โรม ฉะ ‘อิ๊งค์’ยอมรับพฤติกรรมซื้องูเห่า ทำการเมืองเสื่อม เย้ยพท. ตีแต่หนู เก็บงูเห่า
.
.
โรม ซัด ‘อิ๊งค์’ ยอมรับพฤติกรรมซื้อขายงูเห่า ทำการเมืองเสื่อมทั้งระบบ ลั่น ‘เพื่อไทย’ ตีแต่หนู เก็บงูเห่า สวนกลับไม่รู้ภายใน ปชน. ถามทำไมต้องซื้องูเห่าแบบไม่แคร์สัญญาประชาชน
.
เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 22 พ.ค.2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ตนเห็นปัญหาบ้านเมืองแล้วไม่สบายใจ ทั้งความขัดแย้งภายในรัฐบาล ทำให้รู้สึกว่าปัญหาหลายๆ อย่างของประชาชน ไม่ได้รับการตอบสนอง กลายเป็นว่ารัฐบาลสนใจแต่ในเรื่องความมั่นคงของรัฐบาล ทั้งที่ควรจะสนใจปัญหาของประชาชนด้วย
.
การที่รัฐบาลพยายามส่งสัญญาณให้บางพรรคไปซื้องูเห่าและไปดูดงูเห่า อาจสร้างเสถียรภาพระยะสั้นให้กับรัฐบาล แต่เป็นการทำลายการเมืองอย่างเป็นระบบ และส่งผลกระทบระยะยาว ทั้งนี้ การที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดอย่างชัดเจนว่าการซื้องูเห่าเหมือนเป็นการเปลี่ยนงานหรือเปลี่ยนที่ทำงานที่ใหม่ ซึ่งการเปรียบให้พรรคการเมืองเป็นเหมือนบริษัทเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
.
“ในวันที่พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบ ก็โชว์แคมเปญไล่หนูตีงูเห่า แต่มาวันนี้ แม้มีงูเห่าก็อยู่ร่วมกันได้ และให้หนูอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่ ผมจึงคิดว่าการทำการเมืองเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด จึงอยากฝากถึงน.ส.แพทองธารว่า เมื่อมาเป็นนายกฯแล้ว ก็ควรดำรงตนให้สมกับเป็นนายกฯ และควรผลักดันให้สังคมโดยเฉพาะการเมืองในสภาและประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง” นายรังสิมันต์กล่าว
.
ตราบใดที่นักการเมืองสามารถเปลี่ยนพรรคไปมาได้ โดยไม่ต้องมีอุดมการณ์ เพียงแค่ขอให้มีผลประโยชน์ตอบแทนกันอย่างหนำใจ จะนำไปสู่การเมืองที่เลวทราม และไม่ได้เป็นการเมืองที่ดีสำหรับสังคมไทยแน่นอน
.
เมื่อถามถึงการปะทะเดือดในโซเชียลระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย (พท.) มองว่าเหมือนตีปิงปองกันไปมาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องตีปิงปอง เป็นเรื่องที่ทุกคนไปคิดกันเอง แต่ขอยืนยันว่าการพูดของนายกฯ เหมือนรับรองว่าการซื้องูเห่าสามารถทำได้ แต่ถ้าหากนายกฯ มองว่ารับไม่ได้กับการซื้องูเห่า อาจมีการชะลอการซื้อตัวสส.ลง รวมถึงแนวโน้มเรื่องการดูดงูเห่าก็อาจจะชะลอลงด้วย เพราะไม่มีการรับประกันว่าทำไปจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี
..
