ผมได้ไปใช้บริการที่ Starbucks แห่งหนึ่งในเขตเมืองเก่ากรุงเทพฯ โดยจะชำระด้วย e-coupon จำนวน 3 ใบ ใบละ 100 บาทที่ได้จาก CardX รวม 300 บาท โดยพนักงานได้ให้ผมสแกน e-coupon ทีละใบ และย้ำว่าสแกนผ่านแล้วจึงได้ให้สแกนใบถัดมาจนครบ
ปัญหาคือเมื่อจะชำระเงิน พนักงานกลับแจ้งผมว่าคูปองสแกนผ่านเพียง 2 ใบ โดยผมไม่สามารถย้อนกลับไปเช็คได้เพราะระบบแจ้งว่ามีการใช้ไปแล้ว และไม่พยายามช่วยเหลือลูกค้าแต่ให้ชำระโดยได้ส่วนลดเพียง 200 บาท (แต่ e-coupon ผมโดนตัดไปทั้งหมด)
ผมจึงติดต่อ Starbucks Thailand เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยได้แจ้งข้อมูลทั้ง
- วันและเวลาที่ใช้บริการ
- วิธีการชำระและจำนวนที่ชำระพร้อมหลักฐาน
- หมายเลข Starbucks 16 หลัก
- รายละเอียดการใช้ e-coupon จาก CardX
หลังจากส่ง e-mail ไปมาอยู่ 3 ครั้ง ดูเหมือนทาง Starbucks Thailand จะขอข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดต้องการให้ติดต่อ CardX เพื่อขอหมายเลข 16 หลักเพื่อเช็คอีกรอบ !! ซึ่งผมรู้สึกว่าการที่เราต้องการสิทธิ์ 100 บาทคืน และให้ข้อมูลไปขนาดนี้ ทำไมจึงยุ่งยากและให้ลูกค้าไปติดตามเอง จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่สาขาควรแก้ปัญหาให้ลูกค้าตั้งแต่ต้น แต่กลายเป็นสำนักงานใหญ่ก็ช่วยแก้ไม่ได้ ไม่อยากจินตนาการเลยว่าหากยอดเงินผิดพลาดเป็นหลักหมื่น จะโดนขอหลักฐานมากมายขนาดไหน 😅
นึกย้อนไปเมื่อมีโอกาสใช้บริการกับบริษัทที่อเมริกาแล้วช่างต่างกันมาก ผมเคยเช่ารถโดยมีน้ำมันเติมมาให้เพียง 3 ใน 4 ด้วยความอ่อนประสบการณ์ ในวันสุดท้ายผมคืนรถด้วยจำนวนน้ำมันเท่าเดิมโดยไม่ได้สอบถามหรือถ่ายรูปปริมาณน้ำมันไว้ ทำให้โดนชาร์จค่าน้ำมันไปเพิ่ม ผมก็ได้แต่ส่ง e-mail อธิบายไปตามจริง ซึ่ง 2-3 วันถัดมาก็มีการคืนเงินมาให้ในบัตรเครดิตเลย เพราะทางบริษัทฯไปตรวจสอบภายในกันเอง แต่ทำไม Starbucks ซึ่งมาจากอเมริกาเหมือนกัน แต่มาอยู่ในประเทศไทยแล้วช่างต่างกันเหลือเกิน
เมื่อคุณภาพการบริการของ Starbucks ตกต่ำลง
ปัญหาคือเมื่อจะชำระเงิน พนักงานกลับแจ้งผมว่าคูปองสแกนผ่านเพียง 2 ใบ โดยผมไม่สามารถย้อนกลับไปเช็คได้เพราะระบบแจ้งว่ามีการใช้ไปแล้ว และไม่พยายามช่วยเหลือลูกค้าแต่ให้ชำระโดยได้ส่วนลดเพียง 200 บาท (แต่ e-coupon ผมโดนตัดไปทั้งหมด)
ผมจึงติดต่อ Starbucks Thailand เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยได้แจ้งข้อมูลทั้ง
- วันและเวลาที่ใช้บริการ
- วิธีการชำระและจำนวนที่ชำระพร้อมหลักฐาน
- หมายเลข Starbucks 16 หลัก
- รายละเอียดการใช้ e-coupon จาก CardX
หลังจากส่ง e-mail ไปมาอยู่ 3 ครั้ง ดูเหมือนทาง Starbucks Thailand จะขอข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดต้องการให้ติดต่อ CardX เพื่อขอหมายเลข 16 หลักเพื่อเช็คอีกรอบ !! ซึ่งผมรู้สึกว่าการที่เราต้องการสิทธิ์ 100 บาทคืน และให้ข้อมูลไปขนาดนี้ ทำไมจึงยุ่งยากและให้ลูกค้าไปติดตามเอง จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่สาขาควรแก้ปัญหาให้ลูกค้าตั้งแต่ต้น แต่กลายเป็นสำนักงานใหญ่ก็ช่วยแก้ไม่ได้ ไม่อยากจินตนาการเลยว่าหากยอดเงินผิดพลาดเป็นหลักหมื่น จะโดนขอหลักฐานมากมายขนาดไหน 😅
นึกย้อนไปเมื่อมีโอกาสใช้บริการกับบริษัทที่อเมริกาแล้วช่างต่างกันมาก ผมเคยเช่ารถโดยมีน้ำมันเติมมาให้เพียง 3 ใน 4 ด้วยความอ่อนประสบการณ์ ในวันสุดท้ายผมคืนรถด้วยจำนวนน้ำมันเท่าเดิมโดยไม่ได้สอบถามหรือถ่ายรูปปริมาณน้ำมันไว้ ทำให้โดนชาร์จค่าน้ำมันไปเพิ่ม ผมก็ได้แต่ส่ง e-mail อธิบายไปตามจริง ซึ่ง 2-3 วันถัดมาก็มีการคืนเงินมาให้ในบัตรเครดิตเลย เพราะทางบริษัทฯไปตรวจสอบภายในกันเอง แต่ทำไม Starbucks ซึ่งมาจากอเมริกาเหมือนกัน แต่มาอยู่ในประเทศไทยแล้วช่างต่างกันเหลือเกิน