สงสัยว่า ถ้าวันนึงเราไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ที่เลี้ยงเราได้เลวร้าย เอาความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก ไม่สนใจชีวิตลูก ทำชีวิตและจิตใจเราพัง เราจะเป็นลูกที่แย่โดยสมควรรึเปล่า
จขกท ใจนึงก็อยากเลี้ยงเขาตอนเราได้ดีนะคะ เคยคิดว่าจะทำยังไงให้พวกท่านสบาย
แต่พ่อนึกถึงอดีตมันปวดใจมากจริงๆค่ะ ตอนเด็กมากๆ แม่เราส่งเราไปอยู่กับลุงกับป้า(ไปทิ้งไว้) จนพ่อเราต้องมาแอบเอาเราไปเลี้ยงเอง จนเราขึ้นมาป.1 แม่ถึงพึ่งอยากมาตามเอาเราคืนค่ะ ตอนแรกที่อยู่กับพ่อบ้านหลังใหญ่มากๆมีแอร์เย็นสบาย แต่พอมาอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ต้องอยู่ห้องเช่ารูหนูเก่าๆ พ่อเลี้ยงเราจะชอบเมาและอาละวาดทุบตีทำ
ลายข้าวของ เป็นแบบนี้ตลอด3ปี และไม่ใช่ว่าแม่เราหนีจากพ่อเลี้ยงไม่ได้ เพราะโตขึ้นพี่สาวถึงมาเล่าว่าพ่อเลี้ยงเราติดยาตั้งแต่ยังจีบกัน และแม่เราก็รู้ จนประมาณป.3เราต้องย้ายกลางเทอมไปอยู่บ้านนอกกับลุงป้าเช่นเคย แม่เราแทบไม่ส่งเงินมาเลย จนป.5ลุงพยายามกระทำชำเราเรา ดีที่ไม่สำเร็จ คำแรกหลังจากที่แม่ได้ยินเราเล่าในสาย คือถามว่า "เราโกหกรึเปล่า" และปล่อยให้เราอยู่กับบ้านหลังนี้อีก1ปี และมารับกลับไปอยู่ด้วยตอนเราจะขึ้นป.6 และแม่เราก็ไม่เคยหย่ากับพ่อเลี้ยง ยังอยู่ด้วยกันเสมอ พ่อเลี้ยงเราจะชอบไปติดค่าเหล้าเป็นลัง เดือนละหลายพัน แทบไม่ทำงานการเลยด้วย
ตอนอยู่ม.1 เราทนทุนสิ่งอย่างไม่ไหว เลยตะโกนด่าพ่อตอนเขาเมา และเราได้โดนตบหน้ากลับมาอย่างสุดแรง หลังจากนั้นเราก็มีอาการแพนิคเวลาที่เห็นหน้าพ่อเลี้ยงมาตลอด แม่เราเห็นว่าเราคงอยู่กับเขาไม่ได้ เลยไปหาบ้านให้เราอยู่ หมายถึงบ้านให้เราอยู่คนเดียวเลยค่ะ ส่วนแม่ก็อยู่กับพ่อเลี้ยงต่อไป เขาจะวนเวียนสองบ้านเอาข้าวน้ำมาให้เรา บ้านใหม่ที่เราอยู่เป็นที่เฝ้าป่ายาง เขาเลยให้เราอยู่ฟรีคนเดียว แบบเด็กผู้หญิงคนเดียวอยู่กลางป่ายาง ประตูบ้านก็พัง ตอนนั้นคิดว่าอย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่กับชีวิตแบบเดิมแล้ว
ตอนแรกเราเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่งมากๆ จะสอบได้top 10 ของชั้นเรียนตลอด เขาจะบอกเราว่าถ้าสอบได้จะเอานั่นนี่ให้ หรือจะพา "ออกไปกินข้าวข้างนอก" ใช่ค่ะ เขาเลี้ยงดูเราแย่มากๆจนให้เราคิดว่าการกินข้าวข้างนอกคือสิ่งที่พิเศษ แต่พอเราทำได้ เราจะไม่ได้อะไรที่เคยขอไว้เลย ไม่เคยเลยสักอย่างค่ะ แต่พอขึ้นม.2มา การเรียนเราเรื่มแย่ลงนิดหน่อย จาก top10 เป็นtop100 เพราะเราเหนื่อยและท้อ ไม่เคยได้รับคำชมจากความพยายาม ผสมกับโรคซึมเศร้าที่เราเผชิญมาด้วย เขาก็มาว่าเราว่าเราเรียนแย่เพราะสมองหยุดพัฒนาแล้ว เจ็บจึ้กเลยค่ะ เขาบอกว่าเราเป็นลูกที่ล้มเหลว เราก็ได้แต่คิดว่าเลี้ยงเราแบบนี้เราไม่ไปเป็นสก๊อยถือว่ามีบุญมากแล้ว เขาทำให้เราคิดว่า การกินขนมหวานราคา5บาท10บาทถือเป็นในโอกาสพิเศษด้วยซ้ำค่ะ
