สวัสดีค่ะทุกคน ขออนุญาตเล่าระบายเรื่องของตัวเองที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งๆ เวลาดิ่งๆ ดาวน์ ก็จะร้องไห้ตลอด
4ปีที่แล้ว เราอายุ18 ต้องไปอยู่หอพักมหาลัยที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นเรามีแฟนแต่เลิกกันไปแล้ว เราก็ไปเที่ยวแถวนั้นๆ ได้รู้จักกับรุ่นพี่ผู้หญิงอายุ40+ จนวันนึงรุ่นพี่ผู้หญิงโทรมาชวนไปกินเบียร์ที่ห้องเพื่อนเขา รุ่นพี่มารับเราพร้อมกับเพื่อนเขาคนนึงผู้ชาย (คือแฟนเราคนที่เสีย) เราก็ไป เพื่อนเขาคนนี้พึ่งออกมาจากคุก เราเจอเขาครั้งแรกเราไม่ชอบเลย แต่เรารู้เลยว่าพี่เขาสนใจเรามากๆ พอไปถึงห้องเพื่อนรุ่นพี่ เราได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น คือ ยาเสพติด เราก็ไม่ชิน อยากจะกลับ อยากจะออกจากตรงนั้นเลยทันที แต่ก็คิดในใจ คงไม่มีอะไรหรอก พี่ผู้ชาย(แฟนเราคนที่เสีย) ก็ชวนเราคุย เราก็ตอบ ถามว่าเราเกิดวันอะไร เราเกิด 16กันยายน พี่เขาก็บอกว่า เนื้อคู่ดิ เขาเกิด17กันยายน เราก็ไม่เชื่อ ไม่คิดอะไรเพราะ สภาพ+พี่งออกจากคุก+ยาเสพติด เราก็นอนเล่นอยู่มุมของเราไปจนเช้า เช้าพี่ผู้ชายกับรุ่นพี่เราก็ขับรถไปส่งเราที่ห้องเราก็ใช้ชีวิตปกติ จนผ่านไปสักระยะนึง2-3เดือน เรากลับมาอยู่บ้านที่กรุงเทพ ตัดสินใจไม่เรียนต่อ แต่ก็ทะเลาะกะที่บ้าน เลยตัดสินใจออกมาเช่าห้องอยู่คนเดียว วันๆนึงค่ะ มีเบอร์แปลกเข้ามา เราก็รับ
👨🏼ฮัลโหล
👩🏻ค่า ใครคะ
👨🏼จำได้ป่าวเนี่ย พี่x
เราก็ตกใจ ว่าเอาเบอร์เรามาจากไหน สงสัยขอจากรุ่นพี่ผู้หญิงเรา เราก็คุยกันไปในสาย พี่เขาบอกว่า ตอนนี้เค้าอยู่กรุงเทพตรงนี้ๆ มาทำธุระ ขับรถมา เห็นป้าย พระราม3 นึกถึงหนู (เราก็คิดในใจถ้าเขาไม่ชอบไม่สนใจจริงๆเขาคงไม่จดจำอะไรแบบนี้) จากนั้นเขาก็ขอแอดเฟสบุ๊คมา ขอคุยด้วย ทักคุย เราก็ตอบๆไปงั้น เพราะใจเรารักแฟนคนเก่าอยู่ แต่สถานการณ์ตอนนั้นออกมาอยู่คนเดียว ตังค์ก็ไม่ค่อยมี เราก็เลยเออ เอาวะ อยากคุยก็ต้องเลี้ยงฉันหน่อยแล้วกัน
ค่าน้ำไฟ ค่าเช่าห้องที่เราอยู่ เชื่อไหมคะ เค้าโอนให้เราแบบที่ไม่คิดอะไรเลย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร หวังแค่อยากได้เงิน พอคุยๆไปสักพัก วันนึงเราก็บอกเค้าว่า หิว เค้าก็บอก มาหาพี่สิ เดี๋ยวพาไปกิน ใจเราสองแง่สองง่ามเลย จะไปดีไหม กลัวไม่ปลอดภัย เราก็บอกเค้าว่ามันไกลนะ เค้าโอนเงินมาให้เรานั่งรถไป ต่างจังหวัดอะค่ารถ5ร้อยกว่าบาท พอไปถึง พี่เขาก็ขับรถมอไซค์มารับเรา