Low buy, Minimal
Low Buy: คือแนวทางการลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยยังคงอนุญาตให้ซื้อของที่จำเป็นอยู่ หลักๆ คือการตั้งกฎให้ตัวเองใช้จ่ายน้อยลง เช่น ลดการซื้อกาแฟแพง ๆ แล้วชงดื่มเอง, งดใช้แอปสั่งอาหาร แล้วหันมาทำกับข้าวเองที่บ้าน, หยุดซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นที่เปลี่ยนไปทุกซีซันและใช้ของเดิมให้คุ้มค่าก่อน
* บทความจากเว็บไซท์ mandetail
Minimalist: คือการมีความสุขกับการอยู่กับที่ตนชอบจริงๆ อยู่แบบจำกัด และอยู่กับความเรียบง่าย ซึ่งแน่นอนว่า ยิ่งเราใช้ชีวิตเรียบง่ายเท่าไหร ความสุขก็จะมาได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น
*บทความจากเว็บไซท์ ขอนแก่นน่าอยู่
ปลอกแขนและเข็มขัด สิ่งจำเป็นต้องมี
เมื่อต้องมีก็ต้องซื้อ ผมลืมเข็มขัดที่ใส่ประจำไว้ที่บ้านต่างจังหวัด ส่วนปลอกแขนกัน UV จำเป็นต้องมีเพื่อปั่นจักรยาน วันนี้ผมตั้งใจว่าจะไปซื้อสิ่งจำเป็นทั้งสองอย่างนี้ เพื่อให้เป็นไปตามภาระกิจ Low buy ประจำเดือนและหลัก Minimal ผมจะไปซื้อ 2 อย่างนี้เท่านั้น ซื้อเข็มขัดที่เซ็นทรัลเวสเกต ซื้อปลอกแขนที่ Decathlon ซื่งอยู่ตรงข้ามกันแล้วกลับบ้าน ที่จริงปลอกแขนตั้งใจจะซื้อที่ร้าน 20 บาททั่วไป แต่คุณภรรยาบังคับว่าต้องซื้อที่ Decathlon เท่านั้น!
ผมจะเดินทางไปด้วยจักรยานพับ ระยะทางจากบ้านไป เซ็นทรัลเวสต์เกต ประมาณ 10 ก.ม. ปั่นจักรยาน 5 ก.ม.ขึ้นรถไฟฟ้าอีก 2 ป้าย
การเดินทางแบบ Minimal
ผมใช้เวลา 18 นาทีเดินทางด้วยจักรยานพับไฟฟ้าจากบ้านถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ไกล้ที่สุด ต่อด้วยรถไฟฟ้าสีม่วงจากแยกบางพลูไปที่สถานีตลาดบางใหญ่รถไฟฟ้าใช้เวลา 10 นาที ใช้เวลาทั้งหมด 28 นาที กับระยะทาง 10 กม. จ่ายค่าตั๋วด้วยบัตรเครดิตเลยไม่รู้ว่าจ่ายไปเท่าไร แต่คงไม่เกิน 20 บาท เป็นการเดินทางที่สะดวกและประหยัด ไม่ต้องอารมณ์เสียกับการวนหาที่จอดรถและคิดว่าถึงที่หมายเร็วกว่ารถส่วนตัวด้วยซ้ำ.
