ตั้งแต่เข้าซื้อกิจการบริษัทสิ่งทอที่กำลังตกต่ำในปี 1965 บัฟเฟตต์สามารถพลิกโฉม Berkshire Hathaway ให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ภายใต้การนำของเขา บริษัทมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และตัวเขาเองก็กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินประมาณ 160,000 ล้านดอลลาร์
ด้วยประวัติที่น่าทึ่งเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่นักลงทุนทุกช่วงวัยจะเดินทางมาร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ทุกปี เพื่อฟังคำแนะนำจาก “ปราชญ์แห่งโอมาฮา”
เปิดแนะนำ "บัฟเฟตต์" ถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากคว้าความสำเร็จตั้งแต่ช่วงต้นอาชีพ
ในเวทีของปีนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งถามบัฟเฟตต์ว่า เขาได้บทเรียนสำคัญอะไรในช่วงต้นของเส้นทางอาชีพการงาน? บัฟเฟตต์จึงได้ให้คำแนะนำทั้งด้านการทำงานในภาพรวม โดยหลักใหญ่ใจความสำคัญเขาเน้นไปที่การเริ่มต้นชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่ว่า ควรเลือกงานแรกๆ จากคนที่อยากทำงานด้วย ไม่ใช่เงินเดือน
“อย่ากังวลเรื่องเงินเดือนช่วงเริ่มต้นอาชีพ แต่ควรโฟกัสเรื่องการทำงานกับใครมากกว่าเพราะ “มันจะเป็นจุดสำคัญต่อการเติบโตทางอาชีพอย่างมาก” บัฟเฟตต์ แนะนำ
เขาย้ำอีกว่า คนที่เราทำงานด้วยตั้งแต่ช่วงต้นอาชีพนั้นมีความสำคัญมหาศาล “อย่าคาดหวังว่าคุณจะตัดสินใจถูกทุกครั้งในวัยที่อายุยังน้อย แต่ชีวิตคุณจะเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับคนที่คุณทำงานด้วย คนที่คุณชื่นชม และคนที่กลายมาเป็นเพื่อนคุณ”
เลือกหัวหน้าให้ดี เพราะคุณจะซึมซับนิสัย และได้เรียนรู้จากเขา
บัฟเฟตต์อธิบายว่า แม้การเลือกอาชีพที่มีรายได้ดีจะช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ แต่คนรอบตัวคุณ โดยเฉพาะคนที่คุณทำงานด้วย ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันในการกำหนดเส้นทางความสำเร็จในระยะยาว
“อย่ากังวลเรื่องเงินเดือนเริ่มต้นมากเกินไป และจงระวังให้มากว่าใครคือ เจ้านายของคุณ เพราะคุณจะซึมซับนิสัยของคนรอบตัว และมีบางตำแหน่งงานที่คุณไม่ควรก้าวเข้าไปทำตั้งแต่แรก” เขากล่าวในที่ประชุม
เขาเน้นว่าวัยทำงานรุ่นใหม่ควรมองหางานที่คุณชอบจริงๆ และทำงานกับคนที่คุณเคารพ และสามารถเรียนรู้จากเขาได้ แม้หลายคนอาจพยายามเดินตามรอยคนที่ประสบความสำเร็จแล้วอย่างเขา แต่บัฟเฟตต์แนะว่า สิ่งที่ดีกว่าคือ การรู้จักตัวเองให้ดี แล้วเลือกทำงานร่วมกับคนเก่งในแบบของคุณเอง
“ในชีวิตผมมีเจ้านายแค่ 5 คน และผมชอบพวกเขาทุกคน พวกเขาน่าสนใจทุกคน แต่กระนั้นผมก็ยังตัดสินใจว่า ผมอยากทำงานให้ตัวเองมากกว่าอยู่ดี แต่ถ้าคุณเจอคนที่ทำงานด้วยแล้วรู้สึกยอดเยี่ยม นั่นแหละคือ ที่ที่คุณควรไปอยู่” บัฟเฟตต์ อธิบาย
บทเรียนด้านการลงทุน บัฟเฟตต์แนะ ถ้าเห็นอะไรโง่ๆ เกิดขึ้น อย่าเข้าไปยุ่ง!
