ก่อนอื่นเลยแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน "ปีศาจแดง" ได้สถาปนาตัวเองกลายเป็นทีมระดับกลางตารางอย่างเต็มตัว และด้วยฤดูกาลที่ล้มเหลว แม้จะเปลี่ยน ผจก.จาก เอริก เทน ฮาก มาเป็น รูเบน อโมริม แต่กุนซือชาวโปรตุกีส ยังไม่สามารถปลุกให้ผีแดง กลับมาสู่ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง แต่กระนั้นแฟนผีหลายคนรวมถึงบอร์ดบริหารยังมองว่า อโมริม มารับเผือกร้อนทำให้ไม่มีเวลาเตรียมทีมอย่างเต็มที่ ดังนั้น ในฤดูกาล 2025/2026 จะเป็นฤดูกาลที่ อโมริม ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ และนี่คือปัญหาที่อโมริมจะต้องรีบแก้ไขในช่วงซัมเมอร์นี้
1. นายประตูที่รั่วเป็นน้ำ
อังเดร โอนาน่า เฝ้าเสาให้ปีศาจแดงไปแล้ว 94 เกม โดนกะซวกไปถึง 139 ประตู (ข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2568) ในหลายจังหวะ โอนาน่า มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัดกับการพุ่งปัดบอล หรือ ล้มตัวเพื่อเซฟลูกยิงของฝั่งตรงข้าม แถมหลายๆ ครั้งยังอ่านเกมพลาดพาให้ทีมเสียประตูแบบไร้เหตุผล แต่พี่แกยังยึดมือหนึ่งมาได้ไม่รู้ว่ามีของดีอะไร ลองมาดูที่มือสองอย่าง อัลทาย บายินดีร์ ยังไม่ถึงขั้นฝากผีฝากไข้ได้เช่นเดียวกัน นี่คือตำแหน่งแรกที่ อโมริม ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
2.แนวรับที่ยังไม่นิ่ง
ลุค ชอว์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ คือ 2 รายที่แฟนผีอยากให้ปล่อยตัวมากที่สุด รายแรกบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีกจนแฟนผีสุดจะเอือม รายที่สองเวลาก็มักทำให้แฟนๆ ได้มีอะไรให้ลุ้นตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับ ดิโอโก ดาโลต์ ที่สามวันดีสี่วันไข้ เช่นเดียวกับ พาทริค ดอร์กู ที่ยังต้องบ่มเพาะฝีเท้า ส่วนที่พอไว้ใจได้เหลือแค่ เดอ ลิกต์, โยโร แม็กไกวร์, มาร์ติเนซ และ มาซราวี แค่นั้น หาก อโมริม ตัดสินใจที่จะไม่หาแนวรับเพิ่มก็จำเป็นต้องปั้นเด็กขึ้นมา ดาวรุ่งอย่าง แฮร์รี่ อามาส กับ ไอเดน เฮฟเว่น ถือว่าเป็น 2 คนที่พอมีแววจะเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้สบายๆ ส่วน จอห์นนี่ อีแวนส์ ดาวเตะตัวเก๋าอาจจะแขวนสตั๊ดตามที่ตั้งใจไว้ ส่วน ไทเรลล์ มาลาเซีย น่าจะหมดอนาคต
3. แดนกลางที่ยังไม่ลงตัว
การที่ คาเซมิโร กลับมาสร้างผลงานมาสเตอร์พีชได้อีกครั้ง ทำให้แฟนผีหลายคนเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก แต่กระนั้นอย่าลืมว่า ปัจจุบัน คาเซ อายุอานามปาไป 33 ปีแล้ว การจะยืนระยะยาวบนเวทีพรีเมียร์ลีก ลีกที่เคี่ยวอันดับต้นๆ ของโลก คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นทางออกดีสุดคือปล่อยเจ้าตัวไปหาทีมใหม่ และดันให้ มานูเอล อูการ์เต้ ยืนเป็นตัวหลัก พร้อมกันนี้ต้องเคลียร์ใจกับ อเลฮานโดร การ์นาโช ปีกดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ ที่ไม่พอใจเพราะโดนจับเป็นสำรองในเกมนัดชิง ยูโรป้า ลีก ที่พ่ายแพ้ให้กับ สเปอร์ส รวมถึงเรื่องของ บรุโน่ แฟร์นานด์ ที่มีข่าวว่าทีมในซาอุสนใจดึงตัวไป เช่นเดียวกันกับ ค็อบบี้ เมนู ที่งอแงเรื่องสัญญาฉบับใหม่ขณะที่ คริสเตียน อีริกเซ่น น่าจะโบกมือลาทีมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วน เมสัน เมาท์ ถ้าโชคดีอาจจะได้อยู่พิสูจน์ตัวเองอีกปี ขณะที่ อาหมัด ดิอัลโล่ ตอนนี้สถาปนาเป็นลูกรักแฟนผีแล้วไม่น่าจะได้ย้ายไปไหน
