เทียนเทียน เป็นลูกสาววัย 7 ขวบ ของคุณแม่แซ่หลี่ในประเทศจีน เด็กหญิงมีนิสัยขี้อาย ไม่ค่อยพูด และไม่ชอบเข้าสังคม แต่กลับรักการวาดภาพตั้งแต่เล็ก เมื่อเห็นว่าลูกสนใจ คุณแม่จึงส่งเธอไปเรียนศิลปะ
ไม่นานฝีมือของเทียนเทียนก็พัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ผลงานของเธอถูกเลือกไปประกวดอยู่บ่อยครั้ง และคว้ารางวัลมาได้หลายครั้งครอบครัวรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณแม่สังเกตว่าลูกสาวมักวาดภาพงูหลากหลายชนิด และเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดรูปร่างประหลาด สีในภาพก็ดูหม่นหมองและมืดทึบ แม้จะรู้สึกแปลกใจ แต่คุณหลี่ก็คิดว่าเป็นเพียงแบบฝึกหัดสร้างสรรค์ในห้องเรียน จึงไม่ได้ใส่ใจนัก
แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงในบ่ายวันหนึ่ง
เพื่อนของคุณหลี่ซึ่งเป็นครูสอนจิตวิทยาแวะมาเยี่ยมบ้าน และบังเอิญเห็นภาพวาดที่เทียนเทียนเคยคว้ารางวัล พอคุณหลี่เล่าอย่างภูมิใจว่านี่คือ "ผลงานชิ้นเอก" ของลูกสาว เพื่อนคนนั้นกลับหน้าถอดสี แล้วรีบบอกอย่างตื่นตระหนกว่า
“มีความเป็นไปได้ว่าเทียนเทียนอาจเคยเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจที่โรงเรียน เธอควรพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็ก และแจ้งตำรวจทันที”
คุณหลี่ถึงกับนิ่งงัน สับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพาลูกไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
หลังจากทำการบำบัดอยู่พักหนึ่ง เทียนเทียนก็เริ่มเปิดใจและเล่าว่าเธอเคยถูกเพื่อนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน ด้วยความหวาดกลัว เธอไม่กล้าบอกใคร จึงระบายทุกอย่างผ่านภาพวาดแทนคำพูด
ตอนนั้นเองที่คุณหลี่ถึงได้เข้าใจว่า ลูกไม่ได้เงียบเฉย แต่เธอกำลังขอความช่วยเหลือ เพียงแค่ผู้ใหญ่ฟังไม่เป็นเท่านั้นเอง
เรื่องเล่าจากภาพ
ไม่นานฝีมือของเทียนเทียนก็พัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ผลงานของเธอถูกเลือกไปประกวดอยู่บ่อยครั้ง และคว้ารางวัลมาได้หลายครั้งครอบครัวรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณแม่สังเกตว่าลูกสาวมักวาดภาพงูหลากหลายชนิด และเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดรูปร่างประหลาด สีในภาพก็ดูหม่นหมองและมืดทึบ แม้จะรู้สึกแปลกใจ แต่คุณหลี่ก็คิดว่าเป็นเพียงแบบฝึกหัดสร้างสรรค์ในห้องเรียน จึงไม่ได้ใส่ใจนัก
แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงในบ่ายวันหนึ่ง
เพื่อนของคุณหลี่ซึ่งเป็นครูสอนจิตวิทยาแวะมาเยี่ยมบ้าน และบังเอิญเห็นภาพวาดที่เทียนเทียนเคยคว้ารางวัล พอคุณหลี่เล่าอย่างภูมิใจว่านี่คือ "ผลงานชิ้นเอก" ของลูกสาว เพื่อนคนนั้นกลับหน้าถอดสี แล้วรีบบอกอย่างตื่นตระหนกว่า
“มีความเป็นไปได้ว่าเทียนเทียนอาจเคยเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจที่โรงเรียน เธอควรพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็ก และแจ้งตำรวจทันที”
คุณหลี่ถึงกับนิ่งงัน สับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพาลูกไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
หลังจากทำการบำบัดอยู่พักหนึ่ง เทียนเทียนก็เริ่มเปิดใจและเล่าว่าเธอเคยถูกเพื่อนกลั่นแกล้งที่โรงเรียน ด้วยความหวาดกลัว เธอไม่กล้าบอกใคร จึงระบายทุกอย่างผ่านภาพวาดแทนคำพูด
ตอนนั้นเองที่คุณหลี่ถึงได้เข้าใจว่า ลูกไม่ได้เงียบเฉย แต่เธอกำลังขอความช่วยเหลือ เพียงแค่ผู้ใหญ่ฟังไม่เป็นเท่านั้นเอง