JJNY : 5in1 ศิริกัญญาถามแค่ไหนถึงประมาท│ปชน.จัด40ส.ส.ถลกงบ│ปชน.เย้ยรบ.│หญิงหน่อยนำทัพบุกแดนมังกร│เกาหลีใต้เผชิญหน้าร้อน

ศิริกัญญา ถามเส้นแบ่งจำนำข้าว แค่ไหนถึงประมาท ชี้ผลกระทบ นักการเมืองไม่กล้าทำโครงการใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5196484
.
.
ไหม โอด แค่ไหนต้องประมาทเลินเล่อ ถามแค่ไหนคือเส้นแบ่ง หลังศาลปกครองสูงสุดสั่ง ‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้ค่าเสียหาย ‘จำนำข้าว’ หมื่นล้าน ชี้ เป็นบรรทัดฐานให้นักการเมืองไม่กล้าทำโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ครม.ต้องดึงขากางเกงกันเอง บอกคงต้องมีแนวปฏิบัติ – ไกด์ไลน์ที่มันรอบคอบมากยิ่งขึ้น
.
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายคดีรับจำนำข้าวจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ว่า คำวินิจฉัยนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินไทยเหมือนกัน ความผิดที่ศาลใช้คำว่าประมาทเลินเล่อโดยร้ายแรง ตกลงแล้วเราต้องทำแค่ไหนจึงถือว่าไม่ประมาทเลินเล่อ ซึ่งศาลตัดสินให้ว่ามีความผิด โดยที่ระบุว่ามีการตักเตือนหลายรอบแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ฝั่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้อยู่เฉย มีการตั้งกรรมการหรืออนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องไปติดตามอีก แล้วจะไปติดตามอะไร อย่างไร จึงเกิดข้อสงสัยว่าเส้นแบ่งอยู่ตรงไหน
.
ถ้าคุณยิ่งลักษณ์มีเจตนาจริงๆ ที่จะปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ มันก็ค่อนข้างชัดเจน แต่พอบอกว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง สำหรับคนที่ต้องดำเนินนโยบายต่อไปในอนาคต มันก็เริ่มทำให้น่าจะเกิดความกังวลใจ และอาจจะทำให้ไม่กล้าทำโครงการอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาในอนาคตก็ได้ เพราะมีบรรทัดฐานแบบนี้เกิดขึ้น” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ถึงแม้จะประมาทเลินเล่อร้ายแรงจริง แต่รูปแบบของการดำเนินนโยบาย จะเป็นในรูปแบบของคณะรัฐมนตรีก็ดีหรือหรือคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) ก็ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นแค่ประธาน ทำไมประธานถึงได้มีความผิดแค่คนเดียว แต่องค์ประกอบของคณะกรรมการนั้นถึงไม่ได้มีความผิดด้วย และถึงแม้เอาความผิดมารวมกันแล้วหารด้วยคณะกรรมการนี้ก็จริง แต่โทษที่จะต้องชดเชยเป็นหมื่นล้าน ได้สัดส่วนแล้วหรือยัง จึงเป็นคำถามอยู่ว่าเฉพาะส่วนที่ประมาทเลินเล่อร้ายแรง มันถึงขั้นเลวร้ายหรือไม่ และต้องได้รับผิดกันกี่คนแน่
.
เมื่อถามว่าในฐานะคนคิดนโยบายพรรคการเมือง พอเจอบรรทัดฐานแบบนี้ กลัวมากขึ้นหรือไม่ หรือต้องชั่งน้ำหนักตอนพูดหาเสียงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องตอนหาเสียง แต่เป็นเรื่องของตอนที่มีการดำเนินนโยบายหลัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจริงๆ
.
โอเค แน่นอนว่าการดำเนินโยบายต่างๆของรัฐบาลต้องมีฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว การตักเตือน การส่งคำเตือนอะไรต่างๆ ก็มีได้ทั้งฝ่ายค้านและข้าราชการประจำอยู่แล้ว ซึ่งถ้ารัฐบาลมีเหตุผลมากเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อก็เดินหน้าต่อ แต่พอมาถึงกรณีที่คอร์รัปชันเกิดขึ้น แล้วต้องทำแค่ไหนถึงจะเพียงพอ ตั้งคณะกรรมการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเฉยๆ ในอำนาจหน้าที่แล้ว ก็ยังไม่เพียงพอด้วยหรือไม่ ต้องมาแชร์ความผิดนี้ด้วย ทำให้ทั้งคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ที่จะต้องเป็นคนคอยดึงขากางเกงกันเองให้ สุดท้ายแล้วไม่สามารถทำนโยบายอะไรได้เลยในอนาคต” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคประชาชนก็น่าจะมีการมอนิเตอร์บ้าง แต่ตนไม่ได้อยู่ในวงมอนิเตอร์ ซึ่งเราก็ไม่อยากให้บรรทัดฐานใหม่มันเป็นแบบนี้ เรารู้สึกว่าอาจจะทำให้เป็นการขัดขวางกระบวนการทำงานของการบริหารราชการแผ่นดินจริงๆ เราก็ต้องมีแนวปฏิบัติ มีไกด์ไลน์อะไรที่มันรอบคอบมากยิ่งขึ้นในอนาคต เมื่อต้องเป็นผู้บริหาร ในเมื่อศาลสร้างบรรทัดฐานใหม่แบบนี้
.