เราเป็นเด็กป่วยบ่อยสาเหตุนึงเพราะบ้านเราฝุ่นเยอะมากๆและเลี้ยงหมาไม่ค่อยจะทำความสะอาดกันด้วย เวลาเราป่วยเขาจะไม่ซื้อยาอะไรให้เลย เพราะเขาบอกว่าถ้าซื้อยาให้ทุกครั้งที่ป่วยคงจนกันพอดี ได้แต่สงสัยว่าเคยพูดแบบนี้ตอนต้องจ่ายหนี้ค่าเหล้ามั้ยนะ
ขึ้นม.3 เราเคยส่งคลิปออดิชั่นให้ค่ายเพลงเกาหลี เขาตอบกลับมาว่าผ่าน และให้เราไปแคสสดที่กทมได้ เราบอกแม่เรา เขาก็บอกว่ามันเปลืองค่ารถ เราแทบอยากจะเป็นบ้าเลยค่ะตอนนั้น น้าเรา(ญาติฝั่งพ่อ) เขามาคุยกับเราว่าจะพาไปเป็นนางแบบ ไปทำงานในวงการกับเขา แม่เราก็ไม่ยอม เพราะไม่อยากให้เราห่างอกเขา ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เราแทบไม่ได้ถูกเขากอดหรือบอกรักด้วยซ้ำ เราไม่เคยได้ยินคำว่ารักออกจากปากคนคนนี้ ไม่มีคำชมใดๆเลย เราก็คิดได้แค่ว่า เขาคงไม่อยากให้เราไปยุ่งเกี่ยวกับฝั่งพ่อแค่นั้น เพราะเขาไม่ยอมให้ติดต่อกับพ่อเลย
หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงเราก็ฆตต เราคิดว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจทำ เพราะเวลาที่เขาเมาแล้วแม่ไม่ยอมทะเลาะหรือสนใจเขา เขาก็ขู่จะฆตตทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาคงเมาหนักเกินไปหน่อย แม่เราเป็นหนี้หนักกว่าแต่ก่อน เพราะงานศพใช้เงินเยอะมาก และแม่ไม่เคยมีเงินสำรองฉุกเฉินเพราะต้องจ่ายหนี้สินของพ่อเลี้ยงเรา เราก็ได้แต่คิดว่าถ้าคิดจะออกมาตั้งแต่แรก คงไม่เป็นแบบนี้ แม่เราให้เราหยุดเรียน (จะให้เราจบแค่ม.สาม) ตอนนั้นเราสอบเข้าโรงเรียนดังได้ เรียนไปแค่เทอมเดียวเอง เขาปลอบเราว่าคนแถวบ้านเขาจบป.6ด้วยซ้ำเราเรียนสูงแล้ว เราแทบจะอยากหนีไปdead เพราะเราพยายามประคองสภาพจิตใจตัวเองมาตลอดช่วงที่เรียนไม่ไหวเพราะอยากมีอนาคตดีๆชีวิตจะได้ดี เราเลยทำงานหาเงินสอบเทียบ(ged)แทน เราทำงานเก็บเงินเข้าเรียนมหาลัย จนเราเข้ามหาลัยดีๆได้แล้วตอนนี้ แต่เราเรียนไปด้วยทำงานมาจ่ายค่าเรียนไปด้วยมันเลยเหนื่อยมาก เมื่อวานเขาทักมาขอเงินเรา เขาบอกว่า
"ไม่ได้ส่งเงินเลี้ยงแม่นานแล้วนะ จะทิ้งแม่หรอ"
เราแค่ไม่มีเงินไปเลี้ยงใครเพราะแค่ตัวเราจะไม่รอดแล้ว สิ่งที้ได้คำตอบกลับมา เขาบอกว่า
"ก็ไปหาคนเลี้ยงสิ หาแฟนรวยๆจะได้สบาย"
เราใจสลายเลย บ้านอื่นเขาห่วงลูก ไปอยากให้ลูกไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นไม่ใช่หรอ
เราเลยนั่งคิดว่า ถ้าวันนึงเราได้ดี เราควรเลี้ยงดูเขามั้ย หลังจากที่เขาพังชีวิตเรานับครั้งไม่ถ้วน เราว่าการที่เราประคองตัวเองมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว
กลัวว่าจะเป็นลูกอกตัญญู เพราะไม่เลี้ยงพ่อแม่ที่เลี้ยงเราไม่ดี
จขกท ใจนึงก็อยากเลี้ยงเขาตอนเราได้ดีนะคะ เคยคิดว่าจะทำยังไงให้พวกท่านสบาย
แต่พ่อนึกถึงอดีตมันปวดใจมากจริงๆค่ะ ตอนเด็กมากๆ แม่เราส่งเราไปอยู่กับลุงกับป้า(ไปทิ้งไว้) จนพ่อเราต้องมาแอบเอาเราไปเลี้ยงเอง จนเราขึ้นมาป.1 แม่ถึงพึ่งอยากมาตามเอาเราคืนค่ะ ตอนแรกที่อยู่กับพ่อบ้านหลังใหญ่มากๆมีแอร์เย็นสบาย แต่พอมาอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ต้องอยู่ห้องเช่ารูหนูเก่าๆ พ่อเลี้ยงเราจะชอบเมาและอาละวาดทุบตีทำ
ลายข้าวของ เป็นแบบนี้ตลอด3ปี และไม่ใช่ว่าแม่เราหนีจากพ่อเลี้ยงไม่ได้ เพราะโตขึ้นพี่สาวถึงมาเล่าว่าพ่อเลี้ยงเราติดยาตั้งแต่ยังจีบกัน และแม่เราก็รู้ จนประมาณป.3เราต้องย้ายกลางเทอมไปอยู่บ้านนอกกับลุงป้าเช่นเคย แม่เราแทบไม่ส่งเงินมาเลย จนป.5ลุงพยายามกระทำชำเราเรา ดีที่ไม่สำเร็จ คำแรกหลังจากที่แม่ได้ยินเราเล่าในสาย คือถามว่า "เราโกหกรึเปล่า" และปล่อยให้เราอยู่กับบ้านหลังนี้อีก1ปี และมารับกลับไปอยู่ด้วยตอนเราจะขึ้นป.6 และแม่เราก็ไม่เคยหย่ากับพ่อเลี้ยง ยังอยู่ด้วยกันเสมอ พ่อเลี้ยงเราจะชอบไปติดค่าเหล้าเป็นลัง เดือนละหลายพัน แทบไม่ทำงานการเลยด้วย
ตอนอยู่ม.1 เราทนทุนสิ่งอย่างไม่ไหว เลยตะโกนด่าพ่อตอนเขาเมา และเราได้โดนตบหน้ากลับมาอย่างสุดแรง หลังจากนั้นเราก็มีอาการแพนิคเวลาที่เห็นหน้าพ่อเลี้ยงมาตลอด แม่เราเห็นว่าเราคงอยู่กับเขาไม่ได้ เลยไปหาบ้านให้เราอยู่ หมายถึงบ้านให้เราอยู่คนเดียวเลยค่ะ ส่วนแม่ก็อยู่กับพ่อเลี้ยงต่อไป เขาจะวนเวียนสองบ้านเอาข้าวน้ำมาให้เรา บ้านใหม่ที่เราอยู่เป็นที่เฝ้าป่ายาง เขาเลยให้เราอยู่ฟรีคนเดียว แบบเด็กผู้หญิงคนเดียวอยู่กลางป่ายาง ประตูบ้านก็พัง ตอนนั้นคิดว่าอย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่กับชีวิตแบบเดิมแล้ว
ตอนแรกเราเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่งมากๆ จะสอบได้top 10 ของชั้นเรียนตลอด เขาจะบอกเราว่าถ้าสอบได้จะเอานั่นนี่ให้ หรือจะพา "ออกไปกินข้าวข้างนอก" ใช่ค่ะ เขาเลี้ยงดูเราแย่มากๆจนให้เราคิดว่าการกินข้าวข้างนอกคือสิ่งที่พิเศษ แต่พอเราทำได้ เราจะไม่ได้อะไรที่เคยขอไว้เลย ไม่เคยเลยสักอย่างค่ะ แต่พอขึ้นม.2มา การเรียนเราเรื่มแย่ลงนิดหน่อย จาก top10 เป็นtop100 เพราะเราเหนื่อยและท้อ ไม่เคยได้รับคำชมจากความพยายาม ผสมกับโรคซึมเศร้าที่เราเผชิญมาด้วย เขาก็มาว่าเราว่าเราเรียนแย่เพราะสมองหยุดพัฒนาแล้ว เจ็บจึ้กเลยค่ะ เขาบอกว่าเราเป็นลูกที่ล้มเหลว เราก็ได้แต่คิดว่าเลี้ยงเราแบบนี้เราไม่ไปเป็นสก๊อยถือว่ามีบุญมากแล้ว เขาทำให้เราคิดว่า การกินขนมหวานราคา5บาท10บาทถือเป็นในโอกาสพิเศษด้วยซ้ำค่ะ
