เท้ง ชี้ ศก.ไทย เหมือนผู้ป่วยโควิดเรื้อรัง ยังไม่ฟื้นตัว ซัดหาก รบ.ยังทำนโยบายเดิม แม้แจกหมื่นก็ไม่ช่วย https://www.matichon.co.th/politics/news_5181726
.
.
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ชี้ ศก.ไทย เหมือนผู้ป่วยโควิดเรื้อรัง ยังไม่ฟื้นตัว ซัดหาก รบ.ยังทำนโยบายเดิม แม้แจกหมื่นก็ไม่ช่วย แถมเป็นดาวดับอีก แนะอุดรอยรั่วทุจริตคอร์รัปชัน ให้ประเทศเดินหน้าได้
.
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่จ.ขอนแก่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวปาฐกถาในเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ครั้งที่ 4 หัวข้อ ‘เศรษฐกิจอีสานในสงครามการค้าโลก’
.
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคอีสาน และแนวทางรับมือต่อความท้าทายของสงครามการค้าโลก จากหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ นักวิชาการ และประชาชน เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปผลักดันสู่การแก้ไข ตามกระบวนการนิติบัญญัติ
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจภาคอีสานเหมือนคนติดโควิดเรื้อรัง ไม่ฟื้นตัว และยังมาเจอสงครามการค้าอีก หากเราดูเส้นกราฟ ในขณะนี้ เรากลับมาฟื้นตัวใกล้กับช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้ว แต่หากเทียบกับประเทศอื่นทุกคนขยายตัวมากกว่าเรา เราเติบโตช้ากว่าเขา และยังเติบโตช้ากว่าการเติบโตของตัวเองด้วยซ้ำ
.
ปัจจัยที่จะส่งผล หรือคือเรื่องเงินในกระเป๋า ทั้งการบริโภคและการส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว แต่ในภาคอีสานยังมีความหวังอยู่ในบางสาขาด้านเศรษฐกิจ สำหรับผลผลิตด้านการเกษตร แม้ว่าในการผลิตมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ราคาของพืชหลักยังคงมีความผันผวนมาก ทำให้คาดว่า อาจส่งผลต่อดัชนีรายได้เกษตรกรลดลง
.
ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ในภาคอีสานก็ยังไม่มีการฟื้นตัวจากกำลังซื้อในประเทศที่จำกัด รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนในการค้าโลก และหลังปี 68 มีจุดตัดของ เส้นการผลิต และเส้นการบริโภค ยิ่งขยายห่างออกจากการเรื่อยๆ กล่าวคือ แม้เราจะมีเงินในกระเป๋า ถ้ารัฐบาลแจกดิจิทัลวอลเล็ตเงินหมื่น ตัวเลขบริโภคสูงขึ้น แต่ตัวเลขจีดีพีทางด้านการผลิตต่ำลง เพราาะการซื้อสินค้าราคาถูกที่รับมาจากต่างประเทศ
.
“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไป วิธีการที่เราดำเนินนโยบายแบบเดิม การแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ในแง่หนึ่งการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่า วิธีการอย่างนี้ ไม่สามารถสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้อีกต่อไป เพราะบริบทโลกเปลี่ยนไปแล้ว” นายณัฐพงษ์กล่าว
.
นายณัฐพงษ์ ยังย้ำถึงข้อเสนอ 5 เสา ในการต่อรองเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา เจรจา-กระชับ-รับมือ-เยียวยา-ลงทุน ที่สื่อสารมาตลอด
และได้แบ่งพื้นที่ภาคอีสานเป็น 4 พื้นที่ ซึ่งสัดส่วนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเกษตร มีความเข้มข้นมาก มีทั้งส่วนที่เป็นดาวรุ่ง คือความเข้มข้นน้อย ขนาดเศรษฐกิจเหล่านี้ ยังไม่ได้เป็นสัดส่วนใหญ่ แต่กำลังมีการเติบโต เพื่อใหญ่ และเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ มีพื้นที่ที่เป็นดาวเหนือ มีความเข้มข้น และการเติบโตสูง
.