4. แดนหน้าที่แสนทื่อ
ราสมุส ฮอยลุนด์, โจชัว เซิร์กเซ่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, จาดอน ซานโช, อันโตนี่ และ ชิโด โอบี นี่คือรายคือนักเตะแนวรุกแดนหน้าของ ปีศาจแดง เวลานี้ เซิร์กเซ่ กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลด้วยสไตล์การที่เชื่อมระหว่างกับหน้า แถมยังวิ่งสู้ฟัดพร้อมลีลาอันสุดสะเด่า คงไม่ถูกขายออกจากทีมแน่นอน ด้าน ฮอยลุนด์ ดาวยิงสากกะเบือ กลายเป็นเป้าโจมตีของแฟนผีแดงรวมถึงสื่ออย่างมาก แม้เจ้าตัวจะเฉิดฉายบนเวทียุโรป แต่ยังไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ไม่แน่ว่าเวลาของเขากับปีศาจแดงอาจจะหมดลงในซีซั่นหน้า ส่วนในรายของ ซานโช่ หมดอนาคตแน่นอน ขณะที่ แรชฟอร์ด ยังมีข่าวว่าอาจจะได้กลับมาสโมสรอีก แต่ถ้า แอสตัน วิลล่า ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจ ปีศาจแดง อาจจะปล่อยดาวยิงทีมชาติอังกฤษไปก็เป็นได้ ส่วนในรายของ ชิโด โอบี ยังถือว่าเป็นดาวรุ่งต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ
5. อโมริม ควรพลิกแพลงแผนการเล่น
อโมริม มาพร้อมกับแผน 3-4-3 เหมือนกับตอนที่คุมสปอร์ตติ้ง ลิสบอน ทำให้แฟนผีส่วนมากคิดว่าแผนนี้น่าจะเวิร์ค แต่เอาเข้าจริงมันกลับกลายเป็นหายนะนักเตะหลายคนที่ชินกับการเล่นระบบหลัง 4 ยังไม่คุ้นกับระบบ หลัง 3 ที่เน้นการเติมเกมรุกจากวิงแบ็ค บวกกับ ปีศาจแดง ไม่มีนักเตะที่จะเล่นตำแหน่งได้อย่างเนียนตา (มี มาซราวี ที่สอบผ่าน) ทำให้หลายๆ ครั้ง การที่เกมรุกจะไหลลื่นกลับกลายเป็นสะดุด แต่กระนั้น อโมริม ยังมั่นใจในระบบการเล่นของตัวเอง ทำให้หลายๆ ครั้งมันขัดใจกับแฟนบอล ที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแผนการเล่น ที่ดีหน่อยคงจะเป็นการดัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นไปแดนหน้า แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร หากอโมริมยังดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเองปัญหาก็ยังคงมีให้เห็นต่อไป
6. บอร์ดที่เป็นไวรัส
ข้อนี้ถือว่าเป็นอะไรที่แก้ได้ยากมาก แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่ค้างคากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเป็นเวลานานนับตั้งแต่ ตระกูลเกลเซอร์เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรช่วงสิ้นปี 2003 แฟนบอลหลายคนต่างหวังจะเห็นนักเตะชื่อดังระดับโลกเดินหน้าเข้าสู่ "โรงละครแห่งความฝัน" แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น แม้ว่าในรุ่นพ่อจะบริหารไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่หลังจาก