SEEK แพลตฟอร์มหางานออนไลน์ในไทย เปิดเผยว่า แรงงานกลุ่ม Silver Age หรือผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปในไทย มีจำนวนมากถึง 13 ล้านคน คิดเป็นกว่า 20% ของแรงงานทั้งหมด และคาดว่าภายในปี 2573 ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society)” ที่ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปจะมีมากกว่า 25% ของประเทศ
โดยแรงงานกลุ่มนี้หลายคนยังมีศักยภาพในการทำงานในหลากหลายอาชีพ และพร้อมกลับเข้าสู่ตลาดงานในหลากหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเพื่อหารายได้เพิ่ม หรืออยากเพิ่มความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต หรือการแบ่งปันประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่ก็ตาม
ทักษะ AI พื้นฐานใหม่ของโลกการทำงาน
ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีอย่าง Generative AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกการทำงานไปอย่างรวดเร็ว ไม่เฉพาะสายเทคโนโลยี แต่ลามไปถึงสายงานอื่นๆ ด้วย เช่น การตลาด การขาย การดูแลสุขภาพ และงานบริการต่างๆ โดยข้อมูลจาก World Economic Forum ระบุว่า จำนวนคนที่เพิ่มทักษะ AI ทั่วโลกพุ่งขึ้นถึง 177% ตั้งแต่ปี 2018
ไม่เพียงเท่านั้น กว่า 50% ของนายจ้างยังเผยว่า “จะไม่รับผู้สมัครที่ไม่มีพื้นฐานด้าน AI” โดยเฉพาะทักษะอย่าง Prompt Engineering หรือการใช้งานเครื่องมืออย่าง ChatGPT และ Microsoft Copilot ที่กำลังกลายเป็นทักษะพื้นฐานของคนทำงานทุกคน ดังนั้น หากแรงงานกลุ่มสูงวัยได้รับการอัปสกิลด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติม ก็จะยิ่งช่วยต่อยอด และเพิ่มโอกาสทางอาชีพในสายสายต่างๆ ได้มากขึ้น
7 อาชีพน่าจับตา เหมาะกับวัยเก๋าที่พร้อมเรียนรู้และปรับตัว
ทั้งนี้ Jobsdb ได้แนะนำ 7 สายงานที่เปิดรับแรงงานกลุ่มสูงวัยอย่างแท้จริง ทั้งยังสามารถต่อยอดจากประสบการณ์เดิมได้ง่าย พร้อมแนะให้ลองผสานทักษะที่มีอยู่เดิม เข้ากับเครื่องมือดิจิทัลหรือ AI เช่น คอร์สเรียนออนไลน์ โปรแกรมช่วยแปลภาษา หรือแอปพลิเคชันจัดการข้อมูล ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น
1. ครูพิเศษ/ติวเตอร์
แนะนำให้เรียนรู้ทักษะการสอนออนไลน์เพิ่มเติม ก็จะช่วยให้ทำงานได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น ข้อดีคือ ทำงานจากที่บ้านได้ มีเวลายืดหยุ่น และได้เชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ผ่านโลกการศึกษาออนไลน์
2. งานบริการลูกค้า/Call Center
อาจเรียนทักษะการสื่อสารเพิ่มเติม เหมาะกับผู้ที่มีทักษะการสื่อสาร มีใจรักบริการ และสามารถทำงานจากที่บ้านได้ในหลายองค์กร
3. นักแปล
แนะนำให้เรียนการใช้เครื่องมือ AI แปลภาษาเพิ่มเติม สายงานนี้เหมาะกับผู้ที่มีทักษะด้านภาษา และต้องการใช้ทักษะเดิมในการทำงานอิสระที่บ้าน พร้อมจัดสรรเวลาได้เอง
4. บัญชี/การเงินเบื้องต้น
แนะนำให้อัปสกิลการใช้เครื่องมือ Microsoft Copilot ช่วยจัดการข้อมูล เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานด้านการจัดการเอกสารทางการเงิน สามารถทำแบบฟรีแลนซ์ หรือช่วยสนับสนุนธุรกิจ SME ได้
5. งานธุรการ/ประสานงาน
ใช้เครื่องมือ Microsoft Copilot ช่วยจัดการได้เช่นกัน เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในงานเอกสาร นัดหมาย และการประสานงาน พร้อมเรียนรู้การใช้เครื่องมือดิจิทัลเบื้องต้น
6. ขายของออนไลน์
แนะนำให้เรียนการใช้เครื่องมือ ChatGPT ในการหาข้อมูลหรือวางแผนขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำงานจากที่บ้าน รู้จักการใช้โซเชียลมีเดีย หรือแอปขายของต่างๆ และสามารถจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. ที่ปรึกษาอิสระ
