1.เห็นอย่างมีตัวตนเป็นมิจฉาสติ
สัมมาสติคือ“เห็นอย่างไม่มีตัวตน” เป็นผู้เห็น
ดังนั้นจะเป็นสัมมาสติได้ต้องเอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกจากตัวก่อน แล้ว“ตามเห็น”(ภาวนา)
ตามเห็นการเกิดดับของรูปนาม
ตามเห็นได้เพราะมี“สัมมาสมาธิ”ในสติ แล้วเกืดปัญญา เห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม
มีสติในการตามเห็นการเกิด มีสติในการามเห็นการดับ คือเห็นด้วยสัมมาสติ
สัมมาสติ เกิดจากที่กาย แล้วแผ่ออกไปนอกกาย
มีอะไรเกิดที่กายและนอกกาย “สัมมาสติ”จะเป็นผู้เห็น
2.เมื่อมีสัมมาสติแล้ว จะเห็นการเกิดดับผุดขึ้นที่ตำแหน่งกาย อันเริ่มจาก“หทยวัตถุ” เห็นเพราะมีสัมมาสมาธิ
เห็นแล้วเกิดอุปทาน เกิดการปรุงต่อ เป็นรูปนาม ขันธ์5
ข้างต้นเป็นการเห็น จิต เจตสิก รูป ในปรมัตถธรรม
สติแท้จริงอยู่ตรงไหน
สัมมาสติคือ“เห็นอย่างไม่มีตัวตน” เป็นผู้เห็น
ดังนั้นจะเป็นสัมมาสติได้ต้องเอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกจากตัวก่อน แล้ว“ตามเห็น”(ภาวนา)
ตามเห็นการเกิดดับของรูปนาม
ตามเห็นได้เพราะมี“สัมมาสมาธิ”ในสติ แล้วเกืดปัญญา เห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม
มีสติในการตามเห็นการเกิด มีสติในการามเห็นการดับ คือเห็นด้วยสัมมาสติ
สัมมาสติ เกิดจากที่กาย แล้วแผ่ออกไปนอกกาย
มีอะไรเกิดที่กายและนอกกาย “สัมมาสติ”จะเป็นผู้เห็น
2.เมื่อมีสัมมาสติแล้ว จะเห็นการเกิดดับผุดขึ้นที่ตำแหน่งกาย อันเริ่มจาก“หทยวัตถุ” เห็นเพราะมีสัมมาสมาธิ
เห็นแล้วเกิดอุปทาน เกิดการปรุงต่อ เป็นรูปนาม ขันธ์5
ข้างต้นเป็นการเห็น จิต เจตสิก รูป ในปรมัตถธรรม