JJNY : 5in1 จ่อเชิญนายกฯ แจง│กมธ.คอมเพล็กซ์ส.ว.ย้ำไม่มีธง│หุ้นไทยดิ่งแรง│ดัชนีเชื่อมั่นเม.ย.ต่ำ│เจรจายังไร้ความชัดเจน

กมธ.มั่นคงฯ เผยมีข้อมูล ปธ.กสทช.ขาดคุณสมบัติ จ่อเชิญ นายกฯ เข้าแจง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5184117
.
.
‘กมธ.มั่นคงฯ’ ยกข้อมูลกมธ.ไอซีที ส.ว.ชุดก่อน พบ ‘ปธ.กสทช.’ คนปัจจุบันขาดคุณสมบัติจริง จ่อ เชิญ ‘นายกฯ’ เข้าแจง พร้อมเตรียมหารือดำเนินการแจ้งหน่วยงานด้าน กม.ต่อ
.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ฯ ว่า กมธ.ความมั่นคงฯ ได้รับข้อมูลรายงานศึกษาจาก กมธ.ไอซีทีของวุฒิสภาชุดที่แล้ว ซึ่งมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และชี้ชัดในลักษณะว่าประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คนปัจจุบันขาดคุณสมบัติจริง ซึ่งเท่าที่พิจารณาก็พบว่าไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องนี้ และเมื่อไม่มีข้อโต้แย้งก็ถือข้อเท็จจริงตามที่รายงานของ กมธ.ไอซีที วุฒิสภาฯ ชุดที่แล้วพิจารณา โดยกระบวนการของ ส.ว.ชุดที่แล้วผ่าน กมธ.จนแล้วเสร็จแล้ว เหลือเพียงการดำเนินการส่งขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อขอให้เปลี่ยนแปลงประธาน กสทช. แต่กระบวนการนั้นยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากวุฒิสภาชุดที่แล้วได้หมดวาระลงไปก่อน
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กมธ.ความมั่นคงฯ หารือกันว่าจะมีการทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้เข้ามาชี้แจงในฐานะเป็นผู้เสนอขึ้นทูลเกล้าฯ โดยเบื้องต้นได้รับทราบจากที่ปรึกษา กมธ.ว่าปัญหาเรื่องประธาน กสทช.เคยมีประชาชนร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูล และทางตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็ไม่ได้ชี้แจงว่ารัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพราะเวลาล่วงเลยและอาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศ
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า สัปดาห์หน้า กมธ.ความมั่นคงฯ จะมีการพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยมีทางเลือกคือ ร้องไปยังหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานภายนอกที่ดำเนินการเพื่อรักษากฎหมายต่อไป โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อยุติ
.

.
กมธ. คอมเพล็กซ์ ส.ว. เตรียมเชิญ ‘อดีตนายก-ปธ.สภา’ ให้ความเห็น ย้ำไม่มีธง แต่ข้อมูลที่ได้ยังไม่มีข้อดีเลย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5184308
.
กมธ. เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ส.ว. เตรียมเชิญ อดีตนายกฯ-ปธ.สภาฯ-นักวิชาการ ให้ความเห็นสถานบันเทิงครบวงจร ย้ำไม่มีธง ชี้ข้อมูลที่ได้ยังไม่มีข้อดีเลย ยกเคสข่าวใหญ่เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงถูกจับเล่นคาบาร่า จี้”นายกฯ”แอคชั่นปล่อยไม่ได้
.
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ส.ว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเชิญบุคคลมาให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
.
กลุ่มที่ 1 อดีตนายกรัฐมนตรี อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายเศรษฐา ทวีสิน มาให้ข้อมูลว่าสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนหรือไม่ และคิดเห็นอบ่างไรกับนโยบายนี้
.
กลุ่มที่2 อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร หรืออดีตประธานวุฒิสภา อาทิ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ เพื่อสะท้อนมุมมองของฝ่ายนิติบัญญัติทั้งด้านข้อกฎหมายและใช้อำนาจควบคุมการใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดิน
.
