ย้อนกลับไปตอนมัธยม เราเคยเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งเลย ติด ร มส 0 แทบทุกวิชา บางวันก็ฝืนไปโรงเรียน บางวันก็ไม่อยากตื่นเลย เพราะสังคมในโรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ที่เรารู้สึกปลอดภัยหรือเป็นตัวเองได้จริง ๆ
ตอนนั้นครูบางคนมองว่า
"คนอย่างเรา ไม่น่ารอดหรอก"
พอจบมัธยมเราเคยคิดจริงจังเลยว่าจะไม่เรียนต่อแล้วเพราะรู้สึกหมดหวังกับทุกอย่าง
แต่วันหนึ่งเราก็รวบรวมความกล้าและให้โอกาสตัวเองอีกครั้งด้วยการเลือกเรียนสายอาชีพในระดับ ปวช
และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ที่ ปวช เราได้เจอเพื่อนที่ดีมากๆ สังคมดี อยู่ด้วยแล้วรู้สึกเป็นตัวเองไม่เครียดเหมือนตอนมัธยม เราเริ่มตั้งใจเรียนถึงแม้เกรดจะไม่ได้หวือหวามาก แต่ตลอดการเรียน ปวช 1–3 เราไม่เคยติด ร มส 0 เลย และจบอย่างสบายใจ
เราต่อ ปวส โดยที่ยังคอนเซ็ปต์เดิม แล้วเราเรียน 2 ปี ไม่ติดอะไรเลยตลอด 2 ปีจนจบ ปวส แบบที่ตัวเองก็ยังแอบภูมิใจ
ปัจจุบันได้ติดมหาวิทยาลัยแล้ว
จากเด็กที่เคยถูกมองว่า “ไม่น่ารอดในวันนั้น” วันนี้เรามาไกลกว่าที่หลายคนเคยคาดไว้ และไกลกว่าที่ตัวเองเคยคิดไว้มาก
จากเด็กติด 0 ติด ร ที่เคยคิดว่าจะไม่เรียนต่อ
ตอนนั้นครูบางคนมองว่า
"คนอย่างเรา ไม่น่ารอดหรอก"
พอจบมัธยมเราเคยคิดจริงจังเลยว่าจะไม่เรียนต่อแล้วเพราะรู้สึกหมดหวังกับทุกอย่าง
แต่วันหนึ่งเราก็รวบรวมความกล้าและให้โอกาสตัวเองอีกครั้งด้วยการเลือกเรียนสายอาชีพในระดับ ปวช
และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ที่ ปวช เราได้เจอเพื่อนที่ดีมากๆ สังคมดี อยู่ด้วยแล้วรู้สึกเป็นตัวเองไม่เครียดเหมือนตอนมัธยม เราเริ่มตั้งใจเรียนถึงแม้เกรดจะไม่ได้หวือหวามาก แต่ตลอดการเรียน ปวช 1–3 เราไม่เคยติด ร มส 0 เลย และจบอย่างสบายใจ
เราต่อ ปวส โดยที่ยังคอนเซ็ปต์เดิม แล้วเราเรียน 2 ปี ไม่ติดอะไรเลยตลอด 2 ปีจนจบ ปวส แบบที่ตัวเองก็ยังแอบภูมิใจ
ปัจจุบันได้ติดมหาวิทยาลัยแล้ว
จากเด็กที่เคยถูกมองว่า “ไม่น่ารอดในวันนั้น” วันนี้เรามาไกลกว่าที่หลายคนเคยคาดไว้ และไกลกว่าที่ตัวเองเคยคิดไว้มาก