ในที่สุดก็ถึงเวลาสำหรับมหกรรมหนัง Summer 2025 ที่จะมีภาพยนตร์น่าสนใจเปิดตัวเข้าฉายต่อเนื่องกันแทบทุกสัปดาห์ยาวนานเกิน 2 เดือน โดยเปิดหัวด้วย Lilo & Stitch และ Mission: Impossible – The Final Reckoning ที่ผนึกกำลัง Double-Feature กันสร้างความคึกคักให้ Box Office อเมริกาเหนือเป็นอย่างมาก คล้ายคลึงกับสุดสัปดาห์ Barbenheimer เมื่อกลางปี 2023 ที่ Barbie และ Oppenheimer หนังฟอร์มใหญ่ที่แตกต่างกันคนละขั้วเปิดตัวเข้าฉายพร้อมกันจนสร้างปรากฎการณ์รายได้ไปทั่วโลกทั้ง 2 เรื่อง เพราะต่างก็ส่งเสริมกันให้เกิดบรรยากาศที่คนอยากออกไปดูหนังกันทุกช่วงวัย ทุกกลุ่มอายุ มาปีนี้ต้องจับตาดูว่าทั้ง Stitch แลt MI รวมร่างกับ Final Destination: Bloodlines, Sinners, Thunderbolts) จะสามารถพา Memorial Day Weekend ปี 2025 ทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ 314 ล้านเหรียญเมื่อปี 2013 (Fast & Furious 6, The Hangover Part III, Star Trek Into Darkness, Epic, Iron Man 3, The Great Gatsby) ได้หรือไม่
Lilo & Stitch (Disney)
ภาพยนตร์ Live-Action ที่รีเมกจาก Animation สุดฮิตของตัวเอง มาคราวนี้ Stitch ไม่ใช่ตัวละครโนเนมอีกต่อไป บวกกับความน่ารักจาก CGI ล้ำๆที่สร้างให้ Stitch มีชีงวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมด้วยการโปรโมทแบบสุดติ่ง (ในอเมริกา) ทำให้ยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าของ Lilo & Stitch พุ่งทะยานไม่หยุด คาดหมายกันว่า Lilo & stitch จะทำรายได้รอบพรีวิววันพฤหัสราว 14-15 ล้านเหรียญ ทำรายได้ 3 วัน 150-160 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วัน 185-195 ล้านเหรียญ เรียกว่ากวาดเงินกันสั่น Box Office กันเลยทีเดียว
Mission: Impossible – The Final Reckoning (Paramount)
ได้เวลาส่งท้ายอำลาป๋าทอมกับแฟรนไชส์ Mission Impossible ด้วยภาคสุดท้ายที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ และคำชมจากคนดูที่ว่าดูสนุกไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนจบเรื่อง ไม่งงเหมือนภาค Dead Reckoning โดย Tom Cruise และทีมงานกำลังเดินสาย World Tour โปรโมทหนัง จากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ไปฉายรอบพิเศษที่ Cannes ฉายรอบ Premier ที่ London และจะปิดท้ายด้วยการปรากฎตัวที่ Texas ในวันนี้ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือจนถึงวันอังคารที่ผ่านมา Mission: Impossible – The Final Reckoning สามารถทำรายได้จากตลาดต่างประเทศบางตลาดที่เปิดตัวฉายกันไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. (รวมทั้งไทยด้วย) ไปแล้วมากกว่า 40 ล้านเหรียญ และคาดกันว่า MI ภาคล่าสุดที่โกยโรงฉาย IMAX ไปแทบจะทั้งหมดจะทำรายได้ในบ้านรอบพรีวิววันพฤหัสไป 8-9 ล้านเหรียญ รายได้ 3 วัน 60-65 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วัน 80+- ล้านเหรียญ
Final Destination: Bloodlines (WB)