กลุ่มที่ 3 นักวิชาการหรือผู้แทนองค์กร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การค้าโลก และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยกรรมาธิการต้องการรับทราบความคิดเห็นและผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หากมีสถานบันเทิงครบวงจรที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย
.
นายไชยยงค์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาตั้งอนุกรรมาธิการวิสามัญ 2 คณะ ได้แก่อนุกมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบทางด้านสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ และคณะอนุกมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบและความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและการพนันออนไลน์ อย่างไรด็ตาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่เลื่อนการชี้แจงในวันนี้ได้ตอบรับว่าจะมาชี้แจงต่อ กมธ. ในการประชุมวันที่5 มิ.ย.
.
วันนี้ถ้าพูดถึงเรื่องการพนันออนไลน์ สังคมไทย จะมีข้อมูลในข้อเสียมากที่สุด ส่วนข้อดีไม่มีใครพูดถึง แม้แต่นักวิชาการเวลาพูดถึงกฎหมายนี้ก็ยกตัวอย่างถึงข้อเสียทั้งหมด ส่วนข้อดี ดีจริงหรือไม่เรายังขาดข้อมูลตรงนี้ ดังนั้นการศึกษาของกรรมาธิการต้องเชิญฝั่งที่เห็นถึงข้อดีมาชี้แจง ซึ่งทุกอย่างต้องมี 2 ด้าน เพราะฉะนั้นอย่ากลัวว่ากรรมาธิการชุดนี้จะมีธงว่าไม่เอา เพราะเราไม่ใช่ผู้ตัดสิน จึงต้องเอาข้อมูลทุกด้านไปเผยแพร่ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน และเราจะเห็นว่าบ้านเมืองเราเต็มไปด้วยบ่อนการพนัน ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะปราบปรามเพราะมีตำรวจและมีกฎหมาย แต่เรื่องเค่นี้เรายังทำไม่ได้และเราจะมีบ่อนการพนันใหญ่โต ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่แห่งถ้าเกิดขึ้นได้เราจะป้องกันอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมอยากรู้แต่รัฐบาลไม่เคยพูด พูดอย่างเดียวว่าได้ทำความเข้าใจกับสังคมแล้ว” นายไชยยงค์ กล่าว
.
ด้านนาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ส.ว.ในฐานะรองประธานกมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่าในที่ประชุมมองกันว่าสิ่งที่จะได้จะคุ้มกับเสียหรือไม่ในการมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในเรื่องการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสิ่งที่รัฐบาลได้เสนอมาเกี่ยวกับกฎหมาย ถ้าเข้ามาสู่สภาจะมีอะไรได้หรือเสีย
.
ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบรายละเอียดทางกมธ. จะไปพิจารณารายละเอียดและทำเป็นเอกสารทางวิชาการวิเคราะห์เจาะลึก ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ฟันธงว่ามีหรือไม่มี ดีหรือไม่ดีอย่างไรเพราะต้องพิจารณาในทุกด้านเพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไปโดยมีการพูดถึงว่าจะต้องทำประชามติในแต่ละโซนหรือไม่ เช่นหากทำสถานบันเทิงครบวงจรในจังหวัดภูเก็ตจะต้องทำประชามติหรือไม่ เพราะการทำประชาพิจารณ์กับประชามติมีความแตกต่างกันจึงต้องพิจารณาเรื่องเหล่านี้ด้วย
.
วันนี้ มีข่าวใหญ่จับ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงที่ไปเล่นบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ใครต้องเป็นคนดูแลซึ่งก็คือรัฐบาล นายกรัฐมนตรีที่กำกับตำรวจทั้งหมดต้องมาแอคชั่นในเรื่องนี้จะปล่อยปละละเลยไม่ได้” นาวาตรี วุฒิพงศ์ กล่าว
.

.
หุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 22 จุด เผชิญแรงขายทำกำไร รับข่าวสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า
https://www.matichon.co.th/economy/news_5184553
.
หุ้นไทยดิ่งแรงกว่า 22 จุด เผชิญแรงขายทำกำไร รับข่าวสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า
.
