เมื่อ EPL เปลี่ยนทิศ 'ศึกชิงบัลลังก์สตรีมมิงไทย' เจาะยุทธศาสตร์ใครจะพาแบรนด์ครองจอ
สมรภูมิสตรีมมิงในไทยเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง หลังจาก บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ผู้คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (EPL) และเอฟเอคัพ อังกฤษ สำหรับฤดูกาล 2025/26 เป็นต้นไป ซึ่งได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) จาก The Football Association Premier League Limited หรือ FAPL ในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา
.
ล่าสุดได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในการเป็น Strategic Partnership นำคอนเทนต์กีฬาฟุตบอลลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกมาให้แฟนบอลชาวไทย ผ่านสตรีมมิงแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง AIS PLAY และ Monomax ที่รวบรวมคอนเทนต์กีฬา
.
สิ่งที่น่าจับตามองหลังจากนี้คือ AIS PLAY สร้างแรงสั่นสะเทือนด้วยการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเอฟเอคัพ แบบครบทุกแมตช์จนถึงปี 2028 ตัดหน้าอดีตเจ้าตลาดอย่าง True Visions NOW ที่เคยผูกขาดสิทธิ์ลีกดังมาอย่างยาวนาน
.
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การแย่งคอนเทนต์ แต่มันคือการปักหมุดใหม่ของอำนาจในตลาดคอนเทนต์สตรีมมิงกีฬาในไทย เพราะพรีเมียร์ลีกอังกฤษไม่ใช่แค่ฟุตบอล แต่มันคือ "แม่เหล็ก" ที่เคยดึงผู้ชมกว่าล้านคนเข้าสู่ระบบของทีวีบอกรับสมาชิกตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อ English Premier League เปลี่ยนทิศ 'ศึกชิงบัลลังก์สตรีมมิงไทย' เจาะยุทธศาสตร์ใครจะพาแบรนด์ครองจอ