แบกรับไม่ไหว “ร้านอาหาร” แห่ปรับราคาขึ้น เนื้อหมู ไก่ ไข่ น้ำมันพืช ถีบต้นทุนทะยาน

เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thansettakij.com/business/627013

การปรับราคาของวัตถุดิบหลายรายการ เริ่มผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด เมื่อผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารเริ่มแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาอาหารหลักอย่างเนื้อสัตว์ น้ำมันพืช ไข่ไก่ ที่กระทบโดยตรงกับร้านค้ารายย่อย
ทำให้ร้านอาหารสตรีทฟู้ด รวมถึงร้านอาหารในฟู้ดคอร์ท และร้านอาหารทั่วไป ต่างขยับราคาเมนูต่างๆ ขึ้น 5-10 บาท ขณะที่ร้านกาแฟ ร้านขายเครื่องดื่มจ่อปรับราคาขึ้น หลังต้นทุนค่ากาแฟ น้ำหวาน ต่างปรับราคาขึ้นไปก่อนหน้านี้

“ฐานเศรษฐกิจ ได้ลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ พบว่า “ครัวแม่นิด” โดยนายประดิษฐ์ และนางนิด ขอสงวนนามสกุล เล่าให้ฟังว่า สถานการณ์ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มหมูซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการปรุงอาหารให้ลูกค้า ราคาหมูสามชั้นที่เคยขายในราคา 180 บาท/กก. ปัจจุบันขึ้นมาอยู่ที่ 215 บาท/กก. หมูบดราคา 100 บาท/กก. ก็เพิ่มขึ้นเป็น 120 บาท/กก. และหมูชิ้นราคา 150 บาท/กก. ก็ปรับขึ้นเช่นกัน

ราคาสินค้าอื่นๆ ที่ใช้ในการประกอบอาหารเช่น น้ำตาลและน้ำมันพืชก็มีการปรับราคาขึ้นในหลายรอบ โดยเฉพาะน้ำมันพืชที่จากราคา 41 บาท/ลิตร ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 57 บาท/ลิตรในปัจจุบัน ราคาน้ำมันพืชได้ปรับเพิ่มขึ้นถึง 3-4 ครั้งในปีที่ผ่านมา การปรับราคาน้ำมันพืชเพิ่มขึ้นราว 10 บาท
ในสถานการณ์นี้ ร้านครัวแม่นิดจึงต้องหาวิธีรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น โดยการรับหมูจากฟาร์มโดยตรงทำให้ราคาหมูถูกกว่าตลาดทั่วไป 20-30 บาท แต่นั่นก็ยังไม่พอที่จะรับมือกับสถานการณ์ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไม่สามารถช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้

ทั้งนี้มองว่าในอนาคตราคาวัตถุดิบจะปรับเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากปัจจุบันนี้ไม่มีราคาวัตถุดิบใดที่ลดลงได้เลย ทุกอย่างมีแต่ปรับราคาขึ้น 5-10 บาท ทำให้ร้านต้องปรับราคาขายอาหารขึ้น 5-10 บาทตามราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น หากไม่ทำเช่นนั้น ร้านคงไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จากเดิมที่เคยขายได้วันละประมาณ 1 หมื่นบาท ตอนนี้ร้านขายได้ไม่ถึง 4,000 บาทต่อวันแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองอย่างชัดเจน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมข่าวต้นฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่