แชร์ประสบการณ์โดน UFUND ฟ้อง (มีการดำเนินคดีแพ่งและได้รับคำพิพากษาจ่ายเงินครบเรียบร้อยแล้ว)

สวัสดีครับ ขอมาแชร์ประสบการณ์โดน UFUND ฟ้อง (มีการดำเนินคดีแพ่งและได้รับคำพิพากษา จ่ายเงินครบแล้วเรียบร้อย)

หมายเหตุ: อันที่จริง UFUND ไม่ส่งสำนวนฟ้องเอง แต่จะมอบอำนาจให้อีกบริษัทไปฟ้องต่อ (อันนี้ถูกผิดอย่างไรตรวจสอบอีกทีนะครับ)

- สาเหตุของการถูกฟ้องคดีแพ่งในครั้งนี้คือไม่มีเงินจ่ายค่างวดเพราะตอนผ่อนคิดว่าตัวเองจ่ายไหวแน่นอน (ตอนนั้นเรียนอยู่แล้วสามารถหาเงินมาจ่ายค่างวดได้ตามปกติ เพราะทำงานนอกเวลาไปด้วย) แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าส่งซองขาวยกเลิกสัญญากับจดหมายทวงนี้ไปแล้ว แต่ไม่ติดต่อกลับ *อันนี้ต้องเช็คด้วยตัวเองจริงๆ นะว่ามีไปรษณีย์มาส่งจดหมายให้ที่บ้านไหม เพราะคนส่งอาจจะไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น แถวบ้านเราคนส่งชอบส่งรวมไว้กับของคนอื่นที่จุดส่งของรวม เราพลาดมากบอกตรง TT*

- แต่ก็ไม่ได้ขาดการติดต่อกับฝ่ายกฎหมายของบริษัทไปเลยนะ ติดต่อเป็นช่วงๆ มีเงินก็โอนจ่ายให้บ้าง ไม่ใช่ว่าไม่จ่ายเลย แต่ก็นั่นแหละ จ่ายจนจากยอดผ่อนทั้งหมด 51,000 เหลือ 29,000 (ใช้เวลา 2 ปีกว่าจะตัดยอดเหลือเท่านี้)

- จนเราจบมาช่วงกลางปี 2567 ก็ทำงานไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ละทิ้งความพยายามในการใช้หนี้คืนเพราะตั้งใจจะหาคืนตั้งแต่แรกอยู่ละ เราเลยทักหาไลน์ทางการของ UFUND เพื่อขอชำระหนี้กับเจ้าหน้าที่กฎหมาย แต่ประเด็นคือพึ่งมารู้ว่าอ๋อเขามอบอำนาจให้อีกบริษัทนึงไปแล้ว

- เราทำงานเก็บเงินทั้งปี 2567 ได้แค่ 20,000 (ส่วนตัวมองว่าเก็บได้น้อยมาก TT แล้วจะทันใช้หนี้เขามั้ยเนี่ย) จนช่วงต้น ธันวาคม 2567 ได้หมายเรียกจากศาลนัดไปไต่สวน (อันนี้ไม่ได้ตกใจอะไรมากเพราะคิดไว้แล้วว่าขาดชำระนานมาขนาดนี้ต้องโดนฟ้องแน่ ๆ แต่เราเลยเลือกที่จะทำงานหาเงินต่อเพื่อเอามาใช้หนี้ที่ศาลจะฟ้องตามที่จำเลยเขียนในสำนวนไว้ราว ๆ 83,000)

- ทีนี้เราเลยสำนวนก็มีคำแนะนำให้แอดไลน์ไปพูดคุยในห้องแชทว่าจะเอายังไง เราก็เลยขอชำระไปก่อนบางส่วน ซึ่งอันนี้ทางบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจก็มีส่วนลดให้เหลือประมาณ 59,000 จาก 83,000 เราจ่ายไปได้ 20,000 ด้วยเงินเก็บนั่นแหละ

*โจทก์ฟ้องเราด้วยการให้ชดใช้ค่าเสียหายตามนี้:
1. ถ้าคืนเครื่องไม่ได้ให้จ่ายเป็นเงินจำนวนราว ๆ 29,000
2. ค่าขาดประโยชน์เดือนละ 2,990 รวม 19 เดือนจนถึงวันที่ฟ้อง
3. ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายในการฟ้อง

