บันทึก วันแรก
8 มีนา 68
ออกจากบ้านตีห้ากว่า
กินโจ๊กเจ๊รักที่ตลาด 50 บาท
ลงเรือที่ท่าเรือข้ามฟาก
จากนั้นปั่นมาเส้นด้านหลังบางขุนเทียนมหาชัย
ช่วงจังหวะลงสะพานสะพาน งานเข้าครั้งแรก สายรัดเนื่องจากซื้อของถูกไปจากร้าน 20 บาท ตะขอรู้สึกอ่อนนุ่ม มันหลุดออกจาก ที่เกี่ยว สายรรัดยางยืดพันโซ่ ของหล่น ลองรองเท้าแตะหมุนเข้าไปในซี่ล้อและ พันกับโซ่
มีพี่นักปั่นจักรยานมายืนคอยให้กำลังใจ ในการแก้ไข เอาตัวรอดไปได้อย่างเสียวเสียว เพราะสายหลักเข้าไปในเฟืองแน่นจนถอดไม่ได้จะไม่สามารถไปต่อได้เลยเพราะมันจะติดล้อจะไม่ขยับถึงล้อขยับเกียร์ก็จะไม่ทำงาน โชคดีมาก
ปั่นมาได้อีกสักพักพี่นักปั่นตามหลังมาเรื่อยเรื่อย มีเสียงดังที่บริเวณด้านหลัง จนเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆและดังฟี๊ด รู้สึกตกใจมาก งานเข้าอีกแล้ว จอดรถและทำการตรวจเช็ค รู้สึกเขินเล็กน้อยเพราะพี่นักปั่นทั้งสองปั่นมาถึง เค้าบอกได้ยินเสียงเหมือนกันมาแต่ไกล ตรวจลงเช็คลมยาง ใจคิดว่าเอาแล้วงานเข้า

ต้องถอดชุดใหญ่เลยปะยาง โชคดีไม่ใช่ แค่แผ่นพลาสติกที่ติดไว้เป็นบังโคลนเสียดสีกับล้อ จึงถอดออก
ผ่านมาเรื่อยเรื่อยตามทางก่อนออกถนน มหาชัย แวะซื้อขนมปังแซนด์วิชไว้กินเป็นพลังงาน 30 บาท
เจ้าของร้านดูสนใจและสอบถาม และพูดคุยว่าไปเชียงใหม่มาแล้วครับ ทริปนี้ไปยะลาเบตง เจ้าของร้านดูตื่นเต้นตกใจ และอวยพรขอให้ประสบความสำเร็จและโชคดี รู้สึกว่าการที่เราเป็นมิตรและพูดคุยกับผู้คน สามารถสร้างสิ่งดีดีได้
เมื่อปั่นเข้าสู่ถนนพระรามสอง หันไปมองที่กระจกด้านหลัง พบเพื่อนนักปั่นคนหนึ่ง จึงชะลอเพื่อเตรียมโบกมือทักทาย ปรากฏว่าเป็นฝรั่งจึงเซฮัลโลออกไป ชวนคุยระหว่างทางปั่นมาสักพัก เรารู้สึกว่ามันอันตรายเกินไป จึงบอกว่าแวะปั๊มข้างหน้าเพื่อนั่งคุยกันดีกว่า คุยไปคุยมารู้สึกว่าถูกคอ คุยกันอยู่นาน นั่งกินกาแฟ คุยกันนาน เราก็อยากฝึกภาษาอังกฤษ มั่วมั่วไปอาศัยใจกล้า รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จากนั้นเราจึงแบ่งปันเกลือแร่ให้กับเขา สอบถามเค้าบอกว่าจะไปกระบี่ เราบอกว่าจะไปเบตงยะลา เขามาจากสตอกโฮล์มประเทศสวีเดนมากรุงเทพฯได้สองวันแล้ว เอาจักรยานมาด้วย จึงชวนปั่นไปด้วยกันในระหว่างทาง เราได้แนะนำว่าเมืองไทยมีที่พักของตำรวจทางหลวงตลอดเส้นทางนี้คุณจะไป ถ้าต้องการคืนนี้ไปพักกับเราด้วยก็ได้ ที่ตำรวจทางหลวงวังมะนาว ปั่นตามกันมาเรื่อยเรื่อยเรื่อย แวะพักด้วยกัน (เค้าคงต้องการเพื่อน)