ภาระกิจแรก
ไม่รู้ว่าคุณภรรยาผมเธอมีหุ้นอยู่ที่ Decathlon หรือเปล่า ทุกครั้งที่ต้องซื้ออุปกรณ์แคมปิ้งหรือชุดออกกำลังกายเธอจะกำชับว่าให้ซื้อจากที่นี่เท่านั้น ที่จริงผมก็เห็นด้วยนะ ของเค้าดีจริง ภาระกิจแรกที่จะต้องทำวันนี้คือการซื้อปลอกแขนกัน UV จากร้าน Decathlon หลังจากลงรถไฟฟ้าผมก็จูงรถจักรยานไปที่หน้า Decatchlon จอดรถไว้ที่หน้าร้านแล้วเดินเข้าไปข้างใน ปลอกแขนกัน UV อยู่ในสุด ต้องเดินผ่านสิ่งยั่วหลายอย่าง หมวกเดินป่าใบละ 350.- รองเท้าคู่ละ 650.- ของดีทั้งนั้น! ในใจต้องนึกถึงแต่คำว่า “low buy, minimal” กว่าจะถึงที่หมาย ทำใจลำบากจริงๆ แล้วผมก็ได้สิ่งที่ต้องการในราคา 99 บาท เดินกลับมาจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ปากทางเข้า เห็นปลอกแขนกัน UV แขวนอยู่หน้าเค้าเตอร์หลายสิบชิ้น มีป้ายติดไว้ว่า “ลดราคา”
อ้าว….แล้วผมจะเดินไปทำไมที่ท้ายซอย
ต้องผ่านสิ่งยั่วที่แขวนอยู่สองข้างทางมากมาย
ดีนะที่มีคาถาดีท่องไว้ตลอดทาง “low buy, minimal ”
ภาระกิจที่สอง
ซื้อเข็มขัด ผมต้องไปเซ็นทรัลพลาซ่า ซึ่งอยู่ทิศตะวันออกสุดของเซนทรัลเวสต์เกต ต้องจูงจักรยานขึ้นลิฟข้ามสะพานลอยมาอีกฝั่งของถนน เข้าประตูเซ็นทรัล ด้านตะวันตกเดินไปฟั่งห้างที่อยู่ตะวันออกสุด ระยะทางน่าจะไม่ต่ำกว่า 150 เมตร ระหว่างจูงรถอยู่บนสะพานลอย นึกในใจว่าจะเอารถไว้ไหนดี เค้าจะให้เอาเข้าห้างหรือเป่ลา? แล้วภาพในที่ฝรั่งใน youtube นำจักรยานพับยี่ห้อ “Bompton”ใส่รถเข็นเดินช๊อปปิ้งในห้างก็ผุดขึ้นมาในสมอง
เอ๊ะ..ทำไมฝรั่งมันทำแล้วดูเทห์จัง
เอ๊ะ..หรือเราจะลองทำแบบนั้นดู
แต่ของเค้าล้อ16 นิ้ว ของเรา 20 นิ้ว
แต่มันไม่ได้ใหญ่กว่ากันไปซักเท่าไรหรอก
มันจะไม่เป็นจุดเด่นเกินไปหรือ?
ไม่หรอก.. มันก็เหมือนเรามาซื้อคอมในห้างแล้วใส่รถเข็นลงไปที่ลานจอดรถนั่นแหละ
แล้วผมก็ตัดสินใจนำรถพับพร้อมเป้ใส่รถเข็น เดินเข้าประตูเซ็นทรัลเวสต์เกต จากประตูทิศตะวันตก ไปซื้อเข็มขัดที่โซนพลาซ่าทางทิศตะวันออกสุด
ถึงที่หมาย ถามพนักงาน “น้อง แผนกขายเข็มขัดอยู่ตรงไหน”
“มีหลายแบรนด์พี่ พี่หาดูได้เลย”
เดินไปที่ร้านแรก
พลิกดูราคา ป้ายเขียนติดไว้ที่เข็มขัด 3,000 บาท ..!
เดินไปดูร้านถัดไป 3,500 บาท..!!!
‘มาผิดที่เสียแล้วเรา..
ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ผมจะเดินต่อไปอีกแล้ว.
