหลายโอกาส ซึ่งพรรคประชาชนและทีม ส.ก.ของพรรค ได้รวบรวมปัญหา และออกเป็นร่าง พ.ร.บ.กทม.ฉบับใหม่ โดยจะลงรายละเอียด ในเงื่อนไขต่างๆ และเปลี่ยนโฉม กทม.ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
.
วันนี้ถือเป็นจุดแรกเริ่มในการทลายข้อจํากัด และพันธนาการ และเวทีในวันนี้จะมีการเปิดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชน พรรคประชาชนมีความตั้งใจที่จะแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กทม.ให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง เพราะหากล่าช้าจะทำให้คน กทม.เสียโอกาส ซึ่งพรรคประชาชนได้เรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีในฐานะที่มองเห็นความสําคัญของประชาชน ก็ควรจะหันมามองปัญหาต่างๆ ที่ติดขัดและฉุดรั้งการทำงานของผู้ว่า กทม.
.
นายณัฐชา กล่าวว่า อยากให้เห็นความสำคัญ ในการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.กทม. ส่วนจะเสนอร่างไปในทิศทางใดไม่ว่ากัน รายละเอียดมาปรับแก้กันได้ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) แต่อยากให้มีจุดเริ่มต้นด้วยกันก่อน เพราะปัญหาใน กทม.หลายเรื่อง ติดขัดข้อกฎหมายในเรื่องกรอบอำนาจหน้าที่ ถึงเวลาแล้วที่ต้องมอบอำนาจให้กับประชาชน รวมถึงพรรคการเมืองต่างๆ และประชาชน สามารถเสนอความเห็นเพื่อร่วมกันแก้
.
ด้าน นายวรภพ กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้รวบรวมปัญหา และเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.กทม.นั้น เรื่องที่จะแก้ไขคือ
.
1. แก้ไขและปลดล็อคอำนาจของผู้ว่า กทม. ไม่สามารถบริหารบริการสาธารณะ โดยไม่ติดขัดข้อกฎหมาย โดยสามารถบริหารบริการสาธารณะได้ทั้งหมด ยกเว้นที่ห้ามไว้ เช่นเรื่องกองทัพ เงินตรา ศาล สัญญาระหว่างประเทศ และสร้างความยืดหยุ่น มอบอํานาจให้เอกชนเข้ามาช่วยจัดทำบริการสาธารณะ
.
2. ปลดล็อคทางการเงินการคลัง ให้ กทม. สามารถกำหนดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเองได้ เช่นค่าธรรมเนียมโรงแรม ที่ปัจจุบันทาง กทม.ยังไม่สามารถจัดทําได้ รวมถึงการกู้เงินและออกพันธบัตร หรือร่วมทุนกับเอกชน ตั้งบริษัทรัฐวิสาหกิจของ กทม. ให้สามารถจัดทำได้เอง โดยไม่ต้องขออนุญาต แค่ผ่านสภา กทม. เพื่อให้ดูแลชาว กทม. 5 ล้านคน และประชากรแฝง 3-5 ล้านคนได้
.
3. ให้มีการถ่ายโอนการกระจายอำนาจจากส่วนกลางมาไว้ที่ กทม.ให้มากขึ้นและทำได้จริง โดยกำหนดแผนขั้นตอนการกระจายอำนาจ ฉบับที่ 1(2) ที่ต้องถ่ายโอนให้ กทม.นานแล้ว ให้ถ่ายโอนภายใน 1 ปี เช่น การดูแลโรงแรม โรงงานต่างๆ
.
4. ปรับรูปแบบองค์กรปกครองพิเศษของ กทม.ให้เป็นท้องถิ่น 2 ชั้น ชั้นบนคือระดับ กทม. ชั้นล่างระดับเขต ให้ผู้บริหารระดับเขตมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เพื่อให้สามารถดูแลประชาชนได้มากขึ้น รูปแบบจะคล้ายกับรูปแบบมหานครในต่างประเทศ เช่น โซล โตเกียว และลอนดอน
.
5. รับรองสิทธิพลเมืองและเพิ่มการมีส่วนร่วม ให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อ เสนอญัตติเร่งแก้ปัญหาในสภา กทม.ได้ รวมถึงให้ประชาชนสามารถเสนอโครงการและงบประมาณเข้าสภา กทม.ได้ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำงบประมาณมากขึ้น รวมถึงการทำประชามติ
.