ตลอดเส้นทางถนน พระราม 2 รถเร็วตลอด ค่อนข้างอันตรายอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมาถึงที่พักตำรวจทางหลวงวังมะนาว แล้วดูตื่นเต้นและดีใจมากที่มีสถานที่แบบนี้ของตำรวจให้เราพักฟรีได้ด้วย
เราพูดคุยถึงแผนการในวันพรุ่งนี้ เราสอบถามตำรวจทางหลวงห้วยมงคล ได้รับแจ้งว่าเค้าไม่เปิดห้องให้ใช้ เขามีคนพักอยู่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนแผน พรุ่งนี้จะไปนอนวนอุทยานชะอำ เพื่อนฝรั่งสนใจ เค้าบอกเค้าไม่รีบ เราเลยแนะนำ เดี๋ยวจะ ชวนไปเส้นทาง โลค่อล ทางชนบท และ กินอาหารพื้นบ้านเป็นข้าวต้มที่เมืองเพชรบุรี จากนั้นไปหาดชะอำ ปั่นริมทะเล เค้าดูชอบและตื่นเต้น บอกพรุ่งนี้ไปด้วย สนใจแผนของเรา
นั่งคุยกันด้านนอกอยู่นานพอสมควร รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
ก่อนจะนอน เค้ามาเล่าให้ฟังว่า ลูกอัณฑะบวม แต่ไม่ปวด เราตกใจมาก 🤣🤣🤣 บอกว่าถ้าไม่หายหรือปวด พรุ่งนี้ไปหาหมอหรือจะไปตอนนี้เลยเดี๋ยวเรียกตำรวจให้ เค้าบอกไม่ปวด โอเคนอน พรุ่งนี้ลุยกันต่อ
เพื่อนใหม่ ชื่อ ลาธี๊ป มาจาก สต็อกโฮม สวีเดน มีเชื้อสายโมร็อคโค
** เพิ่มเติม
ผมเริ่มออกเดินทางในวันที่ 8 มีนาคม 2568 สาเหตุที่เริ่มออกเดินทางในวันนี้ เนื่องจากเลข 8 ♾️ สำหรับผมเป็นเสมือนสัญลักษณ์หรือตัวแทนของจักรยานหรือวงล้อจักรยาน ที่เราสามารถจินตนาการมองเห็นได้ ผมจึงเลือกเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้น เพื่อค้นหาความสุข ค้นหาชีวิตและประสบการณ์ ความทรงจำที่ดีให้กับเราด้วยจักรยานคู่ใจ
อีกอย่างเลข 8 ♾️ มีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์อินฟินิตี้ ซึ่งมีความหมายว่า ไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับผมการปั่นจักรยานและความรักในจักรยานก็ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน
😊
บันทึก วันที่ 2
9 มีนา 68
วันนี้ปั่น ถึง กม ที่ 196 (เมื่อวาน 101 กม) วันนี้ปั่นรวม 95 กม
พรุ่งนี้ วนอุทยาน ตาม่องลาย 115 กม(แต่ไม่ได้ไปที่นี่ ไปอีกที่หนึ่ง)
วันนี้ตื่นกันตั้งแต่ตีสี่กว่ากว่าออกมาตีห้าท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย วิ่งวนในทุ่งนาทั้งที่มืดมืดทุ่งนาแมลงเยอะมาก
พอมี แสงของพระอาทิตย์บ้างจึงต้องปิดไฟเพราะไม่งั้นแมลงจะตอมหน้าตอมตัวไปทั้งหมด
ลาทีบประทับใจเส้นทางในวันนี้เนื่องจากเราไม่ได้วิ่งเส้นหลักแต่เราวิ่งเส้นทางท้องถิ่น เส้นทางที่ชาวบ้านใช้กัน