“การดูดงูเห่าทุกวันนี้เหมือนการสะสม สส. และไปแลกตำแหน่งรัฐมนตรี นั่นหมายความว่าตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะความสามารถ ไม่ต้องสนใจเลือกตั้ง ไม่ต้องสนใจเจตจำนงของประชาชน ไม่ต้องสนใจคำสัญญาและการเมืองที่ประชาชนอยากเห็น เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ก็ใช้เงินทอง ซื้อสัญญาใจไปดูด สส.กันมา แล้วเอาไปแลกรัฐมนตรี ทำการเมืองแบบนี้ ประเทศไทยจะอยู่อย่างไร ทุกอย่างมีราคามีมูลค่า ไม่มีสมการของประชาชนอยู่ข้างในเลย ในพรรคเพื่อไทยเดือดร้อนหรือเจ็บปวดก็โชว์แคมเปญไล่หนูตีงูเห่า แต่วันนี้ตีแต่หนู งูเห่าเก็บไว้” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย บอกว่าที่สส.ย้ายพรรคเพราะปัญหาภายของพรรคประชาชนเองนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคงไม่รู้ว่าภายในพรรคประชาชนเป็นอย่างไร พรรคประชาชนพยายามทำการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเงินเดือนและผลประโยชน์ให้กับสส. ดังนั้น สมาชิกในพรรคต้องทำงาน เสียสละตัวเองเพื่อการเมืองที่อยากเห็นด้วยซ้ำไป แต่ยอมรับว่าสส.บางคนอาจไม่ได้มีความเข้มแข็ง ทางความคิดความเชื่อ
.
ดังนั้น จึงเป็นปัญหาของนักการเมืองคนนั้น และเป็นปัญหาของผู้ที่มาจูงใจ เมื่อมีสัญญาเกิดขึ้นก็ยอมรับว่าเกิดปัญหางูเห่า แต่พรรคก็พยายามคัดกรองและทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ปัญหางูเห่าทุเลาลง และคิดว่ามาถูกทาง และต้องหาวิธีการปรับปรุงต่อไปพรรคน้อมรับ คำติชมจากทุกฝ่าย แต่ขอตั้งคำถามกลับไปว่าทำไมต้องมีผู้ซื้องูเห่า และคนเหล่านี้ไม่ต้องไปแคร์ภาพลักษณ์ หรือคำสัญญากับประชาชน ตนคิดว่าการเมืองแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน.
.
.
“ไอติม”11 ปี รัฐประหาร หลุดพ้นต้องจัดทำรธน.ฉบับใหม่
.
“ไอติม” สะท้อนปัญหา 11 ปี รัฐประหาร มีรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นจุดเชื่อมโยง ชี้หากต้องการหลุดพ้นจากมรดกของรัฐประหาร ต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “พริษฐ์ วัชรสินธุ – ไอติม – Parit Wacharasindhu” ถึง 11 ปัญหาของประเทศดังต่อไปนี้ ที่เราเห็นกันตามข่าวมาโดยตลอด มีอะไรที่เชื่อมโยงกัน
.
1. สว. ที่มาจากระบบพิสดารที่ไม่ยึดโยงประชาชนและเอื้อต่อการฮั้วแลกอามิสสินจ้าง แต่กลับมีอำนาจชี้ขาดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรับรองว่าใครจะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ-ศาลรัฐธรรมนูญ
.
2. สตง. ที่ขาดกลไกรับผิดรับชอบต่อประชาชน แม้จะเกิดข้อผิดพลาดและข้อครหาจำนวนมาก โดยประชาชนไม่สามารถเข้าชื่อเพื่อริเริ่มการถอดถอนผู้บริหารออกจากตำแหน่งได้
.
3. ป.ป.ช. ที่กลายเป็นผู้ขัดขวางความโปร่งใส โดยเลือกกำหนดนโยบาย-ตีความกฎหมายในลักษณะที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลในการตรวจสอบการทุจริต (เช่น บัญชีทรัพย์สิน) ได้ยากขึ้น
.
4. ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ที่ยังมีบทบาทนำในการกำหนดอนาคตบ้านเมือง ผ่านอำนาจยุบพรรค วินิจฉัยนายกรัฐมนตรีให้พ้นจากตำแหน่ง และการชงเรื่องให้ตัดสิทธินักการเมืองตลอดชีวิต
.