ส่วนพื้นที่ดาวค้างฟ้า ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ แต่ไม่มีการเติบโตแล้ว เนื่องจากอิ่มตัว ขยายต่อไปไม่ได้ หากมองในภาพรวม จะเห็นว่า เศรษฐกิจในภาคอีสานที่เราเคยพึ่งพา ในอนาคต จะหมุนกลายมาเป็นดาวดับ สุดท้ายจะกลายเป็นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมที่โลกลืม รวมถึงภาคการเกษตร ถ้าเราไม่ได้เพิ่มภาคการผลิต ก็แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ดังนั้น เราต้องอ่านข้อมูลให้ออกว่า ในปัจจุบัน อะไรคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องส่งเสริม
.
โดยภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ ภาคอีสานขาดเครื่องจักรทางเศรษฐกิจ ขาดสาขาเศรษฐกิจที่เข้มข้นและโตไว แต่มีดาวรุ่งโตไวที่ยังไม่เข้มข้นหลายสาขา
ขณะที่ ด้านธุรกิจสร้างสรรค์ ใน 8 จังหวัดอีสาน รวมแล้ว มีธุรกิจสร้างสรรค์กว่า 4 แสนแห่ง อาทิ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อุดรธานี ศรีสะเกษ สกลนคร และเลย อีกทั้งสาขาศิลปะ และบันเทิง ซึ่งทุกจังหวัดในภาคอีสาน เติบโตเร็วกว่า ค่าเฉลี่ยของประเทศ
.
ขณะที่ตัวเลขล่าสุดในปี 2568 การท่องเที่ยว โดยเฉพาะ ‘ท่องเที่ยวสายมู’ เพิ่มขึ้น เริ่มมีโอกาสและศักยภาพมากขึ้น ในเรื่องโรงแรม และร้านอาหาร แต่ด้านที่ควรส่งเสริม คืออีสานยังตามหลังในสาขาสารสนเทศ และการสื่อสารมาก
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญ คือปัญหาเศรษฐกิจ ในฐานะฝ่ายค้านให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการอุดรอยรั่ว หากเปรียบประเทศเป็นเรือที่มีกัปตัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้แล้ว คือทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเราเดินหน้าต่อต้านอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะอยู่ในภาคการเมือง ภาครัฐ ระบบราชการ หรือภาคเอกชน
.
จากนั้น เข้าสู่เวทีเสวนา ‘เศรษฐกิจอีสานในสงครามการค้าโลก’ โดยวิทยากรจากพรรคประชาชน ได้แก่ นายวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น, นายอิทธิพล ชลธราศิริ สส.ขอนแก่น, นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น และน.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ
.
.
ประธาน กมธ.การเกษตรฯ ชี้ ต้องรอผลเจรจาภาษีทรัมป์ แม้ รมว.คลังสหรัฐฯ ชมข้อเสนอไทย
.
วันนี้ (14 พฤษภาคม) ณรงเดช อุฬารกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการฯ วาระพิจารณาความคืบหน้าแนวทาง หรือผลเจรจาเกี่ยวกับกำแพงภาษีสินค้าเกษตรของสหรัฐอเมริกา พร้อมมาตรการรองรับการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรของไทยกับสหรัฐอเมริกา
.
ณรงเดชระบุว่า ในวันนี้คณะกรรมาธิการฯ มีความกังวลหลังจากได้ติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคเกษตรกร ดังนั้น จึงได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาชี้แจง ถึงมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมไปเจรจากับสหรัฐอเมริกา และมาตรการเตรียมการรับมือต่อเกษตรกรของกระทรวงเกษตรฯ
.
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในการเสวนาที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระบุถึงข้อเสนอของประเทศไทยดีมาก จะช่วยให้การเจรจาเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่นั้น ณรงเดชระบุว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าข้อตกลงสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร เนื่องจากต้องรอการเจรจา เพราะเป็นเพียงข้อเสนอของฝั่งไทย แต่ก็ยังมีสิ่งที่กรรมการกังวลคือ ความต้องการของสหรัฐอเมริกาที่ต้องการเพิ่มปริมาณการส่งสินค้าเกษตรเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งยังไม่ทราบว่าฝ่ายไทยจะมีการตอบรับอย่างไร
.