ที่นี่มันไม่ใช่ low buy ’.. ผมนึกในใจ
นาฬิกาทีข้อมือบอกเวลาเที่ยงกว่าแล้ว ผมเข็นรถกลับมาทางเดิมโดยไม่มีเข็มขัดที่ตั้งใจมาซื้อ ระหว่างทางรู้สึกหิว ซ้ายมือก็มีแต่ร้านอาหาร มองเมนูผ่าน ๆ ก็มีแต่ของอร่อย ๆ ก็ได้แต่ท่องคาถาภาษาอังกฤษคำเดิมในใจ
‘minimal, low buy, minimal, low buy’
เป้าหมายที่ไม่ได้อยู่ในแผน
หลังจากออกมาจากห้าง เอารถเข็นไปเก็บ ผมจูงรถพับเดินกลับมาที่สถานีรถไฟฟ้าเตรียมเดินทางกลับ ระหว่างทางมองเห็นป้าย “ตลาดบางใหญ่” อยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน
เอ๊ะ..หรือจะลองไปเดินดูที่ตลาดบางใหญ่
ผมเปลี่ยนใจจูงรถขึ้นสะพานข้ามไปที่ตลาดบางใหญ่ ที่นั่นมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์และมีแผงเหล็กกันเป็นแนว ผมจอดจักรยาน ล็อกล้อ แล้วเดินไปสั่งข้าวมันไก่ร้านถัดไปจากที่จอดรถ อิ่มจากข้าวมันไก่ผมสั่งน้ำเปล่า เดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าที่แม่ค้าตั้งไว้
“หยิบหลอดเองได้เลยนะพี่” แม่ค้าบอก
เอื้มมือจะไปหยิบหลอด ..นึกได้ ไม่เอาดีกว่า
แล้วผมก็เปิดน้ำเปล่าดื่มโดยไม่มีหลอด ถ้าผมมากับเธอคงโดนบ่นเรื่องไม่ใช้หลอด แต่วันนี้อยากจะรักษ์โลกและ minimal
ผมเดินเข้าไปในตลาดบางใหญ่หาซื้อเข็มขัดโชคดีที่เจอร้านเข็มขัดร้านแรกที่ปากทางเข้า ที่หัวเข็มขัดติดราคาไว้ 120 บาท !
120 บาทที่ตลาดบางใหญ่ กับ 3,500 บาท บนห้าง
แค่คนละฝั่งถนนเอง
ผมถามแม่ค้าประโยคเดียว…“สแกนจ่ายได้มั้ย”
แน่วแน่ในภาระกิจ low buy
หลังจากเสร็จภาระกิจซื้อปลอกแขนกับเข็มขัด ผมก็เดินทางกลับ บ่ายสองกว่าแล้ว ตามเส้นทางกลับบ้าน รถบนถนนเยอะมากบางช่วงถึงกับติด ผมปั่นจักรยานชิดซ้ายไปได้แบบสบาย ๆ มองรถบนถนนอดนึกจินตนาการไม่ได้ว่า ถ้ารถเหล่านั้นทำจากกระจกใส คงเห็นคนในรถนั่งนิ่งกันกลางถนนเป็นหย่อม ๆ บ้างก็นั่งเป็นคู่ บ้างก็นั่งเป็นกลุ่ม แต่น่าจะเกินครึ่งที่นั่งอยู่คนเดียว คนเรานี่แปลก เดินทางแต่ละครั้งต้องเป็นรถส่วนตัว ต้องเอาของที่หนักเป็นตัน ๆ ไปด้วย …
คิดไปเรื่อย จนผ่านร้านกาแฟที่กินเป็นประจำ อากาศร้อนมาก
น่าจะหลบเข้าไปในห้องแอร์แล้วสั่งอะไรเย็นให้หายร้อนสักหน่อย
จอดรถ เดินเข้าไปในร้าน
หยิบเมนูขึ้นมาดู
“น้ำผึ้งมะนาวปั่น…75 บาท”
‘ low buy, minimal’ ภาษาอังกฤษ 2 คำนี้ ดังขึ้นมาในสมองอีกแล้ว
ถ้าหิวจริง ๆ เซเว่นทางเข้าหมู่บ้านก็มี มีที่ให้นั่งกินในร้านด้วย ไปที่โน่นดีกว่า
ผมเดินออกจากร้านกาแฟโดยไม่สั่งเมนูอะไร
ที่ร้านเซเว่นปากทางเข้าหมู่บ้าน
