ไขข้อสงสัย! ทำไมต้องโยก LTF ไป ThaiESGX

ไขข้อสงสัย! ทำไมต้องโยก LTF ไป ThaiESGX
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด  ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC)    เปิดเผยว่า กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESG Extra Fund หรือ ThaiESGX) เปิดเสนอขาย IPO ตั้งแต่ 2 พ.ค. - 8 พ.ค. ที่ผ่านมาพบว่า มีเม็ดเงินเข้ามาไม่มากนัก  ซึ่งคาดว่าการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากการกองทุน LTF ไป  ThaiESGX  ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.-30 มิ.ย. 68  จะมีเงินเข้ามามากขึ้น โดยประเมินไว้ว่าเม็ดเงินเข้ามาในกองทุนเบื้องต้นประมาณ 10,000 ล้านบาท  และหลังจากสิ้นสุดมิ.ย. จะประเมินอีกครั้งว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามามากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องทำความเข้าใจก่อนว่า
 

Thai ESG Extra คืออะไร
Thai ESG Extra กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ หรือ Thai ESGX คือกองทุนรวมกลุ่มใหม่ในหมวด “Thai ESG” เป็นกองทุนที่รองรับการสับเปลี่ยนเงินจากกองทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ ภายในระยะเวลา 2 เดือน คือพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 เพื่อรับสิทธิประโยชน์มาลดภาษีเพิ่มเติมและสนับสนุนความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและตลาดทุนไทยในระยะยาว
 

ลงทุนในอะไรบ้าง
Thai ESGX จะใช้ตามหลักเกณฑ์เดียวกับ Thai ESG ซึ่งลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือ NAV แต่ Thai ESGX จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมว่าต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของNAV ส่วนเงินลงทุนอื่นๆ เช่น เงินสด หรือหลักทรัพย์ต่างประเทศ Thai ESGX สามารถลงทุนได้ไม่เกิน 20% ของ NAV
 

ประเภทสินทรัพย์ที่ Thai ESGX ต้องลงทุนต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ประกอบด้วย
หุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน
โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน

สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ Thai ESG Extra
สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของกองทุน Thai ESGX แบ่งวงเงินลดหย่อนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

วงเงินลดหย่อนที่ 1 : สำหรับเงินลงทุนใหม่เฉพาะปี 2568
ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน

วงเงินลดหย่อนที่ 2 : สำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยน LTF มา Thai ESGX
ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนต้องแจ้งย้ายกองทุนภายใน 2 เดือน หลังจากจัดตั้งกองทุน แต่ไม่เกินเดือน มิถุนายน 2568
ปีแรก (ปี2568) สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท
ปีที่ 2-5 (ปี 2569-2572) ส่วนที่เหลืออีก 200,000 บาทที่เหลือ ทยอยใช้สิทธิได้ปีละไม่เกิน 50,000 บาท 4 ปี 
วงเงินลดหย่อนทั้งหมดของ Thai ESGX ในปี 2568 จะไม่ถูกนับรวมกับ Thai ESG เดิม แปลว่าหากใช้แบบเต็มสิทธิ เราจะสามารถลดหย่อนภาษีได้พิเศษเพิ่มขึ้นถึง 600,000 บาทในปีนี้ และทยอยลดหย่อนได้อีกในปีต่อๆ ไป หากยังมียอดลงทุนส่วนเกินใน LTF

กองทุน Thai ESG
นโยบายการลงทุน: ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV  
สิทธิประโยชน์ทางภาษี:
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท หรือไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
ระยะเวลาถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ลงทุน
 
การโอน LTF เข้ากองทุน Thai ESGX ต้องทำอย่างไร
ต้องโอนมาทั้งหมดจะโอนมาบางส่วนไม่ได้ และต้องมีชื่อปรากฎในวันที่ 12 มี.ค. 68 ว่าถือ LTF และไม่มีการขายออกมาเลย หลังจากวันที่ 12 มี.ค.68

https://www.tnnthailand.com/wealth/investment/199003/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่