กลายเป็น Surprise Hit สำหรับปีนี้ไปเรียบร้อยสำหรับ Final Destination ภาคใหม่ล่าสุดที่ทำออกมาโดนใจทั้งนักวิจารณ์และคนดู แม้จะได้เกรด CinemaScore = B+ ซึ่งแม้จะถือว่าดีสำหรับหนังสยองขวัญแต่ก็ดูจะน้อยไปนิดสำหรับหนังที่ได้รับเสียงตอบรับล้นหลามขนาดนี้ (ควรจะได้ซัก A-) แต่ก็ไม่ได้หยุด FDB จากการกระหน่ำทำเงินแต่อย่างใด โดยรายได้รวมถึงวันพุธที่ 21 พ.ค.อยู่ที่ 67 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังที่ทำรายได้ในบ้านสูงที่สุดของแฟรนไชส์ทั้ง 6 ภาคไปแล้วเรียบร้อยทั้งๆที่ฉายมาแค่ 6 วันเท่านั้น ในสุดสัปดาห์นี้คาดเดารายได้ค่อนข้างยากเพราะจะได้รับผลกระทบจากหนังใหญ่เข้าใหม่ถึง 2 เรื่อง แต่คาดว่า Final Destination: Bloodlines จะทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ 3 วันที่ 15-20 ล้านเหรียญ และ 4 วัน 20-25 ล้านเหรียญ ไปขึ้นแท่นเตรียมเป้นหนังทำเงินในบ้านระดับ 100 ล้านเป็นเรื่องแรกของแฟรนไชส์นี้
Sinners (WB)
หลังจากที่ขับเคี่ยวกับ Thunderbolts ในสุดสัปดาห์ที่แล้วและแพ้ไปอย่างหวุดหวิด คาดดว่าสุดสัปดาห์นี้ Sinners จะกลับขึ้นมาทำรายได้มากกว่า โดยคาดว่าหนังบลูส์แวมไพร์เรื่องนี้จะทำรายได้ 3 วัน 10-11 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วัน 13-15 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปอยู่ที่ราว 260 ล้านเหรียญ ซึ่งหลังจากที่ WB เลื่อนการออก PVOD จากสัปดาห์ออกไปเป็นวันที่ 3 มิถุนา ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการดัน Sinners ไปให้ถึง 300 ล้านหรือใกล้เคียงให้มากที่สุด
Thunderbolts (Disney)
ยังทำเงินต่อไปเรื่อยๆสำหรับ The New Avengers โดยสุดสัปดาห์นี้คาดว่าจะหล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 5 โดยทำเงิน 3 วันราว 9-10 ล้านเหรียญ 4 วัน 12-13 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปที่ราว 175 ล้านเหรียญ
The Last Rodeo (Angel Studios)
ผลงาน Drama เนื้อหาเกี่ยวกับนักขี่วัวพยศที่นำแสดงโดย Neil McDonough คาดว่าจะเปิดตัวด้วยรายได้ 3 วันราว 5-6 ล้านเหรียญ และ 4 วัน 6.5-7.5 ล้านเหรียญ นับว่า Angel Studios วางแผนการตลาดได้เฉียบโดยส่งหนัง Drama ลงมาเป็นทางเลือกในช่วงที่มีแต่ Blockbuster มาแข่งกันแบบนี้
สรุป
หากไม่มีอะไรผิดพลาด ภาพยนตร์ทุกเรื่องทำเงินได้ตามเป้าหมาย Memorial Day Weekend 2025 ก็จะสามารถโค่นปี 2013 ลงได้ด้วยสถิติรายได้ 320+ ล้านเหรียญ มันจะเป็นจริงหรือไม่ วันจันทร์หน้าก็จะได้รู้กัน
Stitch & Ethan Hunt เปิดหัว Summer 2025 ลุ้นทำลายสถิติ Memorial Day Weekend
Lilo & Stitch (Disney)
ภาพยนตร์ Live-Action ที่รีเมกจาก Animation สุดฮิตของตัวเอง มาคราวนี้ Stitch ไม่ใช่ตัวละครโนเนมอีกต่อไป บวกกับความน่ารักจาก CGI ล้ำๆที่สร้างให้ Stitch มีชีงวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ แถมด้วยการโปรโมทแบบสุดติ่ง (ในอเมริกา) ทำให้ยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าของ Lilo & Stitch พุ่งทะยานไม่หยุด คาดหมายกันว่า Lilo & stitch จะทำรายได้รอบพรีวิววันพฤหัสราว 14-15 ล้านเหรียญ ทำรายได้ 3 วัน 150-160 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วัน 185-195 ล้านเหรียญ เรียกว่ากวาดเงินกันสั่น Box Office กันเลยทีเดียว
Mission: Impossible – The Final Reckoning (Paramount)
