ข่าวเจ้าอาวาสวัดดังอมเงินวัด 300 ล้านไปเล่นพนันออนไลน์ ทำให้เราต้องย้อนกลับมาถามรัฐว่า:
ยังควรเชื่อหรือไม่ว่า ‘ศาสนา’ เป็นแหล่งสร้างคุณธรรมที่ไม่ต้องตรวจสอบ?
หลายสิบปีที่ผ่านมา รัฐไทยทุ่มงบประมาณมหาศาลในการอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ เช่น การจ่ายเงินเดือน (นิตยภัต) ให้พระสงฆ์ทั่วประเทศ การบูรณะวัด และงบส่งเสริมพระธรรมทูต ฯลฯ
เหตุผลหลักของรัฐคือ ศาสนาสร้างคนดี และศาสนาพุทธคือรากทางจริยธรรมของสังคมไทย
แต่กรณีล่าสุดตอกย้ำว่า...
“คนในผ้าเหลืองก็เป็นมนุษย์ และอาจผิดศีลธรรมได้เหมือนใครๆ”
หากศาสนาได้รับงบรัฐ — ก็ไม่ควรยกเว้นจากการตรวจสอบ
และถ้ารัฐยังใช้เงินภาษีประชาชนเพื่ออุปถัมภ์ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง — ก็ต้องตอบให้ได้ว่า ศาสนาเหล่านั้นรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร
ไม่ใช่ศรัทธาที่ผิด แต่อำนาจที่ไม่มีการตรวจสอบต่างหากที่อันตราย
ขอความเห็นหน่อยครับ
รัฐควรเป็นกลางทางศาสนา หรือควรอุปถัมภ์ต่อไป?
“เมื่อเจ้าอาวาสสามารถนำเงินวัด 300 ล้านไปเล่นพนัน แล้วรัฐยังมองว่าศาสนาสร้างคุณธรรมโดยไม่ต้องตรวจสอบได้หรือไม่?”
ยังควรเชื่อหรือไม่ว่า ‘ศาสนา’ เป็นแหล่งสร้างคุณธรรมที่ไม่ต้องตรวจสอบ?
หลายสิบปีที่ผ่านมา รัฐไทยทุ่มงบประมาณมหาศาลในการอุปถัมภ์ศาสนาพุทธ เช่น การจ่ายเงินเดือน (นิตยภัต) ให้พระสงฆ์ทั่วประเทศ การบูรณะวัด และงบส่งเสริมพระธรรมทูต ฯลฯ
เหตุผลหลักของรัฐคือ ศาสนาสร้างคนดี และศาสนาพุทธคือรากทางจริยธรรมของสังคมไทย
แต่กรณีล่าสุดตอกย้ำว่า...
“คนในผ้าเหลืองก็เป็นมนุษย์ และอาจผิดศีลธรรมได้เหมือนใครๆ”
หากศาสนาได้รับงบรัฐ — ก็ไม่ควรยกเว้นจากการตรวจสอบ
และถ้ารัฐยังใช้เงินภาษีประชาชนเพื่ออุปถัมภ์ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง — ก็ต้องตอบให้ได้ว่า ศาสนาเหล่านั้นรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร
ไม่ใช่ศรัทธาที่ผิด แต่อำนาจที่ไม่มีการตรวจสอบต่างหากที่อันตราย
ขอความเห็นหน่อยครับ
รัฐควรเป็นกลางทางศาสนา หรือควรอุปถัมภ์ต่อไป?