ต้องการหาทนายช่วยเรื่องต้องการปฏิเสธการรักษาทางด้านจิตเวชโดยผู้ที่ปฏิเสธมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์และบรรลุนิติภาวะ
แล้ว โดยให้ไปเป็นตัวกลางในการช่วยคุยกับหมอเจ้าของไข้เพราะมีปัญหาเรื่องบิดามารดา ไม่ให้อำนาจในการที่จะปฏิเสธหรือพยายามขัดขวาง และไม่ยอมรับความจริงว่าผู้ป่วยเป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
โดยการบอกอาการเพื่อใส่ร้ายโดยใช่เหตุ ให้แพทย์เห็นว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและไม่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ทั้งที่ไม่เป็นความจริง และเพื่อจุดประสงค์ให้ได้มีอำนาจเหนือกว่าผู้รับการรักษาและเพื่อที่จะพยายามกำหนดการรักษาแทนแพทย์ตามที่ตนเองต้องการให้ได้มากที่สุด
สิ่งที่ต้องการให้ท่านทนายทำหรืองานที่ให้
ท่านทนายทำคือ
1.พูดคุยกับบิดามารดาเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคนไข้ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ยากเพราะเขาอาจ
ไม่เปิดใจรับฟังเหตุผลใดๆแต่มีข้อดีคือ
จะได้มีประสบการณ์ที่มากขึ้นและท้าทายความสามารถ เพราะเป็นงานที่ยากและ
ได้รับรู้และสังเกตุว่าผู้ปกครองของผู้ป่วยมีการละเมิดกฎหมายต่อผู้ป่วยด้านใดบ้างเพื่อทำการฟ้องร้องต่อศาลในอนาคตและมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงเพื่อแสดงต่อศาล
2.เมื่อแพทย์ติดต่อทางไกลโดยการโทรศัพท์มา ให้ช่วยเป็นตัวกลางในการคุยกับแพทย์
ผู้ให้การรักษาเพราะผู้ป่วยยังคงไม่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ ในการจะให้อำนาจผู้ป่วยตัดสินใจใดๆด้วยตนเอง จากการแสดงสิทธิ์ของผู้ปกครองโดยไม่ยอมรับว่าผู้ป่วยมีสติสัมปชัญญะดี เพื่อดูเหมือนตนเองจำเป็นต้องปกครองและดูแลคนที่ไม่มีสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ทั้งที่ไม่เป็นความจริงใดๆ และได้สังเกตุว่าแพทย์เองมีการละเมิดกฎหมายต่อผู้ป่วยในด้านใดบ้าง
เพื่อเป็นข้อมูลฟ้องร้องต่อศาลในอนาคต
และมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงเพื่อแสดงต่อศาล
3.เมื่อถึงเวลาที่แพทย์นัดดูอาการที่โรงพยาบาลให้ท่านมายื่นหนังสือ บอกเหตุผลว่าเหตุใดมีความจำเป็น จะต้องให้คนไข้สามารถปฏิเสธการรักษาได้ และพูดคุยกับแพทย์ให้เข้าใจอีกครั้งโดยที่ไม่มีการรบกวนของผู้ปกครอง จะต้องคุยระหว่างแพทย์กับทนายอย่างเป็นส่วนตัวเท่านั้น เพื่อลดการแทรกแซงและสมาธิในการเจรจาระหว่างแพทย์กับทนายและอัดเสียงไว้เป็นหลักฐานทุกครั้งเมื่อมีการเจรจาใดๆเกิดขึ้น