ให้เราเลือก ว่ากินอะไร ใจเรา แซลมอน กุ้ง ปู จัดเต็ม อยากเลี้ยงฉันนัก บิลมาเป็นพัน พี่เขาก็จ่าย หลังจากกินเสร็จเขาก็พาเราไปบ้านเค้า เราก็กลัวมากๆ พาไปบ้านเลยหรอ ก็ยอมไป ฝืนไปมากๆ เขาไม่ทำอะไรเราเลย เขาพาเราขับมอไซไป ส่งของ ใจเราก็กลัว แต่เราก็ไป เขาขายของได้เท่าไหร่ เขาให้เงินเราหมด แล้วก็มาส่งเราขึ้นรถกลับกรุงเทพ จากนั้นเราได้งานที่คอนโดที่นึง เราก็ไปทำ ก็ยังคุยกันทุกวัน คุยทุกๆวัน เขาโอนเงินค่ารถไปกลับให้เรา ไปหาเขาวันนึงเป็นพัน เป็นแบบนี้ทุกๆวัน จนเรารักเขาไปเลยโดยที่ไม่รู้ตัว มีความสุขกันได้อยู่สามเดือน เรากลับมาทำธุระที่บ้านที่กรุงเทพ ก็กะว่าเดี๋ยวทำธุระอะไรเสร็จก็จะกลับไป ไม่ทิ้งเขาแน่นอน ช่วงนั้นโควิดเริ่มแรงมากๆ ช่วงเคอร์ฟิวด้วย วันที่31 กรกฎาคม2564 ตี4หมดเคอร์ฟิว เราก็นั่งรถไปหาเขา เพราะเค้าบอกคิดถึงมากๆ รอไม่ไหวแล้ว เราก็ไป แต่เราไปได้แค่วันเดียว เพราะต้องกลับมาทำธุระที่บ้านให้เสร็จ เราไป เราใช้เวลาอยู่กับเขาทั้งวัน บ่ายๆเขาออกไปซื้อ เหลากุ้งสดที่เราชอบ พร้อมไอติมกะทิยกก้อนที่เราชอบมาให้ เรานั่งกินด้วยกันมีความสุขมาก ก่อนเรากลับ เขาหยิบพระองค์นึงมาให้เรา หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ เขาพูดกับเราประโยคนึงว่า ถ้าวันนึงไม่ต้องการแล้ว ให้เอากลับมาไว้ที่เดิม แต่เราไม่คิดอะไร เขาก็ส่งเราขึ้นรถกลับบ้าน ตกค่ำวันนั้น เขาพิมบอกเราว่าเขารู้สึกปวดตัว ปวดหัว เราก็คิดในใจแล้ว ว่า ติดโควิดแน่ๆ เราก็โพสหาที่ตรวจโควิดในกลุ่มแถวบ้านเขา ให้แม่เขาขี่รถมาเอา เขาก็ตรวจ จนพบว่าขึ้นสองขึด ใจเราไม่คิดอะไร คิดว่าติด เดี๋ยวก็หายแน่ ให้เขากินยา กินฟ้าทะลายโจร ให้ลูกสาวเขา เอาน้ำ เอาข้าว เอายาให้กิน พอวันที่1สค2564 เราก็รู้สึกเป็นไข้ ปวดหัว ใจเราก็คิดว่ายังไงก็ติด แล้วตรวจก็ติดจริงๆ ใจนึงคิดว่า จะนั่งรถไปอยู่กับเขาดีไหม แต่แม่เราบอกไม่ต้องไป ให้รักษาให้หาย ฝั่งเขาก็เดี๋ยวหาย เราก็ได้แต่พิมๆคุยกับเขา วันที่2-3 เขาก็เริ่มไม่รับสาย ไม่ตอบแชทเรา แต่เขาโชคดี ที่แม่เขาเป็น อสม หมู่บ้าน หาศูนย์พักคอยโควิดได้เร็ว วันที่3สค2564 เขาก็พิมมาบอกว่า เราไปแล้วนะ เราก็ดีใจมากๆ ที่เขาได้ที่รักษาแล้ว แต่หลังจากประโยคนั้นเชื่อไหมคะ เขาไม่ตอบเราอีกเลย เราก็ได้แต่พิมส่งๆๆๆๆๆไปทุกวัน คิดว่าเขาคงอยากนอน อยากพัก เราก็ไม่คิดอะไร แต่เป็นห่วง วันที่4สค2564 เราได้โรงแรมที่พักสำหรับผู้ป่วยโควิด เราก็ไปรักษา เราก็อยู่ที่โรงแรม