.
ปชน. จัด 40 ส.ส. ถลกงบ’69 ศิริกัญญา จับตา งบกระตุ้นศก.1.57 แสนล้าน หลังรบ.เร่งหน่วยงานส่งในไม่กี่วัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5196694
.
‘ศิริกัญญา’ เผย ‘ปชน.’ เตรียม 40 สส.ถลกงบ‘69 ในธีม ’ช่วยรัฐบาลหาเงิน โอกาสสุดท้าย ก่อนเศรษฐกิจไทยพังจริง‘ ชี้ รบ.ทุ่มงบ 1.57 แสนลบ.กระตุ้น ศก.-เร่งหน่วยงานส่งโครงการในไม่กี่วัน เปิดช่องคนมีโครงการในกระเป๋าอยู่แล้วได้โอกาส ทำคนไม่มีโครงการพลาดโอกาส มอง เสถียรภาพ รบ.ส่งผลโหวตผ่านร่าง
.
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ของพรรคปชน.ว่า ช่วงนี้จะมีการซักซ้อมผู้อภิปรายกันอย่างเข้มข้น เนื่องจากเพิ่งได้รับเอกสารร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา เราพยายามคัดเลือกบุคคลที่จะอภิปรายในหัวข้อและประเด็นต่างๆ ที่จะไม่ซ้ำกันเลย โดยเบื้องต้นน่าจะมีผู้อภิปรายประมาณ 40 กว่าคน
.
ถามว่า จะมีธีมในการอภิปรายหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ ฉะนั้น เราจึงเห็นว่าเราควรที่จะช่วยรัฐบาลหางบประมาณ จึงเป็นธีม “ช่วยรัฐบาลหาเงิน โอกาสสุดท้าย ก่อนเศรษฐกิจไทยพังจริง” นอกเหนือจากปกติ ที่ฝ่ายค้านจะเสนอหลักการใช้งบประมาณที่ดี เสนอการรีดไขมันแล้ว ครั้งนี้เราจะช่วยจัดระดับความสำคัญของโครงการต่างๆ เพื่อจะให้มีเม็ดเงินเหลือมากเพียงพอที่จะเอาไว้ใช้รับมือกับสถานการณ์สงครามการค้าด้วย
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเรื่องรูปแบบการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทที่เร่งหน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการเข้ามาเพื่อขอใช้งบภายในกี่วันอย่างไรบ้าง นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ในเชิงหลักการเราไม่ได้เห็นแย้งกับการที่รัฐบาลจะเอาไปใช้สำหรับทำโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน และการเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้า แต่ในเชิงรายละเอียดและการดำเนินงาน เราไม่อยากให้ดำเนินการซ้ำรอยเดิมจากที่เคยเป็นมาในช่วงโควิดที่มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 1.55 ล้านล้านบาท ที่มีการทำแผนงานฟื้นฟูเช่นนี้และให้หน่วยงานส่งโครงการขึ้นมาเช่นนี้ แต่อาจจะให้เวลานานหน่อย แต่ตอนนั้นเต็มไปด้วยโครงการเบี้ยหัวแตก ไม่ได้เกิดผลขึ้นจริง มีความล่าช้า มีโครงการที่ถูกยกเลิกและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดการคอร์รัปชัน หาประโยชน์จากนักการเมืองในพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งรอบนี้ก็มาแบบเดิม เช่น โครงการน้ำที่ให้เวลาในการส่งโครงการเพียงแค่ 2 วัน แต่เมื่อมีการทักท้วงกันก็ขยายเวลาเป็น 5 วัน ซึ่งยังเป็นเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิดเช่นกันในการที่จะคำนวณค่าก่อสร้าง บีโอคิวต่างๆ ของการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่
.
นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่อาจจะมีโครงการในกระเป๋าอยู่แล้วได้โอกาสนี้ไป แต่หากเป็นหน่วยงานไหนที่ยังไม่มีโครงการอยู่ในมือก็อาจจะพลาดโอกาสนี้ไป ซึ่งทำให้มีความได้เปรียบเสียเปรียบกัน แทนที่จะเป็นโครงการไหนที่มีความเหมาะสมหรือสมควรได้ทำก่อน แต่กลายเป็นโครงการที่ได้คือโครงการที่ทำไว้อยู่แล้ว
.
เมื่อถามว่า ทางพรรค ปชน.จะมีข้อเสนอแนะอย่างไรหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ควรเป็นส่วนผสมของโครงการที่สั่งมาจากท็อปดาวน์ คือรัฐบาลมีแนวทางที่จะพัฒนาประเทศอยู่แล้ว และอีกส่วนเป็นการส่งโครงการมาจากด้านล่าง โดยโครงการที่รัฐบาลมีแนวทางอยู่แล้วควรเป็นโครงการที่รัฐบาลเล็งเห็นอยู่แล้วว่า น่าจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจไปในแนวทางที่รัฐบาลอยากเห็น อยากเห็นแหล่งน้ำเป็นอย่างไร อยากเห็นถนนไปที่ไหน เป็นต้น แต่จริงๆ เราอยากเห็นว่ารัฐบาลมีโปรเจกต์อะไรในใจที่อยากให้เกิดขึ้น
.
นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า หากเป็นเรา เราคงจะทำเป็นแคตตาล็อกว่า พื้นที่ไหนอยากทำน้ำประปา โรงงานขยะ โรงบำบัดน้ำเสีย หรือการจัดการปัญหาจราจร โดยจะเป็นแคตตาล็อกที่รัฐบาลอยากเห็น แต่จะให้หน่วยงานในพื้นที่เป็นคนนำไปปฏิบัติจริง แต่เงินอีกส่วนจะเป็นโครงการที่หน่วยงานในพื้นที่ส่งกลับมา ขณะเดียวกันก็อาจจะต้องมีโครงการขนาดใหญ่ ที่ส่วนกลางเป็นคนทำซึ่งจะเป็นโครงการที่อัพสกิล รีสกิล เป็นต้น เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบและการจัดลำดับความสำคัญของโครงการ และลดความสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาคอร์รัปชัน
.
เมื่อถามว่า มองเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลที่เผชิญหน้ากันเช่นนี้ จะส่งผลต่อการโหวตเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบมาณฯ พ.ศ.2569 หรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า “ก็อาจจะเป็นไปได้”
.

.
ปชน. เย้ยรัฐบาล แจกเงินจนใกล้ถังแตก อาสาช่วยหาเงิน ตัดงบที่ไม่จำเป็น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5196382
.
ปชน. เตรียมขุนพลอภิปรายงบกว่า 50 คน ครอบคลุมทุกประเด็น ‘ลิซ่า’ ชี้ รบ.ใกล้ถังแตก เหตุแจกดิจิทัลวอลเล็ต จนต้องเลื่อนเฟส 3 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เย้ย ช่วยหาเงินผ่านการตัดงบที่ไม่จำเป็น
.
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า พรรคประชาชนได้เตรียมขุนพลในการอภิปรายมากกว่า 50 คน ซึ่งแน่นอนว่าจะครอบคลุมครบทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นงบก้อนใหญ่หรือก้อนเล็ก เนื้อหาลึกครอบคลุมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตคนไทย เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล ที่ยังละเลยปัญหาในขณะที่สภาพเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตประชาชนลดลง
.
น.ส.ภคมน กล่าวว่า วันนี้คนไทยทั้งประเทศกำลังเดินหน้าสู่หายนะทางเศรษฐกิจ รายได้หลักของไทยที่มาจากการส่งออกและการท่องเที่ยว กำลังวิกฤตจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก กลไกเดียวที่พอจะพยุงสถานการณ์ได้ก็คือการลงทุนจากภาครัฐ แต่รัฐบาลเองก็อยู่ในสภาวะใกล้ถังแตก จากการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตทั้ง 2 เฟส จนต้องเลื่อนการแจกเงินเฟส 3 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
.
การอภิปรายงบประมาณปี2569 นี้ พรรคประชาชน จึงจะชี้ให้เห็นงบที่ไม่จำเป็นต่อสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญในขณะนี้ และจะชี้แนะ ช่วยรัฐบาลหาเงิน ผ่านการตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็น จึงอยากให้ประชาชนร่วมติดตามการอภิปรายในครั้งนี้ในวันที่ 28-31 พ.ค.นี้
.


หญิงหน่อย นำทัพนักธุรกิจ SME นำสินค้าไทยบุกแดนมังกร ตั้งเป้าลูกค้า 1.3 พันล้านคน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5196447
.
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะนายกสมาคมสมาพันธ์สตรีมิตรภาพไทย-จีน และประธานหลักสูตร China Business Leader (CBL) ได้นำนักธุรกิจ SMEs กว่า 50 ราย มาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ นครกวางโจว และเซินเจิ้น เพื่อแสวงหาช่องทางในการช่วยผู้ประกอบการไทยให้สามารถนำสินค้าไทยมาจำหน่ายในตลาดจีน ที่มีลูกค้ามากถึง 1,300 ล้านคนให้สำเร็จ
.
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะนายกสมาคมสมาพันธ์สตรีมิตรภาพไทย-จีน และประธานหลักสูตร China Business Leader (CBL) ได้นำนักธุรกิจไทยกว่า 50 รายจากหลักสูตร CBL รุ่นที่ 3 เดินทางไปจับคู่ธุรกิจกับนักธุรกิจชั้นนำในประเทศจีน ที่นครกวางโจว และเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน
.
โดย คุณหญิงสุดารัตน์ ตระหนักว่าขณะนี้กำลังเกิดวิกฤตของเศรษฐกิจโลก และวิกฤตเศรษฐกิจไทย ที่เดิมก็ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้ว เมื่อมาเจอกับมาตรการภาษีทรัมป์ ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการไทยตกที่นั่งลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่