ปั่นมาถึงหนองปลาไหลบังเอิญให้เจอแบงค์น้องชายของกอล์ฟ(เพื่อน) พบกันโดยบังเอิญโชคดีมากแม่ของแบงค์เอาขนมครกให้สองถุงซึ่งเป็นอาหารพลังงานที่พอจะประทังได้ในช่วงเช้าเพราะวันนี้ตอนเช้าไม่ได้กินอะไรกันมาเลย
เมื่อไปถึงเมืองเพชร ลาทีบ ไปกินข้าวต้มเครื่องซึ่งราทิบไม่กินหมูเค้ากินแต่ปลาอาหารทะเลและไก่เท่านั้นและเนื้อด้วย
จากนั้นพาลาทีบไปซื้อกางเกงจักรยานเนื่องจากเค้าบ่นปวดไข่มาก โชคดีจริงๆที่ร้านจักรยานเปิด และโชคดีที่เค้ามีกางเกงจักรยานขาย เป็นร้านเดียวของเมืองเพชรที่หาซื้อได้ในวันนี้ และเป็นโชคดีของผมไม่งั้นจะคิดอะไร อย่างไร ต่อไปก็ไม่รู้เพราะ ลาทีบบ่นว่าปวดไข่มากเมื่อคืน จะเปิดให้ผมดูให้ได้ 🤣🤣🤣
จากตัวเมืองเพชรผ่านมาที่หาดเจ้าสำราญ เมื่อมาถึงนั่งพักผ่อนและชมบรรยากาศของผู้คนที่มาปิกนิกกัน
จากนั้นปั่นมาที่หาดชะอำ จุดหมายในวันนี้คือ วนอุทยานชะอำ เพื่อเข้าพักค่าบริการ 30 บาทแต่หากเข้ามาไม่พบเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้เลยโดยชำระในวันต่อไปหรือสแกน QR Code จ่าย
เมื่อถึงหาดชะอำ ประทับใจสะพานและวิถีชาวบ้านที่มีเรือจอดอยู่เต็มจึงบันทึกภาพไว้เป็นความทรงจำที่ดีมากบรรยากาศดีมากรู้สึกประทับใจมาก แต่ใช้เวลาอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีเพื่อนมาด้วย ความรู้สึกว่าอยากนั่งนานกว่านี้
จากนั้นซื้อน้ำและร้านอาหารตามสั่งซึ่งราคาไม่แพงและได้รับคำแนะนำจากน้องสาวคนสวยที่ขายน้ำเป็นอย่างดี
ลาทีบกินเผ็ดได้นิดหน่อยเค้าสั่งต้มยำกุ้งมากินกับข้าวโดยตักข้าวใส่ในต้มยำกุ้ง เราบอกว่าตามสบายเลย ยูสไตล์
จากนั้นมาปั่นจักรยานมาดู. ปติมากรรมปลาหมึกคู่ และนั่งชมบรรยากาศที่น่าประทับใจดูคนตกปลาและปลาหมึกและวิถีชีวิตชาวบ้าน
ที่นี่เรียกว่าชุมชนสะพานปู่ชัก เขตชะอำเหนือ
ที่วนอุทยานชะอำ บรรยากาศดีมากๆนอกจากนี้ในเวลากลางคืนยังมีหิ่งห้อยที่สระบัวให้เราได้ไปนั่งมองให้เพลิดเพลินใจด้วย ลาธิประทับใจมากเราก็เช่นกัน
วันนี้กางเต็นท์นอน
พรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อดี แล้วแต่โชคชะตาจะพาไป 😊
บันทึก วันที่ 3
10 มีนา 68
เมื่อคืนหลับสบายมาก ตื่นเช้ามาเตรียมอุปกรณ์ต้มกาแฟอย่างดี แต่ดันหาไฟแช็กไม่เจอ 😂😂
บางครั้งชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ เตรียมตัวมาอย่างดี คิดว่าทำทุกอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังเจออุปสรรคที่คาดไม่ถึงเค้าจนได้ ไฟแช็กคงเก็บไว้ในที่ที่นึกไม่ออก เช้านี้จึงอดชงกาแฟกันเลย 😵💫