พิมหาเขาทุกวันเช้ากลางวันเย็นแทบตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ตอบเลย ไม่อ่านเลย จนวันที่6สิงหาคม แม่เขาโทรมาบอกเราว่า ตอนนี้เขาอาการหนัก ต้องย้ายจากศูนย์พักคอยไปโรงพยาบาลจังหวัด เราก็ดีใจภาวนาว่าเขาได้เข้าโรงพยาบาล ได้รับการรักษาแบบเต็มที่ เดี๋ยวก็หาย ก็ยังพิมหาเขาทั้งวันทั้งคืน วันที่7สิงหาคม ช่วงสัก4โมง เราเผลอหลับไป ไม่นาน 5โมงเราตื่นขึ้นมา พบกับข้อความ ที่เขียนว่า ”เรายังอยู่เธอก็ต้องอยู่ที่รัก” เราดีใจมากที่เขาตอบได้แล้ว เราก็รีบพิมๆๆๆๆกลับไป แต่เขาไม่อ่านไม่ตอบเลย จนวันที่8สิงหาคมตอนเช้า ลูกสาวเขาโทรมาบอกว่า พ่อไม่ไหวแล้ว หมอเช็คทุกอย่างตอนนี้ต่ำหมดเลย ใจเราเครียดมาก เราทำไรไม่ถูก จะออกไปจากโรงแรมการรักษานี้เลยดีไหม ตัดสินใจพึ่งทางสุดท้าย โทรหาแม่เรา ให้ไปทำบุญให้เขาหน่อย เหมือนต่อดวงชะตา แม่เราถ่ายรูปเขียนชื่อทำบุญเสร็จ ลูกสาวเขาโทรมาบอกว่า พี่ พ่อไปแล้วนะ หลังจากนั้นมันบ้า มันร้องไห้ มันไม่ไหวเลย จะออกไปก็ไม่ได้ พรุ่งนี้สรุปคือต้องเผาทันที ไม่สามารถจัดงานได้ คือมันทำอะไรไม่ได้เลย
อีกไม่กี่วันเราหาย เราก็ได้ออกจากโรงแรม แต่ละวันผ่านไป นอนไม่เคยหลับเลยค่ะ กว่าจะได้นอนคือรอฟ้าส่าง ใจลอย ใจคือรู้เลยว่ามันอ่อนแอมากๆ อยู่บ้านจนสามเดือน ครบ100วัน ไปบ้านเขาอีกครั้ง เพื่อทำบุญกับครอบครัวเขา และเอากระดูกเขาไปลอย หลังจากนั้นมันไม่ชินเลยค่ะ จากที่มีเขา มันต้องทำไรคนเดียว ทุกสิ่งทุกอย่าง มันต้องคนเดียวหมดเลย
จนตอนนี้ผ่านไปจะ4ปีแล้วค่ะ เรากลับมาคบกับแฟนคนที่เลิกไป เวลาที่เราเบื่อๆ เหงาๆ อยู่ในโหมดตัวเอง จะนั่งย้อนดูคลิปที่เคยถ่ายกับพี่เขา นั่งอ่านแชทที่เคนคุยกัน แล้วมันคิดถึงเขาตลอดเวลาเลย
คำถามที่อยากถามคือ
อายุ18ปี ให้ลืมยังไงมันก็ไม่ลืม มันเหมือนเป็นแผลที่จะต้องติดตัวไปจนตายเลยค่ะ
กับถ้าย้อนกลับไปได้ ถ้าตอนนั้นที่เราติดโควิดด้วย เราเลือกที่จะไปหาเขา ไปรักษาอยู่ในห้องกันสองคน ตอนนี้เขาอาจจะยังมีสิทธิ์รอดรึเปล่า
ทุกคำถาม มันวนอยู่ในหัวนี้ตลอด4ปี มันฝังใจติดตัวมากๆเลยค่ะ ทำไมถึงต้องมาเจอการสูญเสียในวัยแค่นี้ อยู่กับพี่เขามาทั้งหมด 3เดือน มันเป็นอะไรที่สั้นมากๆ แต่ความรัก ความรู้สึกมันยาวนานเหลือเกินค่ะ เขาเสียชีวิตจากไอโรคบ้าๆนี่ซึ่งมันไม่ควรเสียชีวิตด้วยซ้ำ คนเราทำไมถึงตายง่ายเหลือเกิน
หนูไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่รู้ตัวเองว่าอีก10-20ปี ก็ยังวนคิดแบบนี้แน่เลย ใจตอนนี้คือแทบอยากไปบวชแล้วค่ะ