ด้าน นายฉัตรชัย กล่าวสะท้อนปัญหาการบริหารราชการ กทม. ว่า ในเรื่องระบบสาธารณูปโภค เช่นน้ำ ไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบจราจร กทม.ไม่มีอำนาจในการบริหารหรือจัดการ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้เสนอ ขอบัญญัติเข้าสู่สภา กทม.ผ่านสภา กทม.แล้ว แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า กทม.ไม่มีอำนาจในการออกของบัญญัติฉบับดังกล่าว คือรถเมล์อนาคต หากวันนั้นสภากทม.ผ่านเทศบัญญัติ และผู้ว่าฯ เซ็นรับรอง อีก 5 ปี กทม.ก็จะมีรถไฟฟ้าทั่ว กทม.
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า จากนี้พรรคประชาชนจะเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจลงสมัคร ส.ก. และขณะนี้ประชาชนอยู่ระหว่างคัดสรรผู้ที่จะลงสมัครผู้ว่า กทม.ในนามพรรคประชาชน โดยจะเปิดตัวพร้อมกันทั้งผู้สมัครผู้ว่า กทม. ส.ก. 50 เขต และนโยบายต่างๆ ที่จะนำไปสู่การแก้ไข เป็นหมุดหมายสำคัญที่อยากให้ชาว กทม.ติดตาม
.
ทั้งนี้ ในส่วนผู้สมัครผู้ว่า กทม.มีการทาบทามไว้แล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่คน เพราะจะทำให้ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นใคร และทำให้คนที่ไม่ถูกคัดเลือกเสียหาย แต่ยืนยันว่า ขณะนี้มีการทำงานร่วมกันกับพรรคแล้ว และหากคนที่ถูกทาบทามไม่ได้รับคัดเลือกลงชิงตำแหน่ง ก็จะอยู่ในทีมบริหารของผู้ว่าฯ ส่วนจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่า มีความเชี่ยวชาญในทุกด้าน
.
เมื่อถามยํ้าว่า มาจากนักวิชาการภาคเอกชนหรือหน่วยงานรัฐ นายณัฐชา หัวเราะและกล่าวติดตลกว่า “ถ้าถามผมละเอียดขนาดนี้ ถามชื่อและนามสกุลเลยดีกว่า”
.
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า ตัวผู้สมัครจะสามารถสู้กระแสของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม.คนปัจจุบันได้ใช่หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า พรรคประชาชน เป็นพรรคอันดับหนึ่งของประเทศ และ ส.ส.กทม.ได้รับการยอมรับ ชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 เห็นได้ชัดว่า ชาว กทม.ให้ความไว้วางใจพรรคประชาชน ซึ่งตัวบุคคลที่เราคัดเลือกมา ไม่ได้นำมาเป็นคู่เปรียบเทียบใดๆ แต่ตั้งใจมาทำงานให้กับประชาชน ดังนั้น ในตัวนโยบายและบุคคล ประชาชนจะสามารถมั่นใจว่า จะแก้ปัญหาได้ และไม่ติดขัดข้อจำกัดใดๆ กล้าที่จะแก้ไขและออกนอกกรอบ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แก้ปัญหาให้กับชาว กทม.
.

.
ตะกอนน้ำมันดำเกลื่อนหาดแม่รำพึง นักท่องเที่ยว-ร้านอาหารเงียบเหงา
.
ตะกอนน้ำมันดำเกลื่อนหาดแม่รำพึง นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำไม่ได้ ร้านอาหารเตียงผ้าใบว่างเปล่า ชาวประมงหวั่นลมสลาตันมาซ้ำจะขึ้นมาอีกเพียบ 
.
วันที่ 24 พ.ค. 68 ที่ชายหาดแม่รำพึง หมู่ 10 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง บริเวณชายหาดนั้นมีคราบดำ เกลื่อนหาดระยะทางยาว 500 ถึง 1กิโลเมตร ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวนั้น ไม่กล้าลงเล่นน้ำ และบางกลุ่มมาถึงก็ต้องเดินทางกลับทันที เพราะไม่สามารถนั่งพักผ่อนได้
นายณรงค์ ท่วมเจริญ อายุ 50 ปี เล่าว่า สีดำๆที่เห็นนั้นเป็นคราบคาร์บอนคราบตะกอนน้ำมันที่เคยรั่วไหลตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งระยะหลังช่วงนี้คราบตะกอนนั้นได้ขึ้นมาเกลื่อนหาด ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากๆ 
.
นางสริตา อักษรศรี อายุ 49 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า คราบดำๆ ที่มันขึ้นมา ตนก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล และก็ยังกังวลว่าสัตว์น้ำในทะเลนั้นจะกินตะกอนพวกนี้ไปหรือเปล่า หรือตะกอนพวกนี้มันเป็นผลทำให้สัตว์น้ำลดน้อยลงอีกหรือไม่ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่