วันนี้เรามีประสบการณ์อยากมาแชร์ ขำๆ หรือเปล่า555 หรือเป็นแนวทางสำหรับใคร ที่ตอนนี้กำลังเปิดใจคุยกับหนุ่มอินเดียอยู่ ฟังไว้พอเป็นอุทาหรณ์ก็ได้
**ก่อนอื่นข้อเกริ่น จขกท.โสดมาปีนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว เริ่มรู้สึกเหงาอยากลองเปิดใจคุยกับใครสักคน แต่รู้สึกว่าอยากลองเปิดใจคุยกับคนต่างชาติบ้าง เพราะเคยลองคุยกับหนุ่มไทยก็ทำเราเจ็บแสบมาพอตัวเหมือนกัน อีกเหตุผลหนึ่งก็อยากฝึกภาษาด้วย
**เราเริ่มเล่นแอพหาคู่แอพหนึ่ง แมทกับหนุ่มอินเดีย ตอนแรกเราเล็งฝั่งยุโรปไว้ แต่คนนี้แมทมาเราก็ลองคุยก็คงไม่เสียหาย
***เริ่มเรื่องหนุ่มอินเดียคนที่ 1
คนนี้เขาบอกกับเราว่า ตอนนี้เขาทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เขาทำงานเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับการบิน แรกๆพวกเราก็คุยกันเรื่องทั่วไป ถามเรื่องต่างๆของกันและกัน ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ ครอบครับมีพี่น้องกี่คน เรื่องต่างๆ ตอนเช้ากู๊ดมอนิ่ง ถามทานข้าวรึยัง คุยกันแบบคู่รักปกติเลยค่ะ คนอินเดียปากหวานค่ะ หวานมากๆ ใครอ่อนเรื่องความรักคือหลงคารมเขาง่ายๆเลยค่ะ นึงในนั้นคือเราเอง เขาจะขายฝันค่ะ ว่าพวกเราจะแต่งงานกันอย่างนั่นอย่างนี้ มีแพลนไปท่องเที่ยวกัน นัดเจอกัน พอคุยกันมาได้ประมาณ 1 เดือน เราเริ่มรู้สึกดี และอยากจริงจังมากกว่านี้ เราก็เริ่มเช็กค่ะ เพราะบ้างเรื่องราวที่เขาเล่าให้เราฟังมันก็ดูแปลกๆ และไม่ค่อยชัดเจน เช่น
1.เขาเคยเล่าว่าที่บ้านของเขาทำสวนส้ม และพวกผักแบบออร์แกนนิก เราเลยขอดูรูปสวนส้มของเขาหน่อย เขาส่งมาหลายรูปมาก แต่รูปมันดูแปลกๆ รูปภาพมันแตกๆ เราลองเอารูปไปเสริชหาใน pinterest สรุปว่ามีรูปภาพพวกนี้ในนั้นค่ะ และสวนจริงๆ ที่เป็นเจ้าของรูป คือ สวนจากแอฟริกา เราเป็นคนไม่ชอบเก็บความสงสัยค่ะ ถ้าสงสัยมากๆ เราก็ถามเลย เขาให้คำตอบว่า เขาทำส่งออกไปต่างประเทศ ภาพพวกนี้ก็จะแชร์ๆกัน เพื่อโปรโมท งงสิ55 ไม่เป็นไร เขามีคำตอบให้เรา เก็บไว้นึงดอก คำตอบถึงจะแปลกๆ เราก็ไม่อยากถามเซ้าซี้อะไรมาก
2.ดอกสอง พวกเราคุยกันทุกวันค่ะ ยกเว้น ส-อาทิตย์ เขาชอบอ้างว่าอาทิตย์โน้นป่วยบ้างต้องเข้าโรงพยาบาล อาทิตย์นี้ต้องไปทำงานบ้าง อาทิตย์หน้าต้องไปประชุมมาเลเซียบ้าง แต่ตอนที่นางไปประชุมที่มาเลเซียเราไม่สามารถติดต่อเขาได้นะคะ จะมีบางครั้งเขาส่งรูปมาให้ดูบ้างอะไรบ้าง เราก็ได้แค่สงสัย จนมีอาทิตย์นึงที่เขาหายไปเลย ไม่มีแม้แต่ข้อความเดียว เขาตอบกลับอีกทีวันจันทร์เลยค่ะ เราถามว่าเขาหายไปไหน เขาตอบว่ารถชน และต้องเอารถไปซ่อม เขาถ่ายรูปให้เราดู