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะดัชนี้หลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า วันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,216.71 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,194.49 จุด ปรับลดลง 22.22 จุด หรือลบ 1.83 % โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,212.48 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,191.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 45,794.74 ล้านบาท
.
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างร้อนแรงตามทิศทางตลาดภูมิภาค สาเหตุเนื่องจากมีแรงขายทำกำไรหลังตลาดตอบรับข่าวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนไปแล้ว นำโดยหุ้นเอโอทีที่เผชิญแรงขายรุนแรงจากผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ตามด้วยแรงขายกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงาน ไอซีที และธนาคาร เป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม โดยดัชนีพักฐานตามตลาดในภูมิภาคจากความกังวลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงของปัจจัยเฉพาะในประเทศไทยกลับมาอีกครั้ง
.

.
พิษภาษีทรัมป์-การเมืองไม่นิ่ง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นเม.ย. ต่ำสุดรอบ 7 เดือน จี้รัฐเร่งอัดงบกระตุ้นศก.
https://www.matichon.co.th/economy/news_5184078
.
พิษภาษีทรัมป์-การเมืองไม่นิ่ง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นเม.ย. ต่ำสุดรอบ 7 เดือน จี้รัฐเร่งอัดงบกระตุ้นศก.
.
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยประจำเดือนเมษายน 2568 ช่วงที่สำรวจข้อมูล 23 เมษายน 2568 จำนวนตัวอย่าง 369 ตัวอย่าง พบว่า ความเชื่อมั่นภาพรวมปรับลดลงอยู่ที่ระดับ 48.3 จากระดับ 48.9 เทียบกับช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ดัชนีปัจจุบันอยู่ที่ 45.2 ลดลงจาก 45.6 ส่วนดัชนีในอนาคตอยู่ที่ 51.4 ลดลงจาก 52.3 ถือเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน โดยจากเดิมประเมินเศรษฐกิจไทยจะมีอุปสรรคด้านการส่งออกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้เม็ดเงินต่อเศรษฐกิจหายไปประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งต้องมีผลบังคับใช้ทันที แต่ผลเริ่มต้นในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ความเสียหายจึงคาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยย่อตัวลง 0.9-1% โดยหอการค้าจะมีการปรับคาดการณ์การเติบโตจีดีพีไทยปี 2568 อีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณ 1.8-2.2% มีค่ากลางที่ 2%
.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคมีบรรยากาศชัดมากว่า นักธุรกิจกังวลถึงสงครามการค้า โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเขตอุตสาหกรรม อาทิ กรุงเทพ ปริมณฑล ภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งมีจีดีพีรวมกัน 60% ของทั้งประเทศ โดยจุดเปราะบางคือ ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการหอการค้าไทยทั้งหมด อยู่ในแดนต่ำกว่า 50 ทุกภาค ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนถึงกำลังซื้อผู้บริโภคที่ถอยลง แม้อุตสาหกรรมบางจังหวัดจะพอไปได้ รวมถึงการท่องเที่ยวในบางภูมิภาค อาทิ ภาคใต้ที่ยังอยู่ในโซนดูดี ภาคการท่องเที่ยวจึงน่าจะพอรับได้ แม้จีนจะหายไป
.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยว แม้เป็นเทศกาลสงกรานต์ แต่หลายจังหวัดมองว่าไม่ได้มีความคึกคักอย่างที่คาดหวังไว้ มีแค่เมืองหลักเท่านั้นที่มีความคึกคักบ้าง ส่วนภาคการเกษตรแม้มีบางรายการที่ราคาปรับดีขึ้น แต่สถานการณ์ในปัจจุบันพืชเกษตรยังแย่อยู่ ด้านภาคอุตสาหกรรมยังได้อานิสงส์ในการส่งออกช่วงเดือนเมษายนอยู่ โดยคาดการณ์ช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่ยังชะลอตัวลง เพราะมีมุมมองว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือแย่ลงไม่แตกต่างกัน รวมถึงการลงทุนยังคงแย่อยู่ ปี 2568 ผู้ประกอบการมองว่าการลงทุนของภาคเอกชนอาจชะลอตัวลงต่อเนื่อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่