ณรงเดชกล่าวถึงข้อเสนอของกรรมาธิการฯ ต่อการเจรจาของรัฐบาลว่า รัฐบาลควรจำเป็นจะต้องรับมือต่อผลกระทบต่อสินค้าเกษตร ทั้งที่ไทยจะส่งออก และสหรัฐจะส่งมา รวมถึงสินค้าอื่น ๆ ที่หลังจากนี้อาจจะไม่สามารถส่งไปยังสหรัฐอเมริกาได้ และอาจต้องส่งมายังประเทศไทย รวมถึงผลกระทบต่อเกษตรกร ทั้งจากผลการเจรจาต่าง ๆ เพราะปัจจุบันยังไม่มีการพูดถึง จึงกังวลว่า จะกลายเป็นกองทุนลักษณะที่คล้ายกับ FTA ให้เกษตรกรมารับเงินช่วยเหลือโดยไม่มีความชัดเจนว่า จะมีรายละเอียดอย่างไร จนกลายเป็นเงินช่วยเหลือแบบเบี้ยหัวแตก
.
รวมถึงความล่าช้าในการเจรจา ที่ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แม้สหรัฐอเมริกา ได้ขยายการบังคับใช้มาตรการทางภาษีออกไป 90 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขเวลา ที่จำเป็นจะต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาให้ความเห็นชอบก่อน โดยอาจต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา จึงไม่แน่ใจว่า กว่าขั้นตอนการเจรจาจะเสร็จสิ้น จะสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้เมื่อไหร่ อาจจะไม่ทันกรอบ 90 วัน และทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาษีในช่วงระยะเวลาหนึ่ง รวมถึงความไม่ชัดเจนของรัฐบาล ที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอน
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับคณะกรรมาธิการการเกษตรฯ ในวันนี้ (14 พฤษภาคม) กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ แต่กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้ส่งตัวแทนมา
.
.
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 3.18 จุด วอลุ่ม 2.3 หมื่นล้าน ย่อตัวไร้ปัจจัยหนุน สงครามการค้ายังไม่ชัด-บจ.เปิดงบดีมีน้อย
.
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 3.18 จุด วอลุ่ม 2.3 หมื่นล้าน ย่อตัวไร้ปัจจัยหนุน สงครามการค้ายังไม่ชัด-บจ.เปิดงบดีมีน้อย
.
วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 SET ปิดเช้าที่ 1,211.21 จุด ลดลง 3.18 จุด (-0.26%) มูลค่าซื้อขาย 23,595 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้า แกว่งกรอบแคบตลอด โดยทำระดับสูงสุด 1,215.81 จุด และต่ำสุด 1,207.21 จุด
.
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ขาดปัจจัยใหม่ หลังจากเมื่อวานตอบรับข่าวดีระยะสั้นผลเจรจาสหรัฐ-จีนยอมลดภาษีลงเป็นเวลา 90 วัน แต่สงครามการค้ายังคงไม่ชัดเจนในระยะยาว อีกทั้งการรายงานผลประกอบการของ บจ.ส่วนใหญ่เป็นไปตามคาด มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำได้ที่ดีกว่าคาด ตลาดหุ้นไทยวันนี้ซบเซาตามภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่เข้าสู่ช่วง low season ของการท่องเที่ยวแล้ว โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอลงเป็นปัจจัยสำคัญด้วยเช่นกัน
.
แนวโน้มของภาคบ่ายวันนี้ แนะนำติดตามการรายงานผลประกอบการ บจ.ต่อไป ยังไร้ปัจจัยใหม่ในภาพรวมใหญ่ โดยให้แนวต้าน 1,220 จุด และแนวรับ 1,200 จุด
.
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
.
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,593.92 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,275.81 ล้านบาท ปิดที่ 299.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,161.84 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,002.42 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 860.55 ล้านบาท ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
.
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #สงครามการค้า #บริษัทจดทะเบียน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน #SET
JJNY : เท้งชี้ศก.ไทยป่วย│กมธ.การเกษตรฯ ชี้ต้องรอผลเจรจาภาษีทรัมป์│หุ้นไทยปิดเช้าลบ 3.18 จุด│สหรัฐลดภาษี พัสดุจีน
.
.