เราจำได้ว่ารถคันนี้เป็นรถของเขา แต่เป็นรถที่อินเดีย ป้ายทะเบียนรถของอินเดีย อันนี้เราไม่ได้ถามเขานะคะ ได้แต่สงสัย เราว่าไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องขนย้ายรถข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อใช้ที่นี้ เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องใช้รถขนาดนั้น และที่สำคัญมันสามารถทำได้ด้วยหรอ ขนย้ายรถจากประเทศตัวเองมาใช้ที่นี้ ทำเอาอิฉันงงไปสิ เคยโทรไปหาเขาครั้งหนึ่งตอนที่เขากำลังขับรถอยู่ เขาไม่เคยถ่ายสภาพแวดล้อมให้เราดูเลยนะคะ ได้ยินแต่เสียงแตร ในใจคิดว่าใช่แน่ๆ55+
3.ดอกสามจำได้ไหมค่ะว่าเขาบอกว่าเขาทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เราก็ถามเขาทำงานอยู่ที่บริษัทไหน เขาบอกว่าทำงานบริษัท.... เราก็อยากเห็นจึงให้เขาถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย แต่รูปที่ได้คือ รูปหน้าของเขากับโต๊ะทำงานของเขา อ่าาาคือฉันก็หวังว่าแกจะถ่ายรูปกับหน้าบริษัทส่งมาให้ดูอะไรงี้ เราก็บอกอยากได้รูปกับหน้าบริษัท จนถึงทุกวันนี้เรายังไม่เห็นเลยค่ะ เราไม่สามารถโทรไปตอนเขาทำงานได้นะคะ เขาจะอ้างว่ามันคือความปลอดภัยของบริษัท เขาให้เห็นไม่ได้ ว่าซ่านนน++ เราลองเอาชื่อบริษัทไปดูในผู้ติดตามของเขา ก็ไม่มี แต่เขาดันติดตามบริษัทหนึ่ง แต่อยู่ที่อินเดียค่ะ พอถาม เขาตอบว่าบริษัทของเขา มีอยู่หลายประเทศ บริษัทที่เขาติดตามคือบริษัทแม่ เอ่อเอาดิแถไปอีก
4.ครั้งที่ 4 เขาบอกอาทิตย์หน้าเขาจะกลับบ้านที่อินเดียสัก 10 กว่าวัน มีงานเทศกาลสาดสี เขากลับบ้าน ก็ไม่มีอัพเดตเหมือนเคย ไม่ถ่ายสิ่งที่เขาทำมาให้ดูเลย จนเราต้องเอ่ยปากถามเองว่าทำอะไร งานสนุกไหม บรรยากาศเป็นอะไร เขาก็ได้แต่ถ่ายรูปหน้าที่เปื้อนสีส่งมาให้เราดู เขาอยู่ที่บ้าน 3-4 วันค่ะ แล้วบอกว่า เจ้านายตามตัวเขาไปทำงาน เพราะมีประชุมด่วน เขาบอกตอนนี้กำลังขึ้นรถไฟ เพื่อไปขึ้นเครื่องที่นิวเดลี ก็ไม่มีอัพเดตเหมือนเดิมค่ะ รูปล่าสุดคือรูปเขานอนอยู่บนรถไฟ แต่เขาไม่อัพเดตว่า ถึงสนามบินแล้ว กำลังขึ้นเครื่อง ไม่มีบอกเลย ถ้าเป็นเราคงถ่ายให้เขาดูทุกขั้นตอนที่เรากำลังทำ และเขาหายไป 1 วัน เต็มๆ สำหรับการเดินทาง
4.เขาเคยบอกเราว่าเขาเล่นแต่แอพชมพู ไม่เล่นแอพฟ้า แต่เราลองเอาชื่อเขาไปเสริชในแอพฟ้าสรุปว่าเจอ อ้าววว เช่นเคย ฉันสงสัย ฉันถามเลย เขาบอกเขาไม่ค่อยได้เล่นแอพนี้ เพราะลืมรหัสผ่าน เลยไม่ให้เรา เราก็คะยั้นคะยอ ให้เขารับแอด เพราะคิดว่ายังไงเขาก็เล่น เพราะจำนวนเพื่อนของเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน จนเขายอมรับเราเป็นเพื่อนค่ะ สรุปเขาโพสต์เกือบทุกวัน ไหนบอกไม่ค่อยเล่น ไหนบอกลืมรหัส แม่จะตีหัวให้ สงสัยบังอยากหัวแบะ พิรุธไปไหนก่อน และนางเคยบอกว่าทำงานที่สิงคโปร์มา 6 ปีแล้ว แต่ในแอพฟ้าประวัติของเขาโชว์ว่าเขาเริ่มทำงานบริษัทนี้มา 3 ปีแล้ว ไม่ใช่บริษัทที่สิงคโปร์นะคะ บริษัทที่เราสงสัยนั้นเหละค่ะ ที่ตั้งอยู่ที่อินเดีย