ออกจากที่พัก 8 โมง ได้ไก่ย่างเป็นพลังงาน เรื่องอาหารเช้า พลังงานสำหรับปั่นจักรยานทางไกลของผมนั้นถือเป็นเรื่องจริงจังและสำคัญมาก เพราะรู้ว่าการปั่นจักรยานทางไกลจำเป็นต้องใช้พลังงาน และหากเรามีพลังงานเราไม่กลัวการปั่นจักรยานทางไกลเลย ดังนั้นเช้านี้จึงชวนลาทิบกินไก่ย่างเป็นอาหารเช้า
ปั่นมาถึงค่ายนเรศวรได้พบกับการกระโดดร่มตื่นเต้นมาก
เมื่อถึงหัวหิน ยางแตก งานเข้าเลย โชคดีเป็นยางหน้า และมีเพื่อนช่วยยกจักรยานให้ การ เปลี่ยนยางใน จึงเป็นอย่างราบรื่น ทริปนี้เราเตรียมยางในมาสองเส้น ยางนอกหนึ่งเส้น ยังแตกเช่นนี้เราไม่ปากเพราะเสียเวลา จะทำการเปลี่ยน ยางใน แล้วนำยางในที่รั่วมาเมื่อถึงที่พักแล้ว
เมื่อเปลี่ยนยางเสร็จแล้วลาทิบไปซื้อกาแฟมาให้ จากนั้นไปนั่งกิน ได้พบกับเพื่อนใหม่อีกคนหนึ่ง เค้าชื่อ วิจิ มาจากประเทศมาเลเซีย เค้าบอกว่าเค้าเป็นฮินดู และหากไปเที่ยวมาเลเซียติดต่อเค้าได้เลย เค้าขอเบอร์ไปด้วย วิจิเป็นนักท่องเที่ยวที่มากับเพื่อนเค้าขี่มอเตอร์ไซค์มาท่องเที่ยวกับเพื่อนอีกสามคน เค้ารู้สึกประทับใจการปั่นจักรยานของพวกเรามาก ง่ายง่ายทำความรู้จักง่ายง่ายกันอย่างนี้เลย การเดินทางด้วยจักรยานนี้ดีจริงจริงสามารถสื่อสารออกไปพบปะกับผู้คนได้ง่ายจัง
ในวันนี้แผนการว่าจะมากินข้าวที่ร้านคุณน้อย แต่ปรากฏว่า ระหว่างทางมาปราณบุรีเมื่อลงสะพานที่สูงมาก ปรากฏว่าลาทีบ จักรยานล้มคว่ำไม่เป็นท่าลงข้างทางเลือดอาบหน้าเละเทะ โชคดีได้พลเมืองดีเข้ามาช่วยกันเอาจักรยานออกจากตัวที่ทับลาทิบอยู่ จากนั้นจึงปั่นมาที่อนามัยปราณบุรีเพื่อทำแผล และปั่นมาเรื่อยเรื่อยจนถึงหาดสามพระยาเพื่อกางเต็นท์ในคืนนี้ เมื่อมาถึงรู้สึกว่าประทับใจเป็นอย่างมากหากนี้เงียบสงบและสวยงามสวยงามมากๆ แต่ลาทีบดูจะติดขัดหรือมีข้อข้องใจเป็นอย่างมาก กับเรื่องของการจ่ายค่าเข้าอุทยานสำหรับชาวต่างชาติ เหมือนเขาจะข้องใจว่าทำไมเราจ่ายค่าเข้าอุทยานถูกกว่า ส่วนเขาซึ่งเป็นชาวต่างชาติจ่ายค่าเข้าอุทยานแพงกว่า 😵💫😆
ตอนกลางคืนหลังอาบน้ำเสร็จแล้วมานั่งที่โรงอาหาร พบกับเพื่อนใหม่ชื่อโจฟี่ เค้าเป็นชาวเยอรมัน พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เค้าปั่นอยู่บริเวณภาคใต้นี้นานหลายวันแล้ว กำลังจะปั่นกลับกรุงเทพเพื่อที่จะไปกัมพูชาต่อ โจฟี่เดินทางมาคนเดียวและมีเปลมาผูกใกล้ใกล้เต็นท์เหมือนกันกับเราที่นำเปลมาผูกใกล้ใกล้เต็นท์เพื่อนอนเล่นรับลมในเวลากลางคืน
คืนนี้นอนเล่นชมแสงจันทร์และรับลมทะเลเพลินไปเลย
พรุ่งนี้พักขาหนึ่งวัน
ตามแผนแล้วจะปั่นสามวัน พักหนึ่งวัน
21.59 น ผูกเปลนอนชมบรรยากาศริมทะเลรู้สึกฟิวกู๊ดสำหรับเคสนี้เป็นเป็นอย่างมาก ได้ยินทั้งเสียงนกและเสียงคลื่น