มัลคอล์ม เสียชีวิตในปี 2014 การบริหารตกสู่รุ่นลูก หายนะอย่างแรกได้เข้ามาเยือนทันที พวกเขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล พวกเขาเน้นแต่เรื่องของธุรกิจเป็นหลัก แต่กระนั้นต้องยอมรับว่าตอนนั้น ปีศาจแดง อยู่ในช่วงผลัดถ่าย ผู้จัดการทีม หลังจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือหลังจบฤดูกาล 2012 - 2013 อาจจะกล่าวได้ว่าทุกอย่างแห่งความหายนะมันลงตัวไปหมด นับตั้งแต่นั้น ปีศาจแดง ไม่เคยกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกเลย แม้จะมีแชมป์บอลถ้วยติดมือมาบ้าง แต่สิ่งที่แฟนๆ ต้องการคือการกลับไปเป็นเบอร์หนึ่งของอังกฤษอีกครั้ง และยิ่งตอนนี้ เซอร์จิม แรดคลิฟฟ์ เข้ามาบริหาร ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เละมากกว่าเดิม เซอร์จิมต้องการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานกวว่า 500 คน รวมถึงยกเลิกตำแหน่งทูตของ ป๋าเฟอร์กี้ และยังรัดเข็มขัดในหลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่สวนทางคือเขามีแผนจะสร้างสนามแห่งใหม่แทนที่ "โอลด์ แทรฟเฟิร์ด" โดยมีตัวเลขสูงถึง 86,000 ล้านบาท มันเลยเป็นสิ่งที่สวนทางกับแนวทางการซื้อนักเตะ เพราะเซอร์จิมประกาศว่าหากต้องการนักเตะใหม่ให้ขายนักเตะเก่าออกจากทีมเพื่อรวมทุน แต่กระนั้นกลับมางบที่จะสร้างสนามใหม่ หากเซอร์จิม อยากให้สโมสรประสบความสำเร็จก็ควรจะหันมาทุ่มกับการหานักเตะเข้ามาเสริมทัพให้ตรงจุดอ่อนของทีมในเวลานี้
ละนี่คือความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนมือใหม่แบบผม ที่วิเคราะห์จากมุมมองของตัวเอง ผิดถูกประการใดผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ยังไงมาคอมเม้นท์คุยกันแบบสุภาพนะครับ.....โอ๊ตดี้
แก้ตรงจุดเพื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด คืนสู่ความยิ่งใหญ่
1. นายประตูที่รั่วเป็นน้ำ
อังเดร โอนาน่า เฝ้าเสาให้ปีศาจแดงไปแล้ว 94 เกม โดนกะซวกไปถึง 139 ประตู (ข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2568) ในหลายจังหวะ โอนาน่า มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัดกับการพุ่งปัดบอล หรือ ล้มตัวเพื่อเซฟลูกยิงของฝั่งตรงข้าม แถมหลายๆ ครั้งยังอ่านเกมพลาดพาให้ทีมเสียประตูแบบไร้เหตุผล แต่พี่แกยังยึดมือหนึ่งมาได้ไม่รู้ว่ามีของดีอะไร ลองมาดูที่มือสองอย่าง อัลทาย บายินดีร์ ยังไม่ถึงขั้นฝากผีฝากไข้ได้เช่นเดียวกัน นี่คือตำแหน่งแรกที่ อโมริม ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
2.แนวรับที่ยังไม่นิ่ง