ช่วงนึงของชีวิต ติดตัวจนวันตาย
4ปีที่แล้ว เราอายุ18 ต้องไปอยู่หอพักมหาลัยที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นเรามีแฟนแต่เลิกกันไปแล้ว เราก็ไปเที่ยวแถวนั้นๆ ได้รู้จักกับรุ่นพี่ผู้หญิงอายุ40+ จนวันนึงรุ่นพี่ผู้หญิงโทรมาชวนไปกินเบียร์ที่ห้องเพื่อนเขา รุ่นพี่มารับเราพร้อมกับเพื่อนเขาคนนึงผู้ชาย (คือแฟนเราคนที่เสีย) เราก็ไป เพื่อนเขาคนนี้พึ่งออกมาจากคุก เราเจอเขาครั้งแรกเราไม่ชอบเลย แต่เรารู้เลยว่าพี่เขาสนใจเรามากๆ พอไปถึงห้องเพื่อนรุ่นพี่ เราได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น คือ ยาเสพติด เราก็ไม่ชิน อยากจะกลับ อยากจะออกจากตรงนั้นเลยทันที แต่ก็คิดในใจ คงไม่มีอะไรหรอก พี่ผู้ชาย(แฟนเราคนที่เสีย) ก็ชวนเราคุย เราก็ตอบ ถามว่าเราเกิดวันอะไร เราเกิด 16กันยายน พี่เขาก็บอกว่า เนื้อคู่ดิ เขาเกิด17กันยายน เราก็ไม่เชื่อ ไม่คิดอะไรเพราะ สภาพ+พี่งออกจากคุก+ยาเสพติด เราก็นอนเล่นอยู่มุมของเราไปจนเช้า เช้าพี่ผู้ชายกับรุ่นพี่เราก็ขับรถไปส่งเราที่ห้องเราก็ใช้ชีวิตปกติ จนผ่านไปสักระยะนึง2-3เดือน เรากลับมาอยู่บ้านที่กรุงเทพ ตัดสินใจไม่เรียนต่อ แต่ก็ทะเลาะกะที่บ้าน เลยตัดสินใจออกมาเช่าห้องอยู่คนเดียว วันๆนึงค่ะ มีเบอร์แปลกเข้ามา เราก็รับ
👨🏼ฮัลโหล
👩🏻ค่า ใครคะ
👨🏼จำได้ป่าวเนี่ย พี่x
เราก็ตกใจ ว่าเอาเบอร์เรามาจากไหน สงสัยขอจากรุ่นพี่ผู้หญิงเรา เราก็คุยกันไปในสาย พี่เขาบอกว่า ตอนนี้เค้าอยู่กรุงเทพตรงนี้ๆ มาทำธุระ ขับรถมา เห็นป้าย พระราม3 นึกถึงหนู (เราก็คิดในใจถ้าเขาไม่ชอบไม่สนใจจริงๆเขาคงไม่จดจำอะไรแบบนี้) จากนั้นเขาก็ขอแอดเฟสบุ๊คมา ขอคุยด้วย ทักคุย เราก็ตอบๆไปงั้น เพราะใจเรารักแฟนคนเก่าอยู่ แต่สถานการณ์ตอนนั้นออกมาอยู่คนเดียว ตังค์ก็ไม่ค่อยมี เราก็เลยเออ เอาวะ อยากคุยก็ต้องเลี้ยงฉันหน่อยแล้วกัน
ค่าน้ำไฟ ค่าเช่าห้องที่เราอยู่ เชื่อไหมคะ เค้าโอนให้เราแบบที่ไม่คิดอะไรเลย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร หวังแค่อยากได้เงิน พอคุยๆไปสักพัก วันนึงเราก็บอกเค้าว่า หิว เค้าก็บอก มาหาพี่สิ เดี๋ยวพาไปกิน ใจเราสองแง่สองง่ามเลย จะไปดีไหม กลัวไม่ปลอดภัย เราก็บอกเค้าว่ามันไกลนะ เค้าโอนเงินมาให้เรานั่งรถไป ต่างจังหวัดอะค่ารถ5ร้อยกว่าบาท พอไปถึง พี่เขาก็ขับรถมอไซค์มารับเรา ให้เราเลือก ว่ากินอะไร ใจเรา แซลมอน กุ้ง ปู จัดเต็ม