5. กองทัพและหน่วยงานความมั่นคง ที่ยังดำเนินการเสมือนเป็น “รัฐอิสระ” ไม่อยู่ภายใต้ทิศทางรัฐบาลพลเรือน และฟ้องคนบนข้อหาหลวมๆ จนกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
.
6. กกต. ที่ยังคงขาดประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง และในการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องพื้นฐานในการอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
.
7. พรรคการเมือง ที่มีความภาคภูมิใจ ในการเดินหน้าเพิ่ม สส. สังกัดพรรคตนเองในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาสมัยยังสังกัดพรรคอื่น
.
8. นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ถูกกำหนดให้ต้องเป็น สส. จนขาดความเชื่อมโยงและความรับผิดชอบต่องานสภา รวมถึงส่งผลต่อประสิทธิภาพของกลไกตรวจสอบถ่วงดุล
.
9. ระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ที่ยังคงขาดประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาประชาชน แต่กลับไม่ยอมเดินหน้ากระจายอำนาจ-งบประมาณ-บุคลากรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
.
10. กลุ่มภาคประชาสังคม-ภาคประชาชน ที่ยังคงเสี่ยงถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการเรียกร้องข้อเสนอเชิงนโยบาย แม้จะเป็นการชุมนุมโดยสันติ
.
11. นักโทษทางการเมืองหลายคน ที่ยังคงถูกกักขังระหว่างการพิจารณาคดีโดยไม่ได้รับการประกันตัว ทั้งที่ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี
.
ทั้ง 11 ปัญหานี้ มีจุดเชื่อมโยงเดียวกัน คือ “รัฐธรรมนูญ 2560” แม้รัฐประหาร 2557 จะได้ผ่านพ้นมาแล้ว 11 ปี แต่หลายปัญหาของประเทศเราทุกวันนี้ เป็นผลลัพธ์จากมรดกคณะรัฐประหารที่มีชื่อว่า “รัฐธรรมนูญ 2560” หากเราต้องการหลุดพ้นจากมรดกของรัฐประหาร 2557หากเราต้องการแก้ปัญหา 11 อย่างในข้างต้นนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือกุญแจดอกสำคัญ
.
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid0Eoy3emKCTwv9mDSQ7SxkXN9Sza3LAorQEuhZ8KJp1J4KMbm5zQjes9kiSFSFt7NZl
.
.
นักวิชาการ จี้รัฐบาลทำทันที แก้ สารพิษน้ำกก ชี้ ต้องสร้างฝายดักตะกอนหลายชั้น ไม่ใช่ทำเขื่อน
.
นักวิชาการ จี้รัฐบาลทำทันที แก้ สารพิษน้ำกก ชี้ ต้องสร้างฝายดักหลายชั้น ไม่ใช่ทำเขื่อน
.
กรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม มีดำริ เรื่องวิธีการแก้ปัญหา การปนเปื้อน สารหนู และโลหะหนักในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย โดยจะมีการสร้างเขื่อนเพื่อกั้นน้ำไม่ให้โลหะหนัก ไหลเข้ามาในน่านน้ำประเทศไทยนั้น
.
วันที่ 22 พฤษภาคม นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ให้สัมภาษณ์ มติชนออนไลน์ ถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าตนเข้าใจไม่ผิดคิดว่า สิ่งรองนายรัฐมนตรีพูดถึงคือ การสร้างฝายดักตะกอน ไม่ใช่การสร้างเขื่อน โดยก่อนหน้านี้ ทางกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) เคยใช้วิธีการนี้ แก้ปัญหาพื้นที่ ลำห้วยคลิตี้ ที่มีการสร้างเหมืองคลิตี้ และมีตะกอนไหลลงสู่ ลำห้วยคลิตี้ จ.กาญจนบุรี มาแล้ว ซึ่งสามารถลดการปนเปื้อนของสารตะกั่วได้ในระดับหนึ่ง
.