ลุค ชอว์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ คือ 2 รายที่แฟนผีอยากให้ปล่อยตัวมากที่สุด รายแรกบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีกจนแฟนผีสุดจะเอือม รายที่สองเวลาก็มักทำให้แฟนๆ ได้มีอะไรให้ลุ้นตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับ ดิโอโก ดาโลต์ ที่สามวันดีสี่วันไข้ เช่นเดียวกับ พาทริค ดอร์กู ที่ยังต้องบ่มเพาะฝีเท้า ส่วนที่พอไว้ใจได้เหลือแค่ เดอ ลิกต์, โยโร แม็กไกวร์, มาร์ติเนซ และ มาซราวี แค่นั้น หาก อโมริม ตัดสินใจที่จะไม่หาแนวรับเพิ่มก็จำเป็นต้องปั้นเด็กขึ้นมา ดาวรุ่งอย่าง แฮร์รี่ อามาส กับ ไอเดน เฮฟเว่น ถือว่าเป็น 2 คนที่พอมีแววจะเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้สบายๆ ส่วน จอห์นนี่ อีแวนส์ ดาวเตะตัวเก๋าอาจจะแขวนสตั๊ดตามที่ตั้งใจไว้ ส่วน ไทเรลล์ มาลาเซีย น่าจะหมดอนาคต
3. แดนกลางที่ยังไม่ลงตัว
การที่ คาเซมิโร กลับมาสร้างผลงานมาสเตอร์พีชได้อีกครั้ง ทำให้แฟนผีหลายคนเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก แต่กระนั้นอย่าลืมว่า ปัจจุบัน คาเซ อายุอานามปาไป 33 ปีแล้ว การจะยืนระยะยาวบนเวทีพรีเมียร์ลีก ลีกที่เคี่ยวอันดับต้นๆ ของโลก คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นทางออกดีสุดคือปล่อยเจ้าตัวไปหาทีมใหม่ และดันให้ มานูเอล อูการ์เต้ ยืนเป็นตัวหลัก พร้อมกันนี้ต้องเคลียร์ใจกับ อเลฮานโดร การ์นาโช ปีกดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ ที่ไม่พอใจเพราะโดนจับเป็นสำรองในเกมนัดชิง ยูโรป้า ลีก ที่พ่ายแพ้ให้กับ สเปอร์ส รวมถึงเรื่องของ บรุโน่ แฟร์นานด์ ที่มีข่าวว่าทีมในซาอุสนใจดึงตัวไป เช่นเดียวกันกับ ค็อบบี้ เมนู ที่งอแงเรื่องสัญญาฉบับใหม่ขณะที่ คริสเตียน อีริกเซ่น น่าจะโบกมือลาทีมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วน เมสัน เมาท์ ถ้าโชคดีอาจจะได้อยู่พิสูจน์ตัวเองอีกปี ขณะที่ อาหมัด ดิอัลโล่ ตอนนี้สถาปนาเป็นลูกรักแฟนผีแล้วไม่น่าจะได้ย้ายไปไหน
4. แดนหน้าที่แสนทื่อ
ราสมุส ฮอยลุนด์, โจชัว เซิร์กเซ่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, จาดอน ซานโช, อันโตนี่ และ ชิโด โอบี นี่คือรายคือนักเตะแนวรุกแดนหน้าของ ปีศาจแดง เวลานี้ เซิร์กเซ่ กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลด้วยสไตล์การที่เชื่อมระหว่างกับหน้า แถมยังวิ่งสู้ฟัดพร้อมลีลาอันสุดสะเด่า คงไม่ถูกขายออกจากทีมแน่นอน ด้าน ฮอยลุนด์ ดาวยิงสากกะเบือ กลายเป็นเป้าโจมตีของแฟนผีแดงรวมถึงสื่ออย่างมาก แม้เจ้าตัวจะเฉิดฉายบนเวทียุโรป แต่ยังไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ไม่แน่ว่าเวลาของเขากับปีศาจแดงอาจจะหมดลงในซีซั่นหน้า ส่วนในรายของ ซานโช่ หมดอนาคตแน่นอน ขณะที่ แรชฟอร์ด ยังมีข่าวว่าอาจจะได้กลับมาสโมสรอีก แต่ถ้า แอสตัน วิลล่า ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจ ปีศาจแดง อาจจะปล่อยดาวยิงทีมชาติอังกฤษไปก็เป็นได้ ส่วนในรายของ ชิโด โอบี ยังถือว่าเป็นดาวรุ่งต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ
5. อโมริม ควรพลิกแพลงแผนการเล่น