5.เราถามว่าเขาพักอยู่ที่ไหน พักอยู่ยังไง ขอดูวิวนอกห้องหน่อย สิงคโปร์ตอนกลางคืนต้องสวยแน่ๆ สรุปเขาไม่ถ่ายเขาบอกวิวไม่ค่อยสวย เขาบอกเป็นอพาร์ทเมนที่หารอยู่กับเพื่อน ชื่อ.... เราลองเขาชื่อหอที่เขาบอกไปเสริชในแมพ สรุปไม่เจอในสิงคโปร์ แต่มันไปโผล่ที่นิวเดลี อินเดีย ชัดเจนเลย โอ้ยยยยย
6.อีกอย่างหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คือ เหมือนพวกเราสนทนาอะไรกันนี้ล่ะค่ะ แล้วเขาแคปบทความมาให้เราอ่าน แต่เราดันเหลือบไปเห็นเวลาบนหน้าจอที่แคปส่งมาให้พอเอาไปเทียบโซนเวลามันตรงกับโซนเวลาของอินเดีย ไม่ใช่สิงคโปร์
*****ทุกอยากแอ๊ะไปหมด แต่เราก็ยังคุยอยู่ เพราะแค่อยากรู้ว่าเขาจะแถไปไหนอีก หลังๆ เขาเริ่มคุยกับเราน้อยลง อาจเพราะเราสงสัยไปส่ะทุกเรื่อง จนเราเริ่มรู้สึกว่าการสนทนามันน่าเบื่อแล้ว เราก็ตัดบทขอยุติการคุยในครั้งนี้ นางก็ยื้อเราอยู่เล็กน้อยพอเป็นพิธี จบหนุ่มอินเดียคนที่หนึ่ง
********ทุกวันนี้ยังงงว่าจะโกหกทำไม เรื่องไหนจริงไม่จริง
----------------------------ต่อไปหนุ่มอินเดียคนที่ 2 เดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อน เราจะมาต่อให้ คนนี้แสบกว่าคนแรกอีก-------------------------
ต่อเมนต์ข้างล่างนะคะ
ประสบการณ์คุยกับผู้อินเดียแบบไม่จึ้ง
**ก่อนอื่นข้อเกริ่น จขกท.โสดมาปีนี้เข้าปีที่ 2 แล้ว เริ่มรู้สึกเหงาอยากลองเปิดใจคุยกับใครสักคน แต่รู้สึกว่าอยากลองเปิดใจคุยกับคนต่างชาติบ้าง เพราะเคยลองคุยกับหนุ่มไทยก็ทำเราเจ็บแสบมาพอตัวเหมือนกัน อีกเหตุผลหนึ่งก็อยากฝึกภาษาด้วย
**เราเริ่มเล่นแอพหาคู่แอพหนึ่ง แมทกับหนุ่มอินเดีย ตอนแรกเราเล็งฝั่งยุโรปไว้ แต่คนนี้แมทมาเราก็ลองคุยก็คงไม่เสียหาย
***เริ่มเรื่องหนุ่มอินเดียคนที่ 1
คนนี้เขาบอกกับเราว่า ตอนนี้เขาทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เขาทำงานเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับการบิน แรกๆพวกเราก็คุยกันเรื่องทั่วไป ถามเรื่องต่างๆของกันและกัน ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ ครอบครับมีพี่น้องกี่คน เรื่องต่างๆ ตอนเช้ากู๊ดมอนิ่ง ถามทานข้าวรึยัง คุยกันแบบคู่รักปกติเลยค่ะ คนอินเดียปากหวานค่ะ หวานมากๆ ใครอ่อนเรื่องความรักคือหลงคารมเขาง่ายๆเลยค่ะ นึงในนั้นคือเราเอง เขาจะขายฝันค่ะ ว่าพวกเราจะแต่งงานกันอย่างนั่นอย่างนี้ มีแพลนไปท่องเที่ยวกัน นัดเจอกัน พอคุยกันมาได้ประมาณ 1 เดือน เราเริ่มรู้สึกดี และอยากจริงจังมากกว่านี้ เราก็เริ่มเช็กค่ะ เพราะบ้างเรื่องราวที่เขาเล่าให้เราฟังมันก็ดูแปลกๆ และไม่ค่อยชัดเจน เช่น