- ผ่านไปอีก 1 เดือน (มกราคม 2568) พึ่งจะมีจดหมายทวงนี้จากบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจมาส่งที่บ้าน โอ้โห ละส่งมาอะไรตอนนี้ ส่งช้าเกิ๊น จนได้สำนวนฟ้องไปละ ตอนนั้นงงเลย ระบบอะไรวะเนี่ย ไม่รู้จะโทษคนที่ฝากส่งหรือคนส่งดี (แต่พอคิดอีกทีเออก็โทษตัวเองเถอะที่ไม่รู้จักใช้หนี้ให้มันตรงเวลาตามสัญญา จะไปโทษใครอีก เห้อมมม)

- หลังจากที่พยายามจะใช้หนี้ต่อให้หมดก่อนวันนัดขึ้นศาล สรุปหามาใช้ไม่ทัน แต่ดีที่หักลบออกไปจนเหลือ 63,000 จากเงินต้นที่โจกท์จะฟ้อง

- ก่อนจะถึงวันนัดทางเจ้าพนักงานที่ศาลก็ถามว่าอยากทำข้อเจรจายอมความกันไหม ฝ่ายโจทก์บอกว่าไม่ ซึ่งเราก็เข้าใจ เลยขอรับการพิพากษาจากศาลเลย (อันนี้เราแอบสองจิตสองใจนะว่าจะให้ศาลตัดสินเลยหรือจะขอลองคุยกับทนายโจทก์อีกรอบดี ขอเซ็นทำยอมผ่อนจ่ายรายเดือนงี้ เพราะถ้าศาลตัดสินมาแล้วต้องจ่ายเป็นเงินก้อนเท่านั้น แต่ทางตัวแทนบริษัทที่รับมอบอำนาจจะติดต่อมาอีกทีนึงว่าอยากชำระแบบไหน

เกร็ดที่อ่านมา: คดีแพ่งที่ตัดสินมาแล้วจะกลายเป็นหมายเลขคดีแดงจนกว่าคดีจะไม่มีการอุทธรณ์/ฎีกาภายในระยะเวลาที่กำหนด และจนกว่าศาลจะออกคำรับรองว่า “คดีถึงที่สุดแล้ว” แต่ยังคงใช้เป็นเลขอ้างอิงตลอดไป แม้คดีถึงที่สุดแล้ว และไม่มีผลกระทบใดๆ อีกหากไม่ได้ถูกฟ้องเพิ่ม ซึ่งเป็นคนละอย่างกับประวัติอาชญากรรม (แนะนำว่าให้ตรวจสอบความถูกต้องกับผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งนะครับ)

- รอประมาณ 1 เดือนก็ได้รับคำพิพากษามาส่งที่บ้าน สรุปศาลสั่งให้จ่ายเงินให้โจทก์ราวๆ 40,000 (ค่างวดที่เหลือราว ๆ 27,000 + ค่าขาดประโยชน์ราวๆ 9,000 (ทั้งสองรายการนี้ยังไม่ได้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อรายการ)+ ค่าฤชาธรรมเนียมกับค่าทนาย 3,000) แต่เนื่องด้วยเงินที่ชำระไปแล้ว (20,000) เลยเหลืออีก 20,000 ที่ต้องจ่าย

สุดท้ายนี้รู้สึกโล่งมากที่สุดท้ายก็ได้ใช้หนี้ซักที รู้สึกผิดต่อตัวเองในอดีตมากๆ ว่าทำไมไม่คิดให้ดีกว่านี้ จะซื้อจะผ่อนอะไรซักอย่างต้องคิดให้เยอะมากๆ ต้องรู้จักการวางแผนอนาคตการเงิน เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันไหนจะพลาดจะล้มอีก พอล้มละมันอาจจะล้มยาวแล้วลุกไม่ขึ้นเลยก็ได้

ปล. สำหรับใครที่ได้รับซองขาวทวงหนี้ ซองบอกเลิกสัญญา หรือสำนวนฟ้องไปตามภูมิลำเนา ไม่ต้องตกใจเลยครับ ถ้าเรารู้ตัวว่าเราเป็นนี้ก็ต้องใช้คืน และอย่ารอจนกว่าจะโดนทวงหนี้หรือโดนบอกเลิกสัญญา หรือแม้กระทั่งโดนฟ้องแบบผม ติดต่อกับทาง UFUND ให้เร็วที่สุดเลย แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเราติดขัดอะไรบ้าง เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือเราเองครับ แค่นี้ก็แสดงถึงความรับผิดชอบของเราแล้วครับ วินัยทางการเงินจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่