อโมริม มาพร้อมกับแผน 3-4-3 เหมือนกับตอนที่คุมสปอร์ตติ้ง ลิสบอน ทำให้แฟนผีส่วนมากคิดว่าแผนนี้น่าจะเวิร์ค แต่เอาเข้าจริงมันกลับกลายเป็นหายนะนักเตะหลายคนที่ชินกับการเล่นระบบหลัง 4 ยังไม่คุ้นกับระบบ หลัง 3 ที่เน้นการเติมเกมรุกจากวิงแบ็ค บวกกับ ปีศาจแดง ไม่มีนักเตะที่จะเล่นตำแหน่งได้อย่างเนียนตา (มี มาซราวี ที่สอบผ่าน) ทำให้หลายๆ ครั้ง การที่เกมรุกจะไหลลื่นกลับกลายเป็นสะดุด แต่กระนั้น อโมริม ยังมั่นใจในระบบการเล่นของตัวเอง ทำให้หลายๆ ครั้งมันขัดใจกับแฟนบอล ที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแผนการเล่น ที่ดีหน่อยคงจะเป็นการดัน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นไปแดนหน้า แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร หากอโมริมยังดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเองปัญหาก็ยังคงมีให้เห็นต่อไป
6. บอร์ดที่เป็นไวรัส
ข้อนี้ถือว่าเป็นอะไรที่แก้ได้ยากมาก แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่ค้างคากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเป็นเวลานานนับตั้งแต่ ตระกูลเกลเซอร์เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรช่วงสิ้นปี 2003 แฟนบอลหลายคนต่างหวังจะเห็นนักเตะชื่อดังระดับโลกเดินหน้าเข้าสู่ "โรงละครแห่งความฝัน" แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น แม้ว่าในรุ่นพ่อจะบริหารไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่หลังจาก มัลคอล์ม เสียชีวิตในปี 2014 การบริหารตกสู่รุ่นลูก หายนะอย่างแรกได้เข้ามาเยือนทันที พวกเขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล พวกเขาเน้นแต่เรื่องของธุรกิจเป็นหลัก แต่กระนั้นต้องยอมรับว่าตอนนั้น ปีศาจแดง อยู่ในช่วงผลัดถ่าย ผู้จัดการทีม หลังจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือหลังจบฤดูกาล 2012 - 2013 อาจจะกล่าวได้ว่าทุกอย่างแห่งความหายนะมันลงตัวไปหมด นับตั้งแต่นั้น ปีศาจแดง ไม่เคยกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกเลย แม้จะมีแชมป์บอลถ้วยติดมือมาบ้าง แต่สิ่งที่แฟนๆ ต้องการคือการกลับไปเป็นเบอร์หนึ่งของอังกฤษอีกครั้ง และยิ่งตอนนี้ เซอร์จิม แรดคลิฟฟ์ เข้ามาบริหาร ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เละมากกว่าเดิม เซอร์จิมต้องการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานกวว่า 500 คน รวมถึงยกเลิกตำแหน่งทูตของ ป๋าเฟอร์กี้ และยังรัดเข็มขัดในหลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่สวนทางคือเขามีแผนจะสร้างสนามแห่งใหม่แทนที่ "โอลด์ แทรฟเฟิร์ด" โดยมีตัวเลขสูงถึง 86,000 ล้านบาท มันเลยเป็นสิ่งที่สวนทางกับแนวทางการซื้อนักเตะ เพราะเซอร์จิมประกาศว่าหากต้องการนักเตะใหม่ให้ขายนักเตะเก่าออกจากทีมเพื่อรวมทุน แต่กระนั้นกลับมางบที่จะสร้างสนามใหม่ หากเซอร์จิม อยากให้สโมสรประสบความสำเร็จก็ควรจะหันมาทุ่มกับการหานักเตะเข้ามาเสริมทัพให้ตรงจุดอ่อนของทีมในเวลานี้
ละนี่คือความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนมือใหม่แบบผม ที่วิเคราะห์จากมุมมองของตัวเอง ผิดถูกประการใดผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย ยังไงมาคอมเม้นท์คุยกันแบบสุภาพนะครับ.....โอ๊ตดี้