1.เขาเคยเล่าว่าที่บ้านของเขาทำสวนส้ม และพวกผักแบบออร์แกนนิก เราเลยขอดูรูปสวนส้มของเขาหน่อย เขาส่งมาหลายรูปมาก แต่รูปมันดูแปลกๆ รูปภาพมันแตกๆ เราลองเอารูปไปเสริชหาใน pinterest สรุปว่ามีรูปภาพพวกนี้ในนั้นค่ะ และสวนจริงๆ ที่เป็นเจ้าของรูป คือ สวนจากแอฟริกา เราเป็นคนไม่ชอบเก็บความสงสัยค่ะ ถ้าสงสัยมากๆ เราก็ถามเลย เขาให้คำตอบว่า เขาทำส่งออกไปต่างประเทศ ภาพพวกนี้ก็จะแชร์ๆกัน เพื่อโปรโมท งงสิ55 ไม่เป็นไร เขามีคำตอบให้เรา เก็บไว้นึงดอก คำตอบถึงจะแปลกๆ เราก็ไม่อยากถามเซ้าซี้อะไรมาก
2.ดอกสอง พวกเราคุยกันทุกวันค่ะ ยกเว้น ส-อาทิตย์ เขาชอบอ้างว่าอาทิตย์โน้นป่วยบ้างต้องเข้าโรงพยาบาล อาทิตย์นี้ต้องไปทำงานบ้าง อาทิตย์หน้าต้องไปประชุมมาเลเซียบ้าง แต่ตอนที่นางไปประชุมที่มาเลเซียเราไม่สามารถติดต่อเขาได้นะคะ จะมีบางครั้งเขาส่งรูปมาให้ดูบ้างอะไรบ้าง เราก็ได้แค่สงสัย จนมีอาทิตย์นึงที่เขาหายไปเลย ไม่มีแม้แต่ข้อความเดียว เขาตอบกลับอีกทีวันจันทร์เลยค่ะ เราถามว่าเขาหายไปไหน เขาตอบว่ารถชน และต้องเอารถไปซ่อม เขาถ่ายรูปให้เราดู เราจำได้ว่ารถคันนี้เป็นรถของเขา แต่เป็นรถที่อินเดีย ป้ายทะเบียนรถของอินเดีย อันนี้เราไม่ได้ถามเขานะคะ ได้แต่สงสัย เราว่าไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องขนย้ายรถข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อใช้ที่นี้ เพราะสิงคโปร์เป็นเมืองเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องใช้รถขนาดนั้น และที่สำคัญมันสามารถทำได้ด้วยหรอ ขนย้ายรถจากประเทศตัวเองมาใช้ที่นี้ ทำเอาอิฉันงงไปสิ เคยโทรไปหาเขาครั้งหนึ่งตอนที่เขากำลังขับรถอยู่ เขาไม่เคยถ่ายสภาพแวดล้อมให้เราดูเลยนะคะ ได้ยินแต่เสียงแตร ในใจคิดว่าใช่แน่ๆ55+
3.ดอกสามจำได้ไหมค่ะว่าเขาบอกว่าเขาทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เราก็ถามเขาทำงานอยู่ที่บริษัทไหน เขาบอกว่าทำงานบริษัท.... เราก็อยากเห็นจึงให้เขาถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย แต่รูปที่ได้คือ รูปหน้าของเขากับโต๊ะทำงานของเขา อ่าาาคือฉันก็หวังว่าแกจะถ่ายรูปกับหน้าบริษัทส่งมาให้ดูอะไรงี้ เราก็บอกอยากได้รูปกับหน้าบริษัท จนถึงทุกวันนี้เรายังไม่เห็นเลยค่ะ เราไม่สามารถโทรไปตอนเขาทำงานได้นะคะ เขาจะอ้างว่ามันคือความปลอดภัยของบริษัท เขาให้เห็นไม่ได้ ว่าซ่านนน++ เราลองเอาชื่อบริษัทไปดูในผู้ติดตามของเขา ก็ไม่มี แต่เขาดันติดตามบริษัทหนึ่ง แต่อยู่ที่อินเดียค่ะ พอถาม เขาตอบว่าบริษัทของเขา มีอยู่หลายประเทศ บริษัทที่เขาติดตามคือบริษัทแม่ เอ่อเอาดิแถไปอีก