วันนี้ปั่น 284 กิโล
ปั่นจักรยาน สมุทรปราการ เบตง
8 มีนา 68
ออกจากบ้านตีห้ากว่า
กินโจ๊กเจ๊รักที่ตลาด 50 บาท
ลงเรือที่ท่าเรือข้ามฟาก
จากนั้นปั่นมาเส้นด้านหลังบางขุนเทียนมหาชัย
ช่วงจังหวะลงสะพานสะพาน งานเข้าครั้งแรก สายรัดเนื่องจากซื้อของถูกไปจากร้าน 20 บาท ตะขอรู้สึกอ่อนนุ่ม มันหลุดออกจาก ที่เกี่ยว สายรรัดยางยืดพันโซ่ ของหล่น ลองรองเท้าแตะหมุนเข้าไปในซี่ล้อและ พันกับโซ่
มีพี่นักปั่นจักรยานมายืนคอยให้กำลังใจ ในการแก้ไข เอาตัวรอดไปได้อย่างเสียวเสียว เพราะสายหลักเข้าไปในเฟืองแน่นจนถอดไม่ได้จะไม่สามารถไปต่อได้เลยเพราะมันจะติดล้อจะไม่ขยับถึงล้อขยับเกียร์ก็จะไม่ทำงาน โชคดีมาก
ปั่นมาได้อีกสักพักพี่นักปั่นตามหลังมาเรื่อยเรื่อย มีเสียงดังที่บริเวณด้านหลัง จนเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆและดังฟี๊ด รู้สึกตกใจมาก งานเข้าอีกแล้ว จอดรถและทำการตรวจเช็ค รู้สึกเขินเล็กน้อยเพราะพี่นักปั่นทั้งสองปั่นมาถึง เค้าบอกได้ยินเสียงเหมือนกันมาแต่ไกล ตรวจลงเช็คลมยาง ใจคิดว่าเอาแล้วงานเข้า
ผ่านมาเรื่อยเรื่อยตามทางก่อนออกถนน มหาชัย แวะซื้อขนมปังแซนด์วิชไว้กินเป็นพลังงาน 30 บาท
เจ้าของร้านดูสนใจและสอบถาม และพูดคุยว่าไปเชียงใหม่มาแล้วครับ ทริปนี้ไปยะลาเบตง เจ้าของร้านดูตื่นเต้นตกใจ และอวยพรขอให้ประสบความสำเร็จและโชคดี รู้สึกว่าการที่เราเป็นมิตรและพูดคุยกับผู้คน สามารถสร้างสิ่งดีดีได้
เมื่อปั่นเข้าสู่ถนนพระรามสอง หันไปมองที่กระจกด้านหลัง พบเพื่อนนักปั่นคนหนึ่ง จึงชะลอเพื่อเตรียมโบกมือทักทาย ปรากฏว่าเป็นฝรั่งจึงเซฮัลโลออกไป ชวนคุยระหว่างทางปั่นมาสักพัก เรารู้สึกว่ามันอันตรายเกินไป จึงบอกว่าแวะปั๊มข้างหน้าเพื่อนั่งคุยกันดีกว่า คุยไปคุยมารู้สึกว่าถูกคอ คุยกันอยู่นาน นั่งกินกาแฟ คุยกันนาน เราก็อยากฝึกภาษาอังกฤษ มั่วมั่วไปอาศัยใจกล้า รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง จากนั้นเราจึงแบ่งปันเกลือแร่ให้กับเขา สอบถามเค้าบอกว่าจะไปกระบี่ เราบอกว่าจะไปเบตงยะลา เขามาจากสตอกโฮล์มประเทศสวีเดนมากรุงเทพฯได้สองวันแล้ว เอาจักรยานมาด้วย จึงชวนปั่นไปด้วยกันในระหว่างทาง เราได้แนะนำว่าเมืองไทยมีที่พักของตำรวจทางหลวงตลอดเส้นทางนี้คุณจะไป ถ้าต้องการคืนนี้ไปพักกับเราด้วยก็ได้ ที่ตำรวจทางหลวงวังมะนาว ปั่นตามกันมาเรื่อยเรื่อยเรื่อย แวะพักด้วยกัน (เค้าคงต้องการเพื่อน)
