แอพติดตามตัว (Tracking Apps) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วยในการติดตามสมาชิกครอบครัว เพื่อน หรืออุปกรณ์ที่สูญหาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว แอพเหล่านี้อาจสร้างความเสี่ยงร้ายแรงต่อผู้ใช้มากกว่าที่คิด ซึ่งโดยรวมแล้ว ไม่แนะนำให้ดาวน์โหลดหรือใช้งานแอพเหล่านี้ เนื่องจากข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้:

🚨 1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

แอพติดตามตัวส่วนใหญ่ต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึงตำแหน่ง GPS, กล้อง, ไมโครโฟน และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ หากแอพถูกแฮกหรือแฝงด้วยมัลแวร์ ข้อมูลเหล่านี้จะตกอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีทันที

การสอดแนม (Spying): แอพที่ถูกดัดแปลงหรือมีช่องโหว่อาจใช้ในการดักฟังหรือบันทึกการสนทนาโดยไม่รู้ตัว

การขโมยข้อมูล (Data Theft): ข้อมูลตำแหน่งเรียลไทม์สามารถถูกนำไปใช้ในการติดตามตัวหรือวางแผนโจมตีเหยื่อ

การขายข้อมูล: ผู้พัฒนาแอพที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเก็บรวบรวมและขายข้อมูลผู้ใช้ให้กับบุคคลภายนอก

🕵️ 2. การใช้ในทางที่ผิด: การคุกคามและล่วงละเมิด

แอพติดตามตัวสามารถถูกนำไปใช้ในการสะกดรอยและคุกคามผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากถูกติดตั้งโดยไม่ได้รับความยินยอม

การควบคุมและติดตาม: คู่รักหรือสมาชิกครอบครัวที่ต้องการควบคุมอีกฝ่ายอาจใช้แอพเหล่านี้ในการติดตามอย่างลับ ๆ

การสะกดรอย (Stalking): มิจฉาชีพหรือสตอล์กเกอร์อาจติดตั้งแอพในอุปกรณ์ของเหยื่อเพื่อสะกดรอยและล่วงละเมิด

การแบล็กเมล์: ข้อมูลที่ได้จากการติดตาม เช่น สถานที่และพฤติกรรม สามารถถูกนำไปใช้ในการข่มขู่หรือแบล็กเมล์

🛑 3. การละเมิดสิทธิ์และความเป็นส่วนตัว

แอพติดตามตัวบางแอพจะรวบรวมข้อมูลเกินความจำเป็น เช่น ประวัติการโทร, ข้อความ, หรือกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

การเก็บข้อมูลส่วนเกิน: ผู้พัฒนาอาจอ้างว่าเก็บข้อมูลเพื่อ “พัฒนาการให้บริการ” แต่ในความเป็นจริง ข้อมูลเหล่านี้อาจถูกขายให้กับบริษัทโฆษณาหรือบุคคลที่สาม

การแชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม: ข้อมูลที่ถูกแชร์ออกไปอาจนำไปสู่การโฆษณาที่เจาะจง หรือการถูกหลอกลวงทางออนไลน์

💣 4. ความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์: การถูกแฮกและมัลแวร์

แอพติดตามตัวจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัย อาจเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์ในเครื่องของผู้ใช้

แอพปลอม: มิจฉาชีพอาจสร้างแอพปลอมที่แอบแฝงมัลแวร์เพื่อเข้าถึงข้อมูลในเครื่อง

การควบคุมอุปกรณ์: แอพบางตัวอาจแฝงโค้ดที่สามารถควบคุมเครื่องระยะไกลได้ เช่น เปิดกล้องหรือบันทึกเสียงโดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว

🪫 5. ผลกระทบต่อแบตเตอรี่และประสิทธิภาพเครื่อง

แอพติดตามตัวต้องใช้ GPS และการประมวลผลในพื้นหลังอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วและเครื่องทำงานช้าลง

แบตเตอรี่หมดเร็ว: GPS และการส่งข้อมูลอย่างต่อเนื่องจะทำให้แบตเตอรี่หมดไวกว่าปกติ

เครื่องค้างและช้า: การประมวลผลในพื้นหลังอย่างหนักหน่วงจะทำให้เครื่องร้อนและประสิทธิภาพการทำงานลดลง

🧩 6. ความขัดแย้งทางกฎหมาย: การละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัว

ในหลายประเทศ การติดตามบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมถือว่าผิดกฎหมาย การติดตั้งแอพติดตามตัวในอุปกรณ์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจึงอาจทำให้ผู้ติดตั้งต้องรับโทษทางกฎหมาย

การละเมิดกฎหมายการสอดแนม: หากผู้ใช้งานติดตามผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอม อาจถูกฟ้องร้องหรือดำเนินคดี

การละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA, GDPR): ข้อมูลส่วนตัวที่ถูกเก็บโดยแอพติดตามตัวอาจละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูล

❌ บทสรุป: ไม่แนะนำให้ดาวน์โหลดหรือใช้งานแอพติดตามตัว

แอพติดตามตัวอาจดูมีประโยชน์ในด้านการติดตามอุปกรณ์หรือคนที่เรารัก แต่ในทางปฏิบัติ แอพเหล่านี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว การโจรกรรมข้อมูล การล่วงละเมิดสิทธิ์ หรือแม้กระทั่งการถูกแฮกและควบคุมเครื่อง

ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอพติดตามตัวทุกประเภทถือเป็นการตัดสินใจที่ปลอดภัยและรอบคอบที่สุด หากต้องการติดตามอุปกรณ์หรือบุคคล ควรเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยและได้รับการยินยอมอย่างชัดเจน เช่น การแชร์ตำแหน่งผ่านฟีเจอร์ในสมาร์ทโฟนที่มาจากผู้ผลิตอุปกรณ์โดยตรง