4.จากข้อ 3. ในหนังสือที่ให้เขียนร่างจะต้องมีเนื้อหาทำนองว่าจะให้ผู้ปกครองและแพทย์ยินยอมให้ผู้ป่วยปฏิเสธได้เนื่องจากเหตุผล
ใดอ้างอิงจากกฎหมายข้อใด ในขณะนี้มีการละเมิดกฎหมายข้อใดบ้าง จะต้องงดการกระทำใดๆบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ปกครองและทั้งแพทย์อาจจะเกิดการโต้แย้งจากผู้ปกครองหรือแพทย์ไม่มากก็น้อย ถ้าผู้ปกครองและแพทย์หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ยังไม่เข้าใจ
ให้บอกว่า จะปล่อยให้เป็นกระบวณการของศาลโดยให้อำนาจผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสินแทน และผู้ป่วยต้องได้รับการคุ้มครองในระหว่างเข้าสู่กระบวณการของศาล
แต่หากเข้าใจจะต้องมีการเซ็นต์ชื่อจากทุกคนทั้ง ผู้ปกครอง ทนาย คนไข้ และแพทย์
ว่าให้ความยินยอมและยอมรับแล้ว จะต้องเก็บสัญญาไว้ทุกคนรวมถึงในแฟ้มประวัติคนไข้ด้วย รวมถึงถ่ายภาพสัญญาเก็บไว้ และในสัญญาจะต้องมีการคุ้มครองคนไข้ว่าจะต้องไม่มีการรักษาทางจิตเวชในอนาคตอีก
โดยทนายจะต้องขอความร่วมมือให้แพทย์คนปัจจุบันทำหนังสือด้วยลายมือของตนถึงแพทย์ในอนาคตทุกคน หากอาจมีการละเมิดจากผู้ปกครองหรือแพทย์หรือทั้งสองฝ่ายอีกในอนาคต และถ่ายเอกสารเก็บไว้ที่ทนายและในแฟ้มประวัติของคนไข้ด้วยรวมถึงให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเซ็นต์รับทราบและเก็บไว้
5.เมื่อผู้ป่วยได้รับอิสระภาพจากการปฏิเสธการรักษาแล้ว ผู้ป่วยมีความประสงค์ต่อกระทู้นี้อย่างชัดเจนว่าต้องการจะมีการฟ้องร้องต่อการละเมิดกฎหมายของผู้ที่ได้ละเมิดมาตลอดระยะเวลาที่ทำการรักษาจากผู้ปกครองหรืออาจจะจากแพทย์แค่บางคนหรือแค่ผู้ปกครองอย่างเดียวก็ได้ถ้าท่านทนายเห็นสมควร
6.ทุกครั้งที่ท่านทำงานให้ ท่านมีสิทธิ์จะเสนอค่าตอบแทนได้ตามแต่จะตกลงกัน
7.ต่อไปเมื่อได้รับอิสรภาพ จนกระทั่งศาลพิพากษาเป็นที่เสร็จสิ้น จะมีค่าตอบแทน
อื่นๆเพิ่มเติมอยู่ตลอดเพื่อตอบแทนพระคุณ
ที่ได้ช่วยเหลือ และจะรักษามิตรภาพที่ดีที่ได้เกิดขึ้นที่ได้เกิดมาเพื่อช่วยเหลือกันตลอดไป
ขอบคุณเวปไซต์พันทิปค่ะ
ปล.ดิฉันขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบรรดาสากลโลกจากกระทู้นี้ ขอให้ดิฉันได้มีคนที่เต็มใจช่วยเหลือดิฉันให้ได้รับความเป็นธรรมด้วยและให้ช่วยได้ ให้เรื่องนี้จบลงสักทีให้ชีวิตของดิฉันได้มีความสุขเหมือนคนอื่นๆสักที ดิฉันมักจะทำดีกับคนอื่นๆ แม้กระทั่งไม่ได้รับสิ่งตอบแทน ดิฉันก็ยังยินดีจะทำความดี แต่นี่ดิฉันยินดีตอบแทนคนที่ช่วยดิฉันด้วยเงินอย่างเต็มใจ ขอให้มีคนมาช่วยดิฉันให้ได้อิสรภาพในชีวิตได้สักทีเถิด..ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่สละเวลาที่มีค่า อ่านจนจบค่ะ
