คนลักษณะแบบไหน ที่เชื่อว่าตัวเอง ช่วยสอนคนอื่น ทั้งที่ความคิดยังสอบตก

ในช่วงเวลาที่ผู้คนต่างเปล่งเสียงผ่านตัวอักษร โลกกลายเป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ความคิดหลากหลายได้เดินทางไปไกลกว่าที่ใจเคยกล้า
ความกล้าหาญในวันนี้ บางทีก็ไม่ได้อยู่ที่การยืนต่อหน้าผู้คน หากแต่อยู่ที่การยืนอยู่หลังหน้าจอ...แล้วกล้าเป็น ตัวเอง

หลายข้อความเขียนขึ้นด้วยความตั้งใจ หลายข้อความเขียนขึ้นด้วยอารมณ์ และอีกไม่น้อยที่เขียนขึ้นเพื่อสะท้อนบางสิ่งที่ลึกกว่าที่แสดงออก
บางคำดูคม บางประโยคดูเฉียบ บางความคิดเห็นดู กล้า จนคนอ่านยังอดรู้สึกไม่ได้ว่า...เขาเป็นใครนะ ทำไมกล้าแสดงความเห็นแรงกล้าขนาดนี้

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ หลายครั้ง...คนที่กล้าใช้คำพูดเสียดแทงที่สุด กลับเป็นคนที่ ระมัดระวังที่สุดในการเปิดเผยตัวตน คนที่มีตำแหน่งหน้าที่ดี มีการศึกษาสูง มีหน้ามีตาในสังคม แต่ในโลกออนไลน์กลับต้องใช้ชื่อแฝง ซ่อนภาพจริง และปล่อยตัวตนอีกแบบที่ไม่เคยกล้าใช้ในชีวิตจริง

เขาเขียนอย่างภาคภูมิ ประหนึ่งเป็นชัยชนะจากหอคอยแห่งความรู้ แต่ความจริงอาจเป็นเพียงชัยชนะจากสนามที่ไม่มีผู้ต่อสู้
เพราะเขารู้ดีว่า ถ้าต้องเอาตัวตนจริงมาแลกกับสิ่งที่เขียน...บางทีภาพลักษณ์ที่เขาหวงแหนอาจไม่เหลือ

คนเหล่านี้ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด บางครั้งเขาอาจคิดว่าตัวเองกำลังทำในสิ่งที่ ควรพูด แต่การพูดโดยไม่ต้องรับผิด
การตัดสินโดยไม่ต้องรับหน้า และการสั่งสอนโดยไม่ยอมเปิดเผยชื่อจริงนั้น...มันต่างจาก การกล้าแสดงออก อยู่มาก
เราไม่ได้อยู่ในยุคที่คำพูดมีเพียงน้ำหนักของพยัญชนะอีกต่อไป ทุกคำมีน้ำหนักของความตั้งใจซ่อนอยู่
ทุกประโยคมีเงาของคนเขียนติดอยู่เสมอ ถึงแม้ไม่มีใครรู้ชื่อจริง แต่คำพูดนั้นบอกความจริงมากกว่านามสกุล

หากคุณกำลังอ่านบทความนี้ แล้วรู้สึกว่าไม่ได้พูดถึงคุณ ก็จงอ่านต่อไปเรื่อย ๆ อย่างสบายใจ
แต่ถ้าอ่านไปแล้วเริ่มรู้สึกเหมือนมีกระจกบางบานสะท้อนกลับมา ก็อย่าเพิ่งรีบปิด
เพราะความรู้สึกนั้น…บางทีมันไม่ใช่คำตำหนิ แต่มันคือคำเตือนเงียบ ๆ ว่า คุณเคยเป็นคนที่น่าฟังมากกว่านี้

บางคำไม่ต้องด่าก็ทำให้คนสะอึก บางบทความไม่ต้องเปิดหน้าก็ส่องใจใครได้
และถ้าคุณมีอำนาจ มีการศึกษา มีหน้าที่ดีจริงอย่างที่คุณเขียนอวดไว้ในคอมเมนต์
จงใช้สิ่งเหล่านั้นรักษาคน ไม่ใช่ทำร้ายเขา…ด้วยปลายนิ้วของคุณเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่