ตลอดเส้นทางถนน พระราม 2 รถเร็วตลอด ค่อนข้างอันตรายอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมาถึงที่พักตำรวจทางหลวงวังมะนาว แล้วดูตื่นเต้นและดีใจมากที่มีสถานที่แบบนี้ของตำรวจให้เราพักฟรีได้ด้วย
เราพูดคุยถึงแผนการในวันพรุ่งนี้ เราสอบถามตำรวจทางหลวงห้วยมงคล ได้รับแจ้งว่าเค้าไม่เปิดห้องให้ใช้ เขามีคนพักอยู่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนแผน พรุ่งนี้จะไปนอนวนอุทยานชะอำ เพื่อนฝรั่งสนใจ เค้าบอกเค้าไม่รีบ เราเลยแนะนำ เดี๋ยวจะ ชวนไปเส้นทาง โลค่อล ทางชนบท และ กินอาหารพื้นบ้านเป็นข้าวต้มที่เมืองเพชรบุรี จากนั้นไปหาดชะอำ ปั่นริมทะเล เค้าดูชอบและตื่นเต้น บอกพรุ่งนี้ไปด้วย สนใจแผนของเรา
นั่งคุยกันด้านนอกอยู่นานพอสมควร รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
ก่อนจะนอน เค้ามาเล่าให้ฟังว่า ลูกอัณฑะบวม แต่ไม่ปวด เราตกใจมาก 🤣🤣🤣 บอกว่าถ้าไม่หายหรือปวด พรุ่งนี้ไปหาหมอหรือจะไปตอนนี้เลยเดี๋ยวเรียกตำรวจให้ เค้าบอกไม่ปวด โอเคนอน พรุ่งนี้ลุยกันต่อ
เพื่อนใหม่ ชื่อ ลาธี๊ป มาจาก สต็อกโฮม สวีเดน มีเชื้อสายโมร็อคโค
** เพิ่มเติม
ผมเริ่มออกเดินทางในวันที่ 8 มีนาคม 2568 สาเหตุที่เริ่มออกเดินทางในวันนี้ เนื่องจากเลข 8 ♾️ สำหรับผมเป็นเสมือนสัญลักษณ์หรือตัวแทนของจักรยานหรือวงล้อจักรยาน ที่เราสามารถจินตนาการมองเห็นได้ ผมจึงเลือกเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้น เพื่อค้นหาความสุข ค้นหาชีวิตและประสบการณ์ ความทรงจำที่ดีให้กับเราด้วยจักรยานคู่ใจ
อีกอย่างเลข 8 ♾️ มีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์อินฟินิตี้ ซึ่งมีความหมายว่า ไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับผมการปั่นจักรยานและความรักในจักรยานก็ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกัน
😊
บันทึก วันที่ 2
9 มีนา 68
วันนี้ปั่น ถึง กม ที่ 196 (เมื่อวาน 101 กม) วันนี้ปั่นรวม 95 กม
พรุ่งนี้ วนอุทยาน ตาม่องลาย 115 กม(แต่ไม่ได้ไปที่นี่ ไปอีกที่หนึ่ง)
วันนี้ตื่นกันตั้งแต่ตีสี่กว่ากว่าออกมาตีห้าท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย วิ่งวนในทุ่งนาทั้งที่มืดมืดทุ่งนาแมลงเยอะมาก
พอมี แสงของพระอาทิตย์บ้างจึงต้องปิดไฟเพราะไม่งั้นแมลงจะตอมหน้าตอมตัวไปทั้งหมด
ลาทีบประทับใจเส้นทางในวันนี้เนื่องจากเราไม่ได้วิ่งเส้นหลักแต่เราวิ่งเส้นทางท้องถิ่น เส้นทางที่ชาวบ้านใช้กัน
ปั่นมาถึงหนองปลาไหลบังเอิญให้เจอแบงค์น้องชายของกอล์ฟ(เพื่อน) พบกันโดยบังเอิญโชคดีมากแม่ของแบงค์เอาขนมครกให้สองถุงซึ่งเป็นอาหารพลังงานที่พอจะประทังได้ในช่วงเช้าเพราะวันนี้ตอนเช้าไม่ได้กินอะไรกันมาเลย