จะแนะนำอะไรก็ว่ามาได้ค่ะ
บอกไอดีไลน์ได้เลยนะคะ ถ้ายินดีมาเป็นทนายค่ะ เดี๋ยวแอดไปค่ะ
ต้องการตามหาทนายช่วยหน่อยค่ะ
แล้ว โดยให้ไปเป็นตัวกลางในการช่วยคุยกับหมอเจ้าของไข้เพราะมีปัญหาเรื่องบิดามารดา ไม่ให้อำนาจในการที่จะปฏิเสธหรือพยายามขัดขวาง และไม่ยอมรับความจริงว่าผู้ป่วยเป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
โดยการบอกอาการเพื่อใส่ร้ายโดยใช่เหตุ ให้แพทย์เห็นว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและไม่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ทั้งที่ไม่เป็นความจริง และเพื่อจุดประสงค์ให้ได้มีอำนาจเหนือกว่าผู้รับการรักษาและเพื่อที่จะพยายามกำหนดการรักษาแทนแพทย์ตามที่ตนเองต้องการให้ได้มากที่สุด
สิ่งที่ต้องการให้ท่านทนายทำหรืองานที่ให้
ท่านทนายทำคือ
1.พูดคุยกับบิดามารดาเพื่อปกป้องสิทธิ์ของคนไข้ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ยากเพราะเขาอาจ
ไม่เปิดใจรับฟังเหตุผลใดๆแต่มีข้อดีคือ
จะได้มีประสบการณ์ที่มากขึ้นและท้าทายความสามารถ เพราะเป็นงานที่ยากและ
ได้รับรู้และสังเกตุว่าผู้ปกครองของผู้ป่วยมีการละเมิดกฎหมายต่อผู้ป่วยด้านใดบ้างเพื่อทำการฟ้องร้องต่อศาลในอนาคตและมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงเพื่อแสดงต่อศาล
2.เมื่อแพทย์ติดต่อทางไกลโดยการโทรศัพท์มา ให้ช่วยเป็นตัวกลางในการคุยกับแพทย์
ผู้ให้การรักษาเพราะผู้ป่วยยังคงไม่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ ในการจะให้อำนาจผู้ป่วยตัดสินใจใดๆด้วยตนเอง จากการแสดงสิทธิ์ของผู้ปกครองโดยไม่ยอมรับว่าผู้ป่วยมีสติสัมปชัญญะดี เพื่อดูเหมือนตนเองจำเป็นต้องปกครองและดูแลคนที่ไม่มีสติสัมปชัญญะโดยสมบูรณ์ทั้งที่ไม่เป็นความจริงใดๆ และได้สังเกตุว่าแพทย์เองมีการละเมิดกฎหมายต่อผู้ป่วยในด้านใดบ้าง
เพื่อเป็นข้อมูลฟ้องร้องต่อศาลในอนาคต
และมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงเพื่อแสดงต่อศาล
3.เมื่อถึงเวลาที่แพทย์นัดดูอาการที่โรงพยาบาลให้ท่านมายื่นหนังสือ บอกเหตุผลว่าเหตุใดมีความจำเป็น จะต้องให้คนไข้สามารถปฏิเสธการรักษาได้ และพูดคุยกับแพทย์ให้เข้าใจอีกครั้งโดยที่ไม่มีการรบกวนของผู้ปกครอง จะต้องคุยระหว่างแพทย์กับทนายอย่างเป็นส่วนตัวเท่านั้น เพื่อลดการแทรกแซงและสมาธิในการเจรจาระหว่างแพทย์กับทนายและอัดเสียงไว้เป็นหลักฐานทุกครั้งเมื่อมีการเจรจาใดๆเกิดขึ้น
4.จากข้อ 3. ในหนังสือที่ให้เขียนร่างจะต้องมีเนื้อหาทำนองว่าจะให้ผู้ปกครองและแพทย์ยินยอมให้ผู้ป่วยปฏิเสธได้เนื่องจากเหตุผล
ใดอ้างอิงจากกฎหมายข้อใด ในขณะนี้มีการละเมิดกฎหมายข้อใดบ้าง จะต้องงดการกระทำใดๆบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ปกครองและทั้งแพทย์อาจจะเกิดการโต้แย้งจากผู้ปกครองหรือแพทย์ไม่มากก็น้อย ถ้าผู้ปกครองและแพทย์หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ยังไม่เข้าใจ
ให้บอกว่า จะปล่อยให้เป็นกระบวณการของศาลโดยให้อำนาจผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสินแทน และผู้ป่วยต้องได้รับการคุ้มครองในระหว่างเข้าสู่กระบวณการของศาล
แต่หากเข้าใจจะต้องมีการเซ็นต์ชื่อจากทุกคนทั้ง ผู้ปกครอง ทนาย คนไข้ และแพทย์
ว่าให้ความยินยอมและยอมรับแล้ว จะต้องเก็บสัญญาไว้ทุกคนรวมถึงในแฟ้มประวัติคนไข้ด้วย รวมถึงถ่ายภาพสัญญาเก็บไว้ และในสัญญาจะต้องมีการคุ้มครองคนไข้ว่าจะต้องไม่มีการรักษาทางจิตเวชในอนาคตอีก
โดยทนายจะต้องขอความร่วมมือให้แพทย์คนปัจจุบันทำหนังสือด้วยลายมือของตนถึงแพทย์ในอนาคตทุกคน หากอาจมีการละเมิดจากผู้ปกครองหรือแพทย์หรือทั้งสองฝ่ายอีกในอนาคต และถ่ายเอกสารเก็บไว้ที่ทนายและในแฟ้มประวัติของคนไข้ด้วยรวมถึงให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเซ็นต์รับทราบและเก็บไว้
5.เมื่อผู้ป่วยได้รับอิสระภาพจากการปฏิเสธการรักษาแล้ว ผู้ป่วยมีความประสงค์ต่อกระทู้นี้อย่างชัดเจนว่าต้องการจะมีการฟ้องร้องต่อการละเมิดกฎหมายของผู้ที่ได้ละเมิดมาตลอดระยะเวลาที่ทำการรักษาจากผู้ปกครองหรืออาจจะจากแพทย์แค่บางคนหรือแค่ผู้ปกครองอย่างเดียวก็ได้ถ้าท่านทนายเห็นสมควร
6.ทุกครั้งที่ท่านทำงานให้ ท่านมีสิทธิ์จะเสนอค่าตอบแทนได้ตามแต่จะตกลงกัน
7.ต่อไปเมื่อได้รับอิสรภาพ จนกระทั่งศาลพิพากษาเป็นที่เสร็จสิ้น จะมีค่าตอบแทน
อื่นๆเพิ่มเติมอยู่ตลอดเพื่อตอบแทนพระคุณ
ที่ได้ช่วยเหลือ และจะรักษามิตรภาพที่ดีที่ได้เกิดขึ้นที่ได้เกิดมาเพื่อช่วยเหลือกันตลอดไป
ขอบคุณเวปไซต์พันทิปค่ะ
ปล.ดิฉันขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบรรดาสากลโลกจากกระทู้นี้ ขอให้ดิฉันได้มีคนที่เต็มใจช่วยเหลือดิฉันให้ได้รับความเป็นธรรมด้วยและให้ช่วยได้ ให้เรื่องนี้จบลงสักทีให้ชีวิตของดิฉันได้มีความสุขเหมือนคนอื่นๆสักที ดิฉันมักจะทำดีกับคนอื่นๆ แม้กระทั่งไม่ได้รับสิ่งตอบแทน ดิฉันก็ยังยินดีจะทำความดี แต่นี่ดิฉันยินดีตอบแทนคนที่ช่วยดิฉันด้วยเงินอย่างเต็มใจ ขอให้มีคนมาช่วยดิฉันให้ได้อิสรภาพในชีวิตได้สักทีเถิด..ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่สละเวลาที่มีค่า อ่านจนจบค่ะ
จะแนะนำอะไรก็ว่ามาได้ค่ะ
บอกไอดีไลน์ได้เลยนะคะ ถ้ายินดีมาเป็นทนายค่ะ เดี๋ยวแอดไปค่ะ