บัฟเฟตต์มองว่า คนรุ่นใหม่ยังมีโอกาสสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนที่เขาทำกับ Berkshire Hathaway แต่เขามีคำเตือนว่า อย่าเสี่ยงเกินเหตุเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น
“ถ้าคุณเห็นอะไรโง่ๆ กำลังเกิดขึ้นรอบตัว อย่าเข้าไปมีส่วนร่วม ถ้าคนรอบตัวทำเงินได้มากเพราะไปกู้เงินมาเล่นหุ้น หรือซื้อขายหลักทรัพย์ขยะ คุณต้องปล่อยผ่านไป เพราะสุดท้ายมันจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณแน่นอน” เขาเตือน
จุดเด่นอีกอย่างของเจ้าพ่อนักลงทุนคนนี้ก็คือ เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้สนับสนุนกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว เขามักเตือนนักลงทุนว่า อย่าพยายามจับจังหวะตลาด หรือมองหาวิธีรวยเร็วด้วยสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง "คริปโทเคอร์เรนซี"
“ถ้าคุณไม่พร้อมจะถือหุ้นตัวนั้นไว้ 10 ปี ก็อย่าแม้แต่จะคิดถือมันไว้ 10 นาที” เขาเขียนไว้ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 1996
และเมื่อคุณตัดสินใจลงทุนแล้ว จงมั่นใจในเส้นทางที่เลือก และเชื่อมั่นในพอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม “นักลงทุนต้องมีความสามารถในการเพิกเฉยต่อความกลัวหรือความฮึกเหิมของฝูงชน และจดจ่อกับพื้นฐานง่ายๆ ไม่กี่ข้อ” เขาเขียนไว้ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 2018
ท้ายที่สุด แม้ว่าบัฟเฟตต์จะไม่ได้อยู่ในฐานะซีอีโอของ Berkshire แต่เชื่อคำแนะนำของเขายังคงเป็นสิ่งที่วัยทำงาน และนักลงทุนรุ่นใหม่ ต้องการจะเรียนรู้ และศึกษาแนวคิดและการทำงานของเขาเสมอไปไม่เปลี่ยนแปลง
บัฟเฟตต์แนะ อย่าหางานจากเงินเดือน แต่เลือกคนที่อยากทำงานด้วย
ด้วยประวัติที่น่าทึ่งเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่นักลงทุนทุกช่วงวัยจะเดินทางมาร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ทุกปี เพื่อฟังคำแนะนำจาก “ปราชญ์แห่งโอมาฮา”
เปิดแนะนำ "บัฟเฟตต์" ถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากคว้าความสำเร็จตั้งแต่ช่วงต้นอาชีพ
ในเวทีของปีนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งถามบัฟเฟตต์ว่า เขาได้บทเรียนสำคัญอะไรในช่วงต้นของเส้นทางอาชีพการงาน? บัฟเฟตต์จึงได้ให้คำแนะนำทั้งด้านการทำงานในภาพรวม โดยหลักใหญ่ใจความสำคัญเขาเน้นไปที่การเริ่มต้นชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่ว่า ควรเลือกงานแรกๆ จากคนที่อยากทำงานด้วย ไม่ใช่เงินเดือน
“อย่ากังวลเรื่องเงินเดือนช่วงเริ่มต้นอาชีพ แต่ควรโฟกัสเรื่องการทำงานกับใครมากกว่าเพราะ “มันจะเป็นจุดสำคัญต่อการเติบโตทางอาชีพอย่างมาก” บัฟเฟตต์ แนะนำ
เขาย้ำอีกว่า คนที่เราทำงานด้วยตั้งแต่ช่วงต้นอาชีพนั้นมีความสำคัญมหาศาล “อย่าคาดหวังว่าคุณจะตัดสินใจถูกทุกครั้งในวัยที่อายุยังน้อย แต่ชีวิตคุณจะเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับคนที่คุณทำงานด้วย คนที่คุณชื่นชม และคนที่กลายมาเป็นเพื่อนคุณ”