ผมเข้าไปซื้อชาดำเย็นจ่ายเงิน 20 บาท แล้วนั่งดื่มในร้าน
นึกในใจ น้ำผึ้งมะนาวปั่น 75 กับ ชาเย็น 20 บาท…ราคาต่างกันมาก…
เกือบไปแล้ว ดีนะที่ยังแน่วแน่ในภาระกิจ Low buy…
เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายการเดินทาง
รถส่วนตัว
ค่าน้ำมัน 10 กม.ไปกลับ 60 บาท
ค่าเสื่อมราคารถ 100 บาท
รวม 160 บาท
รถสาธารณะ+จักรยาน
ค่าไฟฟ้ารถจักรยาน 5 บาท
ค่ารถไฟฟ้า 40 บาท
รวม 45 บาท

เป้าหมายแรกของภาระกิจ ซื้อปลอกแขนที่ Decathlon
นำจักรยานใส่รถเข็นเดินเข้าห้าง

เพียงเดินข้ามถนน ราคาเข็มขัดเปลี่ยนจาก 120 เป็น 3000 บาท

ใส่กุญแจรถพับไว้กับตะแกงเหล็ก แล้วเดินช๊อป
ขึ้นรถไฟฟ้าสี่ม่วง 2 ป้าย น่าจะ 20 บาท

รอรถที่สถานี แยกบางพลู
ภาระกิจ low buy
ผมใช้เวลา 18 นาทีเดินทางด้วยจักรยานพับไฟฟ้าจากบ้านถึงสถานีรถไฟฟ้าที่ไกล้ที่สุด ต่อด้วยรถไฟฟ้าสีม่วงจากแยกบางพลูไปที่สถานีตลาดบางใหญ่รถไฟฟ้าใช้เวลา 10 นาที ใช้เวลาทั้งหมด 28 นาที กับระยะทาง 10 กม. จ่ายค่าตั๋วด้วยบัตรเครดิตเลยไม่รู้ว่าจ่ายไปเท่าไร แต่คงไม่เกิน 20 บาท เป็นการเดินทางที่สะดวกและประหยัด ไม่ต้องอารมณ์เสียกับการวนหาที่จอดรถและคิดว่าถึงที่หมายเร็วกว่ารถส่วนตัวด้วยซ้ำ.
ซื้อเข็มขัด ผมต้องไปเซ็นทรัลพลาซ่า ซึ่งอยู่ทิศตะวันออกสุดของเซนทรัลเวสต์เกต ต้องจูงจักรยานขึ้นลิฟข้ามสะพานลอยมาอีกฝั่งของถนน เข้าประตูเซ็นทรัล ด้านตะวันตกเดินไปฟั่งห้างที่อยู่ตะวันออกสุด ระยะทางน่าจะไม่ต่ำกว่า 150 เมตร ระหว่างจูงรถอยู่บนสะพานลอย นึกในใจว่าจะเอารถไว้ไหนดี เค้าจะให้เอาเข้าห้างหรือเป่ลา? แล้วภาพในที่ฝรั่งใน youtube นำจักรยานพับยี่ห้อ “Bompton”ใส่รถเข็นเดินช๊อปปิ้งในห้างก็ผุดขึ้นมาในสมอง
‘minimal, low buy, minimal, low buy’
หลังจากเสร็จภาระกิจซื้อปลอกแขนกับเข็มขัด ผมก็เดินทางกลับ บ่ายสองกว่าแล้ว ตามเส้นทางกลับบ้าน รถบนถนนเยอะมากบางช่วงถึงกับติด ผมปั่นจักรยานชิดซ้ายไปได้แบบสบาย ๆ มองรถบนถนนอดนึกจินตนาการไม่ได้ว่า ถ้ารถเหล่านั้นทำจากกระจกใส คงเห็นคนในรถนั่งนิ่งกันกลางถนนเป็นหย่อม ๆ บ้างก็นั่งเป็นคู่ บ้างก็นั่งเป็นกลุ่ม แต่น่าจะเกินครึ่งที่นั่งอยู่คนเดียว คนเรานี่แปลก เดินทางแต่ละครั้งต้องเป็นรถส่วนตัว ต้องเอาของที่หนักเป็นตัน ๆ ไปด้วย …
เป้าหมายแรกของภาระกิจ ซื้อปลอกแขนที่ Decathlon
เพียงเดินข้ามถนน ราคาเข็มขัดเปลี่ยนจาก 120 เป็น 3000 บาท
ใส่กุญแจรถพับไว้กับตะแกงเหล็ก แล้วเดินช๊อป
รอรถที่สถานี แยกบางพลู