ผมเคยอยากเลิกนับถือศาสนาพุทธครับ ใช้ชีวิตลำบาก แต่ยังคงเห็นผลในการปฏิบัติอยู่ ผมควรทำยังไงดีครับ?

เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ผมเคยอยากจะเลิกนับถือศาสนาพุทธครับแต่ยังคงปฏิบัติตามคำสอนแล้วยังเห็นผลอยู่ครับเลยนับถือต่อ...
แต่มันมีหลายประเด็นครับที่ผมอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามได้ แต่พอปฏิบัติตามไม่ได้คนก็จะบอกว่าเรามันพุทธเทียม หรือ ไม่ทำตามก็จะเกิดอกุศล และไปสู่อบายภูมิ

มีหลายอย่างครับที่ผมคิดว่ามันทำให้ชีวิตผมลำบาก และ ทำตามไม่ได้ และพอเราไม่ทำตามอบายภูมิก็รอเราอีก ผมแค่อยากใช้ชีวิตให้มีความสุขในทางโลกเท่านั้นเองครับ ไม่ได้อยากให้ศาสนาต้องมาตั้งข้อจำกัดครับ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ผมตั้งใจว่า บั้นปลายชีวิตจะออกบวชและจบเรื่องวุ่นวายนี่สักทีครับ

ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่ครับ

แต่มีสิ่งที่ผมทำตามได้ยาก เช่น

-การร้องรำทำเพลง | ผมเป็นคนที่มีงานแสดงที่ไหนก็ไปที่นั้นน่ะครับ ตอนนี้อยู่ชมรมดนตรีไทย ถ้าจะบอกว่าการเล่นดนตรีร้องรำทำเพลงมันบาป ผมคงได้แต้มบาปไปหลายแต้มเลยแหละครับ
แต่ก่อนผมมองคนที่มาร้องเพลงด้วยความชื่นชมครับ แต่เดี๋ยวนี้กลับมองว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งที่ไม่น่าชื่นชมเหมือนแต่ก่อนแล้วครับ เพราะศาสนามันยัดความคิดเหล่านี้มาให้

-การพูดเพ้อเจ้อไร้สาระนั้นเป็นอกุศลและยังส่งผลต่อสติและสมาธิ และทำให้คนอื่นไม่เชื่อถือในคำพูด | ผมที่คุยกับเพื่อนเรื่อยเปื่อย ตลกเฮฮากันอยู่แทบทุกวัน ถ้าจะบอกว่าให้ผมหยุด ผมคิดว่า 99% เสียความเป็นธรรมชาติครับ ผมไม่ใช่คนที่จะมีสาระตลอดเวลานะครับ แต่ผมก็รู้สถานการณ์ดีครับ ​และคุณลองคิดดูว่าพูดแต่สาระอย่างเดียวมันจะเกิดอะไรขึ้นครับ? ผมว่าเครียดกันพอดี และการพูดไร้สาระบางทีมันก็ช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้ดีขึ้นนะครับ จะมาบอกว่าหากเราพูดเพ้อเจ้อแล้วคนจะไม่เชื่อถือในคำพูดของเรา ผมว่ามันไม่เสมอไปครับ มันต้องยืดหยุ่นครับ และการที่ผมพูดสนุกสนานเฮฮา ผมก็ยังไม่เคยเจอว่าคนจะไม่เชื่อถือคำพูดนะครับ เพราะผมก็ไม่ได้พูดผิดสถานที่ เวลา และบุคคล

-เราไปซื้อของเถื่อนมา เห็นพูดกันเยอะว่าเช่น ลง window เถื่ิอน มันผิดศีลข้อ 2 เพราะไปละเมิดลิขสิทธิ์ | ถ้าเป็นเช่นนี้ ผมซื้อเสื้อก็อปของแบรนด์เนมก็ผิดศีลข้อ 2 ​สิครับ? หรือ ถ้าจะบอกการละเมิดลิขสิทธิ์ผิดศีลข้อ 2 ด้วย → เดี๋ยวนี้แค่คำพูดของคนเราบางทีก็มีลิขสิทธิ์ครับ วาดภาพตามคนอื่นก็ละเมิดลิขสิทธิ์แล้วครับ บางทีคนที่เขาร้องเพลงเปิดหมวกหาเงินไม่ได้ขอลิขสิทธิ์เพลงด้วยซ้ำ แบบนี้ก็ละเมิดลิขสิทธิ์และผิดศีลข้อ 2 กันยับเยินหมดแหละครับ

-ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน? | ผมกำลังศึกษาครับ และแต่ละวันจำเป็นที่จะต้องใช้ความคิดครับ ได้ยินมาหลายที่ละบอกว่าให้ดับความคิดเพราะเดี๋ยวมันจะฟุ้งซ่าน ถ้างั้นผมที่คิดงานอยู่ทั้งวันแบบนี้ก็ผิดหลักคำสอนยับเยินอีกสิครับ

-ได้ยินบ่อย ๆ จากพระท่าน​ว่าการปรุงแต่งจิตนั้นมันไม่ดีเพราะเป็นการเสริมเมฆหมอกให้กับจิตใจ มันมี 2 อย่างนะครับ 1.จิตปรุงแต่ง(ปรุงตามธรรมชาติของจิต) และ 2.ปรุงแต่งจิต(เราเป็นผู้บงการไปปรุงแต่งเอง) ตามความเข้าใจครับ | แต่การคิดวิเคราะห์ก็จำเป็นที่จะต้องเกิดการปรุงแต่งไม่ใช่หรือครับ หรือเวลาผมอ่านหนังสือผมก็ต้องจินตนาการตามไปด้วยครับเพื่อให้เกิดความเข้าใจ หรือ เสียงที่เกิดขึ้นภายใต้จิตใจก็ไม่ใช่การปรุงแต่งหรือครับ หรือ เวลาสร้างสรรค์งานก็จำเป็นต้องใช้จิตนาการสูง และ ทักษะจินตนาการเดี๋ยวนี้มันจะเป็นครับ จะบอกว่าไม่ให้ผมปรุงแต่ง จบครับชีวิตนี้ผมไม่ได้ทำงานอะไรกันพอดี

-ครั้งก่อนผมเคยตั้งกระทู้ถามไปว่า หากเราเปิดแอร์หรือปล่อยมลพิษจะเป็นการฆ่าทางอ้อมหรือไม่ | คือถ้าหากมันเป็นการฆ่าทางอ้อมล่ะก็ จบกันศีล 5 คงไม่ต้องรักษากันแล้ว ผิดกันระเนระนาด

-ความหลงใหลคือกิเลส | ผมเป็นคนที่หลงใหลในเพลงครับ ชอบจินตนาการ หรือ เวลาที่เราหลงใหลอะไรเราจะทำมันออกมาได้ดีครับ แต่พอผมนับถือพุทธ พุทธมองว่าความหลงใหลมันคือกิเลส ผมซึ่งถ้าจะเลิกก็อยู่ยากอีก เพราะเดี๋ยวนี้โลกมันขับเคลื่อนด้วยกิเลสครับ ผมที่กำลังศึกษาอยู่ก็ต้องใช้กิเลสเช่นเดียวกันในการสร้างสรรค์ผลงานครับ

-การที่เรารักษาศีล เจริญมรรคมีองค์ 8 จะทำให้เรามีสติและสมาธิดีมากขึ้นในการภาวนาและควบคุมอารมณ์ | ตรงภาวนาผมเข้าใจครับว่ามันมีผล แต่ตรงควบคุมอารมณ์ผมว่าไม่เสมอไปครับ บางคนเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ได้นับถือพุทธแต่เขามีทักษะการควบคุมอารมณ์ที่ดีเลิศ ซึ่งในทางวิชาการก็เรียกว่า EQ

นี่เป็นเรื่องคร่าว ๆ ที่ผมคิดว่าอยากจะมาเล่าให้ฟังครับว่าการนับถือพุทธศาสนาบางทีมันก็จำกัดการใช้ชีวิตของผม ผมก็แค่อยากใช้ชีวิตแบบที่อยากทำเท่านั้นแหละครับ อะไร ๆ ก็ผิดไปหมด ผมก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วนะครับ​

หากผมไม่ได้ทำตามมันผิดหรือไม่ครับ และผมต้องยอมรับผลของอกุศลกรรมใช่หรือไม่ครับ

ขอบคุณทุกความติดเห็นครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่