เมื่อไปถึงเมืองเพชร ลาทีบ ไปกินข้าวต้มเครื่องซึ่งราทิบไม่กินหมูเค้ากินแต่ปลาอาหารทะเลและไก่เท่านั้นและเนื้อด้วย
จากนั้นพาลาทีบไปซื้อกางเกงจักรยานเนื่องจากเค้าบ่นปวดไข่มาก โชคดีจริงๆที่ร้านจักรยานเปิด และโชคดีที่เค้ามีกางเกงจักรยานขาย เป็นร้านเดียวของเมืองเพชรที่หาซื้อได้ในวันนี้ และเป็นโชคดีของผมไม่งั้นจะคิดอะไร อย่างไร ต่อไปก็ไม่รู้เพราะ ลาทีบบ่นว่าปวดไข่มากเมื่อคืน จะเปิดให้ผมดูให้ได้ 🤣🤣🤣
จากตัวเมืองเพชรผ่านมาที่หาดเจ้าสำราญ เมื่อมาถึงนั่งพักผ่อนและชมบรรยากาศของผู้คนที่มาปิกนิกกัน
จากนั้นปั่นมาที่หาดชะอำ จุดหมายในวันนี้คือ วนอุทยานชะอำ เพื่อเข้าพักค่าบริการ 30 บาทแต่หากเข้ามาไม่พบเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้เลยโดยชำระในวันต่อไปหรือสแกน QR Code จ่าย
เมื่อถึงหาดชะอำ ประทับใจสะพานและวิถีชาวบ้านที่มีเรือจอดอยู่เต็มจึงบันทึกภาพไว้เป็นความทรงจำที่ดีมากบรรยากาศดีมากรู้สึกประทับใจมาก แต่ใช้เวลาอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีเพื่อนมาด้วย ความรู้สึกว่าอยากนั่งนานกว่านี้
จากนั้นซื้อน้ำและร้านอาหารตามสั่งซึ่งราคาไม่แพงและได้รับคำแนะนำจากน้องสาวคนสวยที่ขายน้ำเป็นอย่างดี
ลาทีบกินเผ็ดได้นิดหน่อยเค้าสั่งต้มยำกุ้งมากินกับข้าวโดยตักข้าวใส่ในต้มยำกุ้ง เราบอกว่าตามสบายเลย ยูสไตล์
จากนั้นมาปั่นจักรยานมาดู. ปติมากรรมปลาหมึกคู่ และนั่งชมบรรยากาศที่น่าประทับใจดูคนตกปลาและปลาหมึกและวิถีชีวิตชาวบ้าน
ที่นี่เรียกว่าชุมชนสะพานปู่ชัก เขตชะอำเหนือ
ที่วนอุทยานชะอำ บรรยากาศดีมากๆนอกจากนี้ในเวลากลางคืนยังมีหิ่งห้อยที่สระบัวให้เราได้ไปนั่งมองให้เพลิดเพลินใจด้วย ลาธิประทับใจมากเราก็เช่นกัน
วันนี้กางเต็นท์นอน
พรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อดี แล้วแต่โชคชะตาจะพาไป 😊
บันทึก วันที่ 3
10 มีนา 68
เมื่อคืนหลับสบายมาก ตื่นเช้ามาเตรียมอุปกรณ์ต้มกาแฟอย่างดี แต่ดันหาไฟแช็กไม่เจอ 😂😂
บางครั้งชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ เตรียมตัวมาอย่างดี คิดว่าทำทุกอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังเจออุปสรรคที่คาดไม่ถึงเค้าจนได้ ไฟแช็กคงเก็บไว้ในที่ที่นึกไม่ออก เช้านี้จึงอดชงกาแฟกันเลย 😵💫
ออกจากที่พัก 8 โมง ได้ไก่ย่างเป็นพลังงาน เรื่องอาหารเช้า พลังงานสำหรับปั่นจักรยานทางไกลของผมนั้นถือเป็นเรื่องจริงจังและสำคัญมาก เพราะรู้ว่าการปั่นจักรยานทางไกลจำเป็นต้องใช้พลังงาน และหากเรามีพลังงานเราไม่กลัวการปั่นจักรยานทางไกลเลย ดังนั้นเช้านี้จึงชวนลาทิบกินไก่ย่างเป็นอาหารเช้า