อยากเลี้ยงฉันนัก บิลมาเป็นพัน พี่เขาก็จ่าย หลังจากกินเสร็จเขาก็พาเราไปบ้านเค้า เราก็กลัวมากๆ พาไปบ้านเลยหรอ ก็ยอมไป ฝืนไปมากๆ เขาไม่ทำอะไรเราเลย เขาพาเราขับมอไซไป ส่งของ ใจเราก็กลัว แต่เราก็ไป เขาขายของได้เท่าไหร่ เขาให้เงินเราหมด แล้วก็มาส่งเราขึ้นรถกลับกรุงเทพ จากนั้นเราได้งานที่คอนโดที่นึง เราก็ไปทำ ก็ยังคุยกันทุกวัน คุยทุกๆวัน เขาโอนเงินค่ารถไปกลับให้เรา ไปหาเขาวันนึงเป็นพัน เป็นแบบนี้ทุกๆวัน จนเรารักเขาไปเลยโดยที่ไม่รู้ตัว มีความสุขกันได้อยู่สามเดือน เรากลับมาทำธุระที่บ้านที่กรุงเทพ ก็กะว่าเดี๋ยวทำธุระอะไรเสร็จก็จะกลับไป ไม่ทิ้งเขาแน่นอน ช่วงนั้นโควิดเริ่มแรงมากๆ ช่วงเคอร์ฟิวด้วย วันที่31 กรกฎาคม2564 ตี4หมดเคอร์ฟิว เราก็นั่งรถไปหาเขา เพราะเค้าบอกคิดถึงมากๆ รอไม่ไหวแล้ว เราก็ไป แต่เราไปได้แค่วันเดียว เพราะต้องกลับมาทำธุระที่บ้านให้เสร็จ เราไป เราใช้เวลาอยู่กับเขาทั้งวัน บ่ายๆเขาออกไปซื้อ เหลากุ้งสดที่เราชอบ พร้อมไอติมกะทิยกก้อนที่เราชอบมาให้ เรานั่งกินด้วยกันมีความสุขมาก ก่อนเรากลับ เขาหยิบพระองค์นึงมาให้เรา หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ เขาพูดกับเราประโยคนึงว่า ถ้าวันนึงไม่ต้องการแล้ว ให้เอากลับมาไว้ที่เดิม แต่เราไม่คิดอะไร เขาก็ส่งเราขึ้นรถกลับบ้าน ตกค่ำวันนั้น เขาพิมบอกเราว่าเขารู้สึกปวดตัว ปวดหัว เราก็คิดในใจแล้ว ว่า ติดโควิดแน่ๆ เราก็โพสหาที่ตรวจโควิดในกลุ่มแถวบ้านเขา ให้แม่เขาขี่รถมาเอา เขาก็ตรวจ จนพบว่าขึ้นสองขึด ใจเราไม่คิดอะไร คิดว่าติด เดี๋ยวก็หายแน่ ให้เขากินยา กินฟ้าทะลายโจร ให้ลูกสาวเขา เอาน้ำ เอาข้าว เอายาให้กิน พอวันที่1สค2564 เราก็รู้สึกเป็นไข้ ปวดหัว ใจเราก็คิดว่ายังไงก็ติด แล้วตรวจก็ติดจริงๆ ใจนึงคิดว่า จะนั่งรถไปอยู่กับเขาดีไหม แต่แม่เราบอกไม่ต้องไป ให้รักษาให้หาย ฝั่งเขาก็เดี๋ยวหาย เราก็ได้แต่พิมๆคุยกับเขา วันที่2-3 เขาก็เริ่มไม่รับสาย ไม่ตอบแชทเรา แต่เขาโชคดี ที่แม่เขาเป็น อสม หมู่บ้าน หาศูนย์พักคอยโควิดได้เร็ว วันที่3สค2564 เขาก็พิมมาบอกว่า เราไปแล้วนะ เราก็ดีใจมากๆ ที่เขาได้ที่รักษาแล้ว แต่หลังจากประโยคนั้นเชื่อไหมคะ เขาไม่ตอบเราอีกเลย เราก็ได้แต่พิมส่งๆๆๆๆๆไปทุกวัน คิดว่าเขาคงอยากนอน อยากพัก เราก็ไม่คิดอะไร แต่เป็นห่วง วันที่4สค2564 เราได้โรงแรมที่พักสำหรับผู้ป่วยโควิด เราก็ไปรักษา เราก็อยู่ที่โรงแรม