แนะนำให้เรียนการใช้เครื่องมือ ChatGPT ช่วยหาข้อมูลได้อย่างดี เหมาะกับผู้ที่อยากแบ่งปันประสบการณ์ในด้านการเงิน การลงทุน หรือการพัฒนาทักษะให้กับคนรุ่นใหม่
เกษียณแล้วไง ยังทำงานไหว! เปิด 7 สายงานคนรุ่นสูงวัยก็ทำได้
โดยแรงงานกลุ่มนี้หลายคนยังมีศักยภาพในการทำงานในหลากหลายอาชีพ และพร้อมกลับเข้าสู่ตลาดงานในหลากหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเพื่อหารายได้เพิ่ม หรืออยากเพิ่มความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต หรือการแบ่งปันประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่ก็ตาม
ทักษะ AI พื้นฐานใหม่ของโลกการทำงาน
ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีอย่าง Generative AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกการทำงานไปอย่างรวดเร็ว ไม่เฉพาะสายเทคโนโลยี แต่ลามไปถึงสายงานอื่นๆ ด้วย เช่น การตลาด การขาย การดูแลสุขภาพ และงานบริการต่างๆ โดยข้อมูลจาก World Economic Forum ระบุว่า จำนวนคนที่เพิ่มทักษะ AI ทั่วโลกพุ่งขึ้นถึง 177% ตั้งแต่ปี 2018
ไม่เพียงเท่านั้น กว่า 50% ของนายจ้างยังเผยว่า “จะไม่รับผู้สมัครที่ไม่มีพื้นฐานด้าน AI” โดยเฉพาะทักษะอย่าง Prompt Engineering หรือการใช้งานเครื่องมืออย่าง ChatGPT และ Microsoft Copilot ที่กำลังกลายเป็นทักษะพื้นฐานของคนทำงานทุกคน ดังนั้น หากแรงงานกลุ่มสูงวัยได้รับการอัปสกิลด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติม ก็จะยิ่งช่วยต่อยอด และเพิ่มโอกาสทางอาชีพในสายสายต่างๆ ได้มากขึ้น
7 อาชีพน่าจับตา เหมาะกับวัยเก๋าที่พร้อมเรียนรู้และปรับตัว
ทั้งนี้ Jobsdb ได้แนะนำ 7 สายงานที่เปิดรับแรงงานกลุ่มสูงวัยอย่างแท้จริง ทั้งยังสามารถต่อยอดจากประสบการณ์เดิมได้ง่าย พร้อมแนะให้ลองผสานทักษะที่มีอยู่เดิม เข้ากับเครื่องมือดิจิทัลหรือ AI เช่น คอร์สเรียนออนไลน์ โปรแกรมช่วยแปลภาษา หรือแอปพลิเคชันจัดการข้อมูล ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น
1. ครูพิเศษ/ติวเตอร์
แนะนำให้เรียนรู้ทักษะการสอนออนไลน์เพิ่มเติม ก็จะช่วยให้ทำงานได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น ข้อดีคือ ทำงานจากที่บ้านได้ มีเวลายืดหยุ่น และได้เชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ผ่านโลกการศึกษาออนไลน์
2. งานบริการลูกค้า/Call Center
อาจเรียนทักษะการสื่อสารเพิ่มเติม เหมาะกับผู้ที่มีทักษะการสื่อสาร มีใจรักบริการ และสามารถทำงานจากที่บ้านได้ในหลายองค์กร
3. นักแปล
แนะนำให้เรียนการใช้เครื่องมือ AI แปลภาษาเพิ่มเติม สายงานนี้เหมาะกับผู้ที่มีทักษะด้านภาษา และต้องการใช้ทักษะเดิมในการทำงานอิสระที่บ้าน พร้อมจัดสรรเวลาได้เอง
4. บัญชี/การเงินเบื้องต้น
แนะนำให้อัปสกิลการใช้เครื่องมือ Microsoft Copilot ช่วยจัดการข้อมูล เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานด้านการจัดการเอกสารทางการเงิน สามารถทำแบบฟรีแลนซ์ หรือช่วยสนับสนุนธุรกิจ SME ได้
5. งานธุรการ/ประสานงาน
ใช้เครื่องมือ Microsoft Copilot ช่วยจัดการได้เช่นกัน เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในงานเอกสาร นัดหมาย และการประสานงาน พร้อมเรียนรู้การใช้เครื่องมือดิจิทัลเบื้องต้น
6. ขายของออนไลน์
แนะนำให้เรียนการใช้เครื่องมือ ChatGPT ในการหาข้อมูลหรือวางแผนขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำงานจากที่บ้าน รู้จักการใช้โซเชียลมีเดีย หรือแอปขายของต่างๆ และสามารถจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. ที่ปรึกษาอิสระ
แนะนำให้เรียนการใช้เครื่องมือ ChatGPT ช่วยหาข้อมูลได้อย่างดี เหมาะกับผู้ที่อยากแบ่งปันประสบการณ์ในด้านการเงิน การลงทุน หรือการพัฒนาทักษะให้กับคนรุ่นใหม่