ปั่นมาถึงค่ายนเรศวรได้พบกับการกระโดดร่มตื่นเต้นมาก
เมื่อถึงหัวหิน ยางแตก งานเข้าเลย โชคดีเป็นยางหน้า และมีเพื่อนช่วยยกจักรยานให้ การ เปลี่ยนยางใน จึงเป็นอย่างราบรื่น ทริปนี้เราเตรียมยางในมาสองเส้น ยางนอกหนึ่งเส้น ยังแตกเช่นนี้เราไม่ปากเพราะเสียเวลา จะทำการเปลี่ยน ยางใน แล้วนำยางในที่รั่วมาเมื่อถึงที่พักแล้ว
เมื่อเปลี่ยนยางเสร็จแล้วลาทิบไปซื้อกาแฟมาให้ จากนั้นไปนั่งกิน ได้พบกับเพื่อนใหม่อีกคนหนึ่ง เค้าชื่อ วิจิ มาจากประเทศมาเลเซีย เค้าบอกว่าเค้าเป็นฮินดู และหากไปเที่ยวมาเลเซียติดต่อเค้าได้เลย เค้าขอเบอร์ไปด้วย วิจิเป็นนักท่องเที่ยวที่มากับเพื่อนเค้าขี่มอเตอร์ไซค์มาท่องเที่ยวกับเพื่อนอีกสามคน เค้ารู้สึกประทับใจการปั่นจักรยานของพวกเรามาก ง่ายง่ายทำความรู้จักง่ายง่ายกันอย่างนี้เลย การเดินทางด้วยจักรยานนี้ดีจริงจริงสามารถสื่อสารออกไปพบปะกับผู้คนได้ง่ายจัง
ในวันนี้แผนการว่าจะมากินข้าวที่ร้านคุณน้อย แต่ปรากฏว่า ระหว่างทางมาปราณบุรีเมื่อลงสะพานที่สูงมาก ปรากฏว่าลาทีบ จักรยานล้มคว่ำไม่เป็นท่าลงข้างทางเลือดอาบหน้าเละเทะ โชคดีได้พลเมืองดีเข้ามาช่วยกันเอาจักรยานออกจากตัวที่ทับลาทิบอยู่ จากนั้นจึงปั่นมาที่อนามัยปราณบุรีเพื่อทำแผล และปั่นมาเรื่อยเรื่อยจนถึงหาดสามพระยาเพื่อกางเต็นท์ในคืนนี้ เมื่อมาถึงรู้สึกว่าประทับใจเป็นอย่างมากหากนี้เงียบสงบและสวยงามสวยงามมากๆ แต่ลาทีบดูจะติดขัดหรือมีข้อข้องใจเป็นอย่างมาก กับเรื่องของการจ่ายค่าเข้าอุทยานสำหรับชาวต่างชาติ เหมือนเขาจะข้องใจว่าทำไมเราจ่ายค่าเข้าอุทยานถูกกว่า ส่วนเขาซึ่งเป็นชาวต่างชาติจ่ายค่าเข้าอุทยานแพงกว่า 😵💫😆
ตอนกลางคืนหลังอาบน้ำเสร็จแล้วมานั่งที่โรงอาหาร พบกับเพื่อนใหม่ชื่อโจฟี่ เค้าเป็นชาวเยอรมัน พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เค้าปั่นอยู่บริเวณภาคใต้นี้นานหลายวันแล้ว กำลังจะปั่นกลับกรุงเทพเพื่อที่จะไปกัมพูชาต่อ โจฟี่เดินทางมาคนเดียวและมีเปลมาผูกใกล้ใกล้เต็นท์เหมือนกันกับเราที่นำเปลมาผูกใกล้ใกล้เต็นท์เพื่อนอนเล่นรับลมในเวลากลางคืน
คืนนี้นอนเล่นชมแสงจันทร์และรับลมทะเลเพลินไปเลย
พรุ่งนี้พักขาหนึ่งวัน
ตามแผนแล้วจะปั่นสามวัน พักหนึ่งวัน
21.59 น ผูกเปลนอนชมบรรยากาศริมทะเลรู้สึกฟิวกู๊ดสำหรับเคสนี้เป็นเป็นอย่างมาก ได้ยินทั้งเสียงนกและเสียงคลื่น
วันนี้ปั่น 284 กิโล