4.ครั้งที่ 4 เขาบอกอาทิตย์หน้าเขาจะกลับบ้านที่อินเดียสัก 10 กว่าวัน มีงานเทศกาลสาดสี เขากลับบ้าน ก็ไม่มีอัพเดตเหมือนเคย ไม่ถ่ายสิ่งที่เขาทำมาให้ดูเลย จนเราต้องเอ่ยปากถามเองว่าทำอะไร งานสนุกไหม บรรยากาศเป็นอะไร เขาก็ได้แต่ถ่ายรูปหน้าที่เปื้อนสีส่งมาให้เราดู เขาอยู่ที่บ้าน 3-4 วันค่ะ แล้วบอกว่า เจ้านายตามตัวเขาไปทำงาน เพราะมีประชุมด่วน เขาบอกตอนนี้กำลังขึ้นรถไฟ เพื่อไปขึ้นเครื่องที่นิวเดลี ก็ไม่มีอัพเดตเหมือนเดิมค่ะ รูปล่าสุดคือรูปเขานอนอยู่บนรถไฟ แต่เขาไม่อัพเดตว่า ถึงสนามบินแล้ว กำลังขึ้นเครื่อง ไม่มีบอกเลย ถ้าเป็นเราคงถ่ายให้เขาดูทุกขั้นตอนที่เรากำลังทำ และเขาหายไป 1 วัน เต็มๆ สำหรับการเดินทาง
4.เขาเคยบอกเราว่าเขาเล่นแต่แอพชมพู ไม่เล่นแอพฟ้า แต่เราลองเอาชื่อเขาไปเสริชในแอพฟ้าสรุปว่าเจอ อ้าววว เช่นเคย ฉันสงสัย ฉันถามเลย เขาบอกเขาไม่ค่อยได้เล่นแอพนี้ เพราะลืมรหัสผ่าน เลยไม่ให้เรา เราก็คะยั้นคะยอ ให้เขารับแอด เพราะคิดว่ายังไงเขาก็เล่น เพราะจำนวนเพื่อนของเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน จนเขายอมรับเราเป็นเพื่อนค่ะ สรุปเขาโพสต์เกือบทุกวัน ไหนบอกไม่ค่อยเล่น ไหนบอกลืมรหัส แม่จะตีหัวให้ สงสัยบังอยากหัวแบะ พิรุธไปไหนก่อน และนางเคยบอกว่าทำงานที่สิงคโปร์มา 6 ปีแล้ว แต่ในแอพฟ้าประวัติของเขาโชว์ว่าเขาเริ่มทำงานบริษัทนี้มา 3 ปีแล้ว ไม่ใช่บริษัทที่สิงคโปร์นะคะ บริษัทที่เราสงสัยนั้นเหละค่ะ ที่ตั้งอยู่ที่อินเดีย
5.เราถามว่าเขาพักอยู่ที่ไหน พักอยู่ยังไง ขอดูวิวนอกห้องหน่อย สิงคโปร์ตอนกลางคืนต้องสวยแน่ๆ สรุปเขาไม่ถ่ายเขาบอกวิวไม่ค่อยสวย เขาบอกเป็นอพาร์ทเมนที่หารอยู่กับเพื่อน ชื่อ.... เราลองเขาชื่อหอที่เขาบอกไปเสริชในแมพ สรุปไม่เจอในสิงคโปร์ แต่มันไปโผล่ที่นิวเดลี อินเดีย ชัดเจนเลย โอ้ยยยยย
*****ทุกอยากแอ๊ะไปหมด แต่เราก็ยังคุยอยู่ เพราะแค่อยากรู้ว่าเขาจะแถไปไหนอีก หลังๆ เขาเริ่มคุยกับเราน้อยลง อาจเพราะเราสงสัยไปส่ะทุกเรื่อง จนเราเริ่มรู้สึกว่าการสนทนามันน่าเบื่อแล้ว เราก็ตัดบทขอยุติการคุยในครั้งนี้ นางก็ยื้อเราอยู่เล็กน้อยพอเป็นพิธี จบหนุ่มอินเดียคนที่หนึ่ง
----------------------------ต่อไปหนุ่มอินเดียคนที่ 2 เดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อน เราจะมาต่อให้ คนนี้แสบกว่าคนแรกอีก-------------------------