เราเป็นเด็กป่วยบ่อยสาเหตุนึงเพราะบ้านเราฝุ่นเยอะมากๆและเลี้ยงหมาไม่ค่อยจะทำความสะอาดกันด้วย เวลาเราป่วยเขาจะไม่ซื้อยาอะไรให้เลย เพราะเขาบอกว่าถ้าซื้อยาให้ทุกครั้งที่ป่วยคงจนกันพอดี ได้แต่สงสัยว่าเคยพูดแบบนี้ตอนต้องจ่ายหนี้ค่าเหล้ามั้ยนะ
ขึ้นม.3 เราเคยส่งคลิปออดิชั่นให้ค่ายเพลงเกาหลี เขาตอบกลับมาว่าผ่าน และให้เราไปแคสสดที่กทมได้ เราบอกแม่เรา เขาก็บอกว่ามันเปลืองค่ารถ เราแทบอยากจะเป็นบ้าเลยค่ะตอนนั้น น้าเรา(ญาติฝั่งพ่อ) เขามาคุยกับเราว่าจะพาไปเป็นนางแบบ ไปทำงานในวงการกับเขา แม่เราก็ไม่ยอม เพราะไม่อยากให้เราห่างอกเขา ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เราแทบไม่ได้ถูกเขากอดหรือบอกรักด้วยซ้ำ เราไม่เคยได้ยินคำว่ารักออกจากปากคนคนนี้ ไม่มีคำชมใดๆเลย เราก็คิดได้แค่ว่า เขาคงไม่อยากให้เราไปยุ่งเกี่ยวกับฝั่งพ่อแค่นั้น เพราะเขาไม่ยอมให้ติดต่อกับพ่อเลย
หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงเราก็ฆตต เราคิดว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจทำ เพราะเวลาที่เขาเมาแล้วแม่ไม่ยอมทะเลาะหรือสนใจเขา เขาก็ขู่จะฆตตทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาคงเมาหนักเกินไปหน่อย แม่เราเป็นหนี้หนักกว่าแต่ก่อน เพราะงานศพใช้เงินเยอะมาก และแม่ไม่เคยมีเงินสำรองฉุกเฉินเพราะต้องจ่ายหนี้สินของพ่อเลี้ยงเรา เราก็ได้แต่คิดว่าถ้าคิดจะออกมาตั้งแต่แรก คงไม่เป็นแบบนี้ แม่เราให้เราหยุดเรียน (จะให้เราจบแค่ม.สาม) ตอนนั้นเราสอบเข้าโรงเรียนดังได้ เรียนไปแค่เทอมเดียวเอง เขาปลอบเราว่าคนแถวบ้านเขาจบป.6ด้วยซ้ำเราเรียนสูงแล้ว เราแทบจะอยากหนีไปdead เพราะเราพยายามประคองสภาพจิตใจตัวเองมาตลอดช่วงที่เรียนไม่ไหวเพราะอยากมีอนาคตดีๆชีวิตจะได้ดี เราเลยทำงานหาเงินสอบเทียบ(ged)แทน เราทำงานเก็บเงินเข้าเรียนมหาลัย จนเราเข้ามหาลัยดีๆได้แล้วตอนนี้ แต่เราเรียนไปด้วยทำงานมาจ่ายค่าเรียนไปด้วยมันเลยเหนื่อยมาก เมื่อวานเขาทักมาขอเงินเรา เขาบอกว่า
"ไม่ได้ส่งเงินเลี้ยงแม่นานแล้วนะ จะทิ้งแม่หรอ"
เราแค่ไม่มีเงินไปเลี้ยงใครเพราะแค่ตัวเราจะไม่รอดแล้ว สิ่งที้ได้คำตอบกลับมา เขาบอกว่า
"ก็ไปหาคนเลี้ยงสิ หาแฟนรวยๆจะได้สบาย"
เราใจสลายเลย บ้านอื่นเขาห่วงลูก ไปอยากให้ลูกไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นไม่ใช่หรอ
เราเลยนั่งคิดว่า ถ้าวันนึงเราได้ดี เราควรเลี้ยงดูเขามั้ย หลังจากที่เขาพังชีวิตเรานับครั้งไม่ถ้วน เราว่าการที่เราประคองตัวเองมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว