เรื่องย่อ
"The Platform 2" (หรือในชื่อสเปน "El hoyo 2") เป็นภาคต่อที่เล่าเรื่องราว PREQUEL (เหตุการณ์ที่เกิดก่อนภาคแรก) ของ "The Platform" ภาพยนตร์ระทึกขวัญไซไฟสัญชาติสเปนที่เคยสร้างความฮือฮาบน Netflix เรื่องราวกลับไปยัง "หลุม" คุกแนวตั้งสุดสยอง ที่นักโทษในแต่ละชั้นจะได้รับอาหารผ่านแท่นที่เลื่อนลงมาจากด้านบน โดยผู้ที่อยู่ชั้นบนจะได้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ ในขณะที่ผู้ที่อยู่ชั้นล่างลงไปจะต้องพึ่งพาเศษอาหารที่เหลือจากชั้นบนๆ เท่านั้น ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง ความเห็นแก่ตัว และการเอาตัวรอดที่ไร้มนุษยธรรม
ในภาคนี้ เราจะได้ติดตามตัวละครใหม่คือ เปเรมปวน (Perempuán) และคู่หูของเธอ ที่ต้องเผชิญหน้ากับกฎและระบบอันโหดร้ายภายในหลุมนี้ พวกเขาได้พบกับ ทรีมากาซี (Trimagasi) ตัวละครที่เราคุ้นเคยจากภาคแรกในช่วงเวลาที่เขายังเป็นนักโทษหน้าใหม่ในหลุมนี้ ท่ามกลางความอลวนและการต่อสู้เพื่ออาหารและชีวิต เปเรมปวนและพวกต้องค้นหาหนทางเอาชีวิตรอดและทำความเข้าใจกับกลไกอันบิดเบี้ยวของคุกแห่งนี้ ซึ่งในภาคนี้จะมีการนำเสนอแง่มุมและยุคสมัยที่แตกต่างออกไปในประวัติศาสตร์ของ "หลุม" เผยให้เห็นถึงการพยายามสร้างระบบระเบียบแบบใหม่ภายในกลุ่มนักโทษ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงจรเดิมๆ ของการกดขี่และการดิ้นรน
ความรู้สึกหลังรับชม
หลังจากที่ภาคแรกสร้างมาตรฐานและประเด็นทางสังคมที่น่าขบคิดไว้สูงมาก "The Platform 2" ก็ยังคงนำเสนอประเด็นเสียดสีสังคมเกี่ยวกับการแบ่งชนชั้น ทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียม และธรรมชาติของมนุษย์ได้น่าสนใจ ตัวภาพยนตร์ยังคงรักษาบรรยากาศที่อึดอัด กดดัน และชวนหดหู่ได้เป็นอย่างดี งานโปรดักชันยังคงทำได้ดีในการสร้างโลกภายใน "หลุม" ที่ดูสมจริงและน่าสะพรึงกลัว การแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ Milena Smit ในบท เปเรมปวน ก็เป็นจุดแข็งที่ทำให้เราเอาใจช่วยตัวละครนี้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับภาคแรก "The Platform 2" อาจจะไม่ได้ให้ความรู้สึกสดใหม่หรือสร้างแรงกระแทกได้เท่า การที่มันเป็นภาคก่อนทำให้เรารู้อยู่แล้วว่าท้ายที่สุดแล้ว "หลุม" ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น การนำเสนอระบบแบบใหม่ที่ตัวละครพยายามสร้างขึ้นก็น่าสนใจ แต่ก็ยังคงวนอยู่ในธีมเดิมๆ ที่ภาคแรกเคยนำเสนอไปแล้วอย่างเข้มข้น ในบางช่วงการเล่าเรื่องอาจจะดูยืดเยื้อไปบ้าง และการตีความสัญลักษณ์ต่างๆ อาจจะไม่ได้ซับซ้อนเท่าภาคแรก ทำให้ผู้ชมที่คาดหวังความแปลกใหม่หรือบทสรุปที่ชัดเจนอาจจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบประเด็นเสียดสีสังคมและต้องการทำความเข้าใจโลกของ "หลุม" ให้มากขึ้น ภาคนี้ก็ยังคงมีแง่มุมที่น่าติดตามอยู่
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 4.9/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 47% , คะแนนจากผู้ชม 28%
สรุป
"The Platform 2" เป็นภาคก่อนที่เจาะลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์และกลไกของคุกแนวตั้ง "หลุม" แม้จะไม่ได้สร้างความแปลกใหม่หรือแรงกระแทกได้เท่าภาคแรก แต่ก็ยังคงนำเสนอประเด็นเสียดสีสังคมได้อย่างน่าสนใจ ด้วยบรรยากาศที่กดดันและการแสดงที่ดีจากนักแสดงนำ เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบภาคแรกและต้องการสำรวจโลกอันโหดร้ายนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนวิจารณ์และคะแนนจากผู้ชมที่ค่อนข้างต่ำกว่าภาคแรก อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้ถูกใจผู้ชมในวงกว้างเท่าที่ควร.
The Platform 2: กลับสู่ขุมนรกแห่งการแบ่งชนชั้นที่ลึกยิ่งกว่าเดิม
เรื่องย่อ
"The Platform 2" (หรือในชื่อสเปน "El hoyo 2") เป็นภาคต่อที่เล่าเรื่องราว PREQUEL (เหตุการณ์ที่เกิดก่อนภาคแรก) ของ "The Platform" ภาพยนตร์ระทึกขวัญไซไฟสัญชาติสเปนที่เคยสร้างความฮือฮาบน Netflix เรื่องราวกลับไปยัง "หลุม" คุกแนวตั้งสุดสยอง ที่นักโทษในแต่ละชั้นจะได้รับอาหารผ่านแท่นที่เลื่อนลงมาจากด้านบน โดยผู้ที่อยู่ชั้นบนจะได้กินอย่างอิ่มหนำสำราญ ในขณะที่ผู้ที่อยู่ชั้นล่างลงไปจะต้องพึ่งพาเศษอาหารที่เหลือจากชั้นบนๆ เท่านั้น ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง ความเห็นแก่ตัว และการเอาตัวรอดที่ไร้มนุษยธรรม
ในภาคนี้ เราจะได้ติดตามตัวละครใหม่คือ เปเรมปวน (Perempuán) และคู่หูของเธอ ที่ต้องเผชิญหน้ากับกฎและระบบอันโหดร้ายภายในหลุมนี้ พวกเขาได้พบกับ ทรีมากาซี (Trimagasi) ตัวละครที่เราคุ้นเคยจากภาคแรกในช่วงเวลาที่เขายังเป็นนักโทษหน้าใหม่ในหลุมนี้ ท่ามกลางความอลวนและการต่อสู้เพื่ออาหารและชีวิต เปเรมปวนและพวกต้องค้นหาหนทางเอาชีวิตรอดและทำความเข้าใจกับกลไกอันบิดเบี้ยวของคุกแห่งนี้ ซึ่งในภาคนี้จะมีการนำเสนอแง่มุมและยุคสมัยที่แตกต่างออกไปในประวัติศาสตร์ของ "หลุม" เผยให้เห็นถึงการพยายามสร้างระบบระเบียบแบบใหม่ภายในกลุ่มนักโทษ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงจรเดิมๆ ของการกดขี่และการดิ้นรน
ความรู้สึกหลังรับชม
หลังจากที่ภาคแรกสร้างมาตรฐานและประเด็นทางสังคมที่น่าขบคิดไว้สูงมาก "The Platform 2" ก็ยังคงนำเสนอประเด็นเสียดสีสังคมเกี่ยวกับการแบ่งชนชั้น ทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียม และธรรมชาติของมนุษย์ได้น่าสนใจ ตัวภาพยนตร์ยังคงรักษาบรรยากาศที่อึดอัด กดดัน และชวนหดหู่ได้เป็นอย่างดี งานโปรดักชันยังคงทำได้ดีในการสร้างโลกภายใน "หลุม" ที่ดูสมจริงและน่าสะพรึงกลัว การแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ Milena Smit ในบท เปเรมปวน ก็เป็นจุดแข็งที่ทำให้เราเอาใจช่วยตัวละครนี้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับภาคแรก "The Platform 2" อาจจะไม่ได้ให้ความรู้สึกสดใหม่หรือสร้างแรงกระแทกได้เท่า การที่มันเป็นภาคก่อนทำให้เรารู้อยู่แล้วว่าท้ายที่สุดแล้ว "หลุม" ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น การนำเสนอระบบแบบใหม่ที่ตัวละครพยายามสร้างขึ้นก็น่าสนใจ แต่ก็ยังคงวนอยู่ในธีมเดิมๆ ที่ภาคแรกเคยนำเสนอไปแล้วอย่างเข้มข้น ในบางช่วงการเล่าเรื่องอาจจะดูยืดเยื้อไปบ้าง และการตีความสัญลักษณ์ต่างๆ อาจจะไม่ได้ซับซ้อนเท่าภาคแรก ทำให้ผู้ชมที่คาดหวังความแปลกใหม่หรือบทสรุปที่ชัดเจนอาจจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบประเด็นเสียดสีสังคมและต้องการทำความเข้าใจโลกของ "หลุม" ให้มากขึ้น ภาคนี้ก็ยังคงมีแง่มุมที่น่าติดตามอยู่
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 4.9/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 47% , คะแนนจากผู้ชม 28%
สรุป
"The Platform 2" เป็นภาคก่อนที่เจาะลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์และกลไกของคุกแนวตั้ง "หลุม" แม้จะไม่ได้สร้างความแปลกใหม่หรือแรงกระแทกได้เท่าภาคแรก แต่ก็ยังคงนำเสนอประเด็นเสียดสีสังคมได้อย่างน่าสนใจ ด้วยบรรยากาศที่กดดันและการแสดงที่ดีจากนักแสดงนำ เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบภาคแรกและต้องการสำรวจโลกอันโหดร้ายนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนวิจารณ์และคะแนนจากผู้ชมที่ค่อนข้างต่ำกว่าภาคแรก อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้ถูกใจผู้ชมในวงกว้างเท่าที่ควร.