พิมหาเขาทุกวันเช้ากลางวันเย็นแทบตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ตอบเลย ไม่อ่านเลย จนวันที่6สิงหาคม แม่เขาโทรมาบอกเราว่า ตอนนี้เขาอาการหนัก ต้องย้ายจากศูนย์พักคอยไปโรงพยาบาลจังหวัด เราก็ดีใจภาวนาว่าเขาได้เข้าโรงพยาบาล ได้รับการรักษาแบบเต็มที่ เดี๋ยวก็หาย ก็ยังพิมหาเขาทั้งวันทั้งคืน วันที่7สิงหาคม ช่วงสัก4โมง เราเผลอหลับไป ไม่นาน 5โมงเราตื่นขึ้นมา พบกับข้อความ ที่เขียนว่า ”เรายังอยู่เธอก็ต้องอยู่ที่รัก” เราดีใจมากที่เขาตอบได้แล้ว เราก็รีบพิมๆๆๆๆกลับไป แต่เขาไม่อ่านไม่ตอบเลย จนวันที่8สิงหาคมตอนเช้า ลูกสาวเขาโทรมาบอกว่า พ่อไม่ไหวแล้ว หมอเช็คทุกอย่างตอนนี้ต่ำหมดเลย ใจเราเครียดมาก เราทำไรไม่ถูก จะออกไปจากโรงแรมการรักษานี้เลยดีไหม ตัดสินใจพึ่งทางสุดท้าย โทรหาแม่เรา ให้ไปทำบุญให้เขาหน่อย เหมือนต่อดวงชะตา แม่เราถ่ายรูปเขียนชื่อทำบุญเสร็จ ลูกสาวเขาโทรมาบอกว่า พี่ พ่อไปแล้วนะ หลังจากนั้นมันบ้า มันร้องไห้ มันไม่ไหวเลย จะออกไปก็ไม่ได้ พรุ่งนี้สรุปคือต้องเผาทันที ไม่สามารถจัดงานได้ คือมันทำอะไรไม่ได้เลย
อีกไม่กี่วันเราหาย เราก็ได้ออกจากโรงแรม แต่ละวันผ่านไป นอนไม่เคยหลับเลยค่ะ กว่าจะได้นอนคือรอฟ้าส่าง ใจลอย ใจคือรู้เลยว่ามันอ่อนแอมากๆ อยู่บ้านจนสามเดือน ครบ100วัน ไปบ้านเขาอีกครั้ง เพื่อทำบุญกับครอบครัวเขา และเอากระดูกเขาไปลอย หลังจากนั้นมันไม่ชินเลยค่ะ จากที่มีเขา มันต้องทำไรคนเดียว ทุกสิ่งทุกอย่าง มันต้องคนเดียวหมดเลย
จนตอนนี้ผ่านไปจะ4ปีแล้วค่ะ เรากลับมาคบกับแฟนคนที่เลิกไป เวลาที่เราเบื่อๆ เหงาๆ อยู่ในโหมดตัวเอง จะนั่งย้อนดูคลิปที่เคยถ่ายกับพี่เขา นั่งอ่านแชทที่เคนคุยกัน แล้วมันคิดถึงเขาตลอดเวลาเลย
คำถามที่อยากถามคือ
อายุ18ปี ให้ลืมยังไงมันก็ไม่ลืม มันเหมือนเป็นแผลที่จะต้องติดตัวไปจนตายเลยค่ะ
กับถ้าย้อนกลับไปได้ ถ้าตอนนั้นที่เราติดโควิดด้วย เราเลือกที่จะไปหาเขา ไปรักษาอยู่ในห้องกันสองคน ตอนนี้เขาอาจจะยังมีสิทธิ์รอดรึเปล่า
ทุกคำถาม มันวนอยู่ในหัวนี้ตลอด4ปี มันฝังใจติดตัวมากๆเลยค่ะ ทำไมถึงต้องมาเจอการสูญเสียในวัยแค่นี้ อยู่กับพี่เขามาทั้งหมด 3เดือน มันเป็นอะไรที่สั้นมากๆ แต่ความรัก ความรู้สึกมันยาวนานเหลือเกินค่ะ เขาเสียชีวิตจากไอโรคบ้าๆนี่ซึ่งมันไม่ควรเสียชีวิตด้วยซ้ำ คนเราทำไมถึงตายง่ายเหลือเกิน
หนูไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่รู้ตัวเองว่าอีก10-20ปี ก็ยังวนคิดแบบนี้แน่เลย ใจตอนนี้คือแทบอยากไปบวชแล้วค่ะ