เลือกหัวหน้าให้ดี เพราะคุณจะซึมซับนิสัย และได้เรียนรู้จากเขา
บัฟเฟตต์อธิบายว่า แม้การเลือกอาชีพที่มีรายได้ดีจะช่วยสร้างความมั่งคั่งได้ แต่คนรอบตัวคุณ โดยเฉพาะคนที่คุณทำงานด้วย ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันในการกำหนดเส้นทางความสำเร็จในระยะยาว
“อย่ากังวลเรื่องเงินเดือนเริ่มต้นมากเกินไป และจงระวังให้มากว่าใครคือ เจ้านายของคุณ เพราะคุณจะซึมซับนิสัยของคนรอบตัว และมีบางตำแหน่งงานที่คุณไม่ควรก้าวเข้าไปทำตั้งแต่แรก” เขากล่าวในที่ประชุม
เขาเน้นว่าวัยทำงานรุ่นใหม่ควรมองหางานที่คุณชอบจริงๆ และทำงานกับคนที่คุณเคารพ และสามารถเรียนรู้จากเขาได้ แม้หลายคนอาจพยายามเดินตามรอยคนที่ประสบความสำเร็จแล้วอย่างเขา แต่บัฟเฟตต์แนะว่า สิ่งที่ดีกว่าคือ การรู้จักตัวเองให้ดี แล้วเลือกทำงานร่วมกับคนเก่งในแบบของคุณเอง
“ในชีวิตผมมีเจ้านายแค่ 5 คน และผมชอบพวกเขาทุกคน พวกเขาน่าสนใจทุกคน แต่กระนั้นผมก็ยังตัดสินใจว่า ผมอยากทำงานให้ตัวเองมากกว่าอยู่ดี แต่ถ้าคุณเจอคนที่ทำงานด้วยแล้วรู้สึกยอดเยี่ยม นั่นแหละคือ ที่ที่คุณควรไปอยู่” บัฟเฟตต์ อธิบาย
บทเรียนด้านการลงทุน บัฟเฟตต์แนะ ถ้าเห็นอะไรโง่ๆ เกิดขึ้น อย่าเข้าไปยุ่ง!
บัฟเฟตต์มองว่า คนรุ่นใหม่ยังมีโอกาสสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนที่เขาทำกับ Berkshire Hathaway แต่เขามีคำเตือนว่า อย่าเสี่ยงเกินเหตุเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น
“ถ้าคุณเห็นอะไรโง่ๆ กำลังเกิดขึ้นรอบตัว อย่าเข้าไปมีส่วนร่วม ถ้าคนรอบตัวทำเงินได้มากเพราะไปกู้เงินมาเล่นหุ้น หรือซื้อขายหลักทรัพย์ขยะ คุณต้องปล่อยผ่านไป เพราะสุดท้ายมันจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณแน่นอน” เขาเตือน
จุดเด่นอีกอย่างของเจ้าพ่อนักลงทุนคนนี้ก็คือ เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้สนับสนุนกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว เขามักเตือนนักลงทุนว่า อย่าพยายามจับจังหวะตลาด หรือมองหาวิธีรวยเร็วด้วยสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง "คริปโทเคอร์เรนซี"
“ถ้าคุณไม่พร้อมจะถือหุ้นตัวนั้นไว้ 10 ปี ก็อย่าแม้แต่จะคิดถือมันไว้ 10 นาที” เขาเขียนไว้ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 1996
และเมื่อคุณตัดสินใจลงทุนแล้ว จงมั่นใจในเส้นทางที่เลือก และเชื่อมั่นในพอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม “นักลงทุนต้องมีความสามารถในการเพิกเฉยต่อความกลัวหรือความฮึกเหิมของฝูงชน และจดจ่อกับพื้นฐานง่ายๆ ไม่กี่ข้อ” เขาเขียนไว้ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 2018
ท้ายที่สุด แม้ว่าบัฟเฟตต์จะไม่ได้อยู่ในฐานะซีอีโอของ Berkshire แต่เชื่อคำแนะนำของเขายังคงเป็นสิ่งที่วัยทำงาน และนักลงทุนรุ่นใหม่ ต้องการจะเรียนรู้ และศึกษาแนวคิดและการทำงานของเขาเสมอไปไม่เปลี่ยนแปลง