ได้เวลาส่งท้ายอำลาป๋าทอมกับแฟรนไชส์ Mission Impossible ด้วยภาคสุดท้ายที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ และคำชมจากคนดูที่ว่าดูสนุกไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนจบเรื่อง ไม่งงเหมือนภาค Dead Reckoning โดย Tom Cruise และทีมงานกำลังเดินสาย World Tour โปรโมทหนัง จากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ไปฉายรอบพิเศษที่ Cannes ฉายรอบ Premier ที่ London และจะปิดท้ายด้วยการปรากฎตัวที่ Texas ในวันนี้ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือจนถึงวันอังคารที่ผ่านมา Mission: Impossible – The Final Reckoning สามารถทำรายได้จากตลาดต่างประเทศบางตลาดที่เปิดตัวฉายกันไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. (รวมทั้งไทยด้วย) ไปแล้วมากกว่า 40 ล้านเหรียญ และคาดกันว่า MI ภาคล่าสุดที่โกยโรงฉาย IMAX ไปแทบจะทั้งหมดจะทำรายได้ในบ้านรอบพรีวิววันพฤหัสไป 8-9 ล้านเหรียญ รายได้ 3 วัน 60-65 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วัน 80+- ล้านเหรียญ
Final Destination: Bloodlines (WB)
กลายเป็น Surprise Hit สำหรับปีนี้ไปเรียบร้อยสำหรับ Final Destination ภาคใหม่ล่าสุดที่ทำออกมาโดนใจทั้งนักวิจารณ์และคนดู แม้จะได้เกรด CinemaScore = B+ ซึ่งแม้จะถือว่าดีสำหรับหนังสยองขวัญแต่ก็ดูจะน้อยไปนิดสำหรับหนังที่ได้รับเสียงตอบรับล้นหลามขนาดนี้ (ควรจะได้ซัก A-) แต่ก็ไม่ได้หยุด FDB จากการกระหน่ำทำเงินแต่อย่างใด โดยรายได้รวมถึงวันพุธที่ 21 พ.ค.อยู่ที่ 67 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังที่ทำรายได้ในบ้านสูงที่สุดของแฟรนไชส์ทั้ง 6 ภาคไปแล้วเรียบร้อยทั้งๆที่ฉายมาแค่ 6 วันเท่านั้น ในสุดสัปดาห์นี้คาดเดารายได้ค่อนข้างยากเพราะจะได้รับผลกระทบจากหนังใหญ่เข้าใหม่ถึง 2 เรื่อง แต่คาดว่า Final Destination: Bloodlines จะทำรายได้สุดสัปดาห์นี้ 3 วันที่ 15-20 ล้านเหรียญ และ 4 วัน 20-25 ล้านเหรียญ ไปขึ้นแท่นเตรียมเป้นหนังทำเงินในบ้านระดับ 100 ล้านเป็นเรื่องแรกของแฟรนไชส์นี้
Sinners (WB)
หลังจากที่ขับเคี่ยวกับ Thunderbolts ในสุดสัปดาห์ที่แล้วและแพ้ไปอย่างหวุดหวิด คาดดว่าสุดสัปดาห์นี้ Sinners จะกลับขึ้นมาทำรายได้มากกว่า โดยคาดว่าหนังบลูส์แวมไพร์เรื่องนี้จะทำรายได้ 3 วัน 10-11 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วัน 13-15 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปอยู่ที่ราว 260 ล้านเหรียญ ซึ่งหลังจากที่ WB เลื่อนการออก PVOD จากสัปดาห์ออกไปเป็นวันที่ 3 มิถุนา ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการดัน Sinners ไปให้ถึง 300 ล้านหรือใกล้เคียงให้มากที่สุด
Thunderbolts (Disney)
ยังทำเงินต่อไปเรื่อยๆสำหรับ The New Avengers โดยสุดสัปดาห์นี้คาดว่าจะหล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 5 โดยทำเงิน 3 วันราว 9-10 ล้านเหรียญ 4 วัน 12-13 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปที่ราว 175 ล้านเหรียญ
The Last Rodeo (Angel Studios)
ผลงาน Drama เนื้อหาเกี่ยวกับนักขี่วัวพยศที่นำแสดงโดย Neil McDonough คาดว่าจะเปิดตัวด้วยรายได้ 3 วันราว 5-6 ล้านเหรียญ และ 4 วัน 6.5-7.5 ล้านเหรียญ นับว่า Angel Studios วางแผนการตลาดได้เฉียบโดยส่งหนัง Drama ลงมาเป็นทางเลือกในช่วงที่มีแต่ Blockbuster มาแข่งกันแบบนี้
สรุป
หากไม่มีอะไรผิดพลาด ภาพยนตร์ทุกเรื่องทำเงินได้ตามเป้าหมาย Memorial Day Weekend 2025 ก็จะสามารถโค่นปี 2013 ลงได้ด้วยสถิติรายได้ 320+ ล้านเหรียญ มันจะเป็นจริงหรือไม่ วันจันทร์หน้าก็จะได้รู้กัน