นายสนธิ กล่าวว่า ทั้งนี้ การสร้างฝายชะลอน้ำกลางแม่น้ำกก จังหวัดเชียงราย สามารถลดโลหะหนักในตะกอนดินได้ ทั้งนี้มีงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศบราซิล ที่เคยมีเหมืองพัง และมีโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำจำนวนมาก จึงมีการทำฝายชะลอน้ำเพื่อดักโลหะหนักไม่ให้กระจายไปทั่ว แต่ต้องสร้างหลายๆจุด ตั้งแต่บริเวณปากแม่น้ำต้นทางก่อนที่น้ำจะไหลเข้ามาในประเทศ
.
“หลักการคือ สร้างฝาย ตัวฝายจะดักเอาโลหะหนัก เช่น สารโลหะหนัก ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู เป็นต้นตกสะสมอยู่หน้าฝายและสามารถขุดไปกำจัดต่อไปได้ ทำให้ท้ายน้ำมีคุณ ภาพน้ำดีขึ้น ที่ต้องทำหลายฝายคือ สร้างฝายแรกแล้ว อาจจะมีโลหะหนักที่ฝายแรก ดักเอาไว้ไม่หมด ยังไหลไปกับน้ำต่อไป จึงต้องสร้างฝ่าย อีกชั้น และอีกชั้นต่อๆไป จนว่าน้ำจะสะอาด”นายสนธิ กล่าว
.
นายสนธิ กล่าวว่า หลังจากนั้น ก็ต้องมีขุดตักเอาตะกอนที่ได้หน้าเขื่อน ออกไปทิ้ง ทำให้ท้ายน้ำมีคุณ ภาพน้ำดีขึ้น ทั้งนี้ ฝายชะลอน้ำยังช่วยชะลอการไหลของน้ำ ทำให้ลดความรุนแรงของน้ำหลากและช่วยลดการกัดเซาะของตลิ่ง รวมถึงทำหน้าที่เป็นเกาะที่ช่วยกักตะกอน เช่น ทราย โคลน และดินที่ไหลมากับน้ำ ทำให้ลำน้ำด้านหลังฝายตื้นเขินช้าลง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นหลักการ ตนไม่รู้ว่า จะมีารออกแบบกันมาอย่างไร และทำแบบนี้หรือไม่ โดยการออกแบบต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำด้วย
.
“ในเมื่อ การเจรจา เพื่อให้ต้นทาง ไม่ว่าจะเป็นชนกลุ่มน้อย หรือ ทางจีน หยุดทำเหมืองไม่ได้ วิธีการที่ดีที่สุดที่จะปกป้องแหล่งน้ำในบ้านเราก็ต้องทำแบบนี้ และต้องรีบทำให้เร็วที่สุด เพราะโลหะหนักนั้น ไหลมาทุกวันหากช้าไป โลหะหนักจะกระจายไปทั่วแหล่งน้ำในประเทศไทย
.
เมื่อถามว่า แล้วโลหะหนักกับสารหนู ที่ไหลลอดเข้ามาแล้ว จะทำอย่างไร นานสนธิ กล่าวว่า ที่ทางกรมควบคุมมลพิษตรวจ ยังพบว่า สารหนูที่ปนเปื้อนนั้น ยังไม่ถึงขั้นรุนแรงอันตราย จากแม่น้ำกก ออกแม่น้ำสาย และไหลลงสู่แม่น้ำโขง และเจือจางลงได้ ประเด็นคือ จะทำอะไรก็ต้องรีบทำ อย่างปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานกว่านี้
JJNY : โรม เย้ยพท. ตีแต่หนู เก็บงูเห่า│“ไอติม”ต้องจัดทำรธน.ฉบับใหม่│จี้แก้สารพิษน้ำกก │“จีน-รัสเซีย